“อนุทิน” ชี้ ตั้งวงเล่นการพนันในรพ.สนาม ออกมาก็ไปเข้าคุก ยัน เตียงผู้ป่วยยังพอแต่บุคลากรจำกัด

เมื่อเวลา 12.40 น. วันที่ 16 เมษายน ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการรวมกลุ่มเล่นการพนันในโรงพยาบาลสนาม ว่า ยังไม่ได้รับรายงาน คงไม่มีถึงขนาดนั้น ผู้ป่วยในโรงพยาบาลสนามทุกคนถือเป็นผู้ป่วยจะไม่มีการแพร่เชื้อกันเพิ่มขึ้น แต่ถ้ามีการตั้งวงเล่นการพนันกันก็คงต้องออกจากโรงพยาบาลสนามไปเข้าคุก เรื่องนี้ผู้รับผิดชอบในโรงพยาบาลสนามต้องไปดูแล แต่หากเป็นการเล่นเพื่อผ่อนคลายไม่ใช่การพนัน เป็นการคลายเครียดเล่นดีดนิ้ว ไม่ได้แพร่กระจายเชื้อก็โอเค

นายอนุทิน กล่าวว่า ตามวงรอบของการแพร่เชื้อจะอยู่ที่ 2 สัปดาห์ ขอให้เราอึดกันอีก 2 สัปดาห์มันต้องดีขึ้น แม้อาจจะไม่เป็นศูนย์ แต่เมื่อมีมาตรการมา 2 สัปดาห์นี้ตัวเลขจะลดลง ดังนั้น 2 สัปดาห์หลังจากนี้เราคิดว่าน่าจะตัดวงจรได้ระดับหนึ่ง แต่ถ้าเข้มสุดๆก็กังวลว่าประชาชนจะเดือดร้อน ตนพยายามทำในระดับที่ระบบสาธารณสุขยอมรับได้ และเมื่อได้รับความร่วมมือจากประชาชนจะสามารถประดับประคองสถานการณ์เข้าสู่สภาวะปกติได้ สำหรับเตียงพยาบาลนั้นยืนยันว่ามีเพียงพอ แต่ขอความร่วมมือประชาชนว่าแม้เตียงจะเพียงพอแต่บุคคลากรทางการแพทย์มีเท่านี้ เมื่อใช้มาตรการที่เข้มข้นอยู่ในช่วงนี้หวังว่าประชาชนจะให้ความร่วมมือป้องกันตัวเอง จำนวนผู้ป่วยแต่ละวันใน 1 สัปดาห์หลังจากนี้จะค่อยๆลดลงไป และเท่าที่ทราบกทม.ก็เตรียมโรงพยาบาลสนามไว้แล้ว ถ้าไม่ถึงขั้นจำเป็นมากๆเราอยู่ในระบบสาธารณสุขอยู่ในโรงพยาบาลจะดีกว่า แต่ถ้าไม่มีมาตรการอะไรเลยแบบนั้นจะไม่พอ จำเป็นต้องใช้โรงพยาบาลสนาม และต้องเน้นการรักษาที่บ้าน ซึ่งไม่อยากให้ไปถึงจุดนั้น

นายอนุทิน กล่าวว่า ยืนยันตอนนี้ยังดูแลไหวอยู่ ก็อยากให้ทุกคนได้รับการดูแลจากแพทย์อย่างเต็มที่ แต่ก็ยอมรับว่าการเข้ารักษาตัวของประชาชนตอนนี้ยากกว่าเดิมเพราะตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงกว่าก่อนหน้านี้ ตอนนี้ถ้าใครเป็นก็ขอว่าให้กักตัวอยู่ในบ้านและเว้นระยะห่างกันที่สุด หน้ากากอนามัยต้องไม่หลุด ระบบก็จะไล่ส่งรถไปรับให้ทุกคนมารักษาพยาบาล และตอนนี้ก็เริ่มมีการให้ผู้ป่วยที่มีรถส่วนตัวให้เข้ามาที่โรงพยาบาลเพื่อเข้ารับการรักษา เป็นการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

นายอนุทิน กล่าวว่า สำหรับแผนการกระจายวัคซีนที่เพิ่งได้รับมา 1 ล้านโดสเมื่อวันที่ 10 เมษายนจะเน้นกระจายไปที่บุคลากรทางการแพทย์ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ และยืนยันเราไม่ปิดกั้นการจัดหาวัคซีน พร้อมให้ทุกฝ่ายดำเนินการ