สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะพูดถึงความคิดสร้างสรรค์ในสังคมปัจจุบัน ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นที่ปัจจัยสำคัญในการพัฒนาส่งผลให้คนได้พัฒนาวิธีคิด ทั้งความคิดที่เป็นเหตุผล คิดวิเคราะห์ วิจารณ์ คิดสร้างสรรค์ ยิ่งในโลกออนไลน์ใครที่มีความความคิดสร้างสรรค์ ก็สามารถหารายได้ได้ง่ายขึ้น ด้วยช่องทางต่าง ๆ เพราะฉะนั้นสอนสร้างที่ให้นักเรียนมีความคิดสร้างสรรค์จึงเป็นหน้าที่บทบาทใหม่ของคุณครู แต่การสอนวิทยาศาสตร์ในรูปแบบเดิม คือการสอนที่เน้นครูเป็นผู้บรรยาย และนักเรียนเป็นผู้จดตามที่ครูสอน นักเรียนไม่ได้ฝึกการคิด และลงมือเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาด้วยตนเอง ซึ่งการสอนรูปแบบเดิมนั้นไม่อาจส่งผลให้นักเรียนพัฒนาความสร้างสรรค์ได้ โดยทักษะความคิดสร้างสรรค์ คือกระบวนการคิดได้หลายรูปแบบ ไม่จำกัดรูปแบบความคิด สามารถคิดนอกกรอบการกฎเกณฑ์ที่ตั้งไว้ แต่นักเรียนต้องอธิบายเหตุผลในทุกขั้นตอน โดยนำความรู้เดิมผสมกับความรู้ใหม่ที่ได้จากการเรียนรู้ มาแก้ไขปัญหาในรูปแบบใหม่เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น ตามที่เราต้องการจนสามารถนำไปสู่การสร้างนวัตกรรมได้ ด้านความคิดสร้างสรรค์แบบเอกนัย สามารถแบ่งออกเป็น 4 ด้าน ได้แก่ 1.การคิดคล่อง 2.การคิดยืดหยุ่น 3.การคิดคิดริเริ่ม และ 4.การคิดละเอียดละออ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ (Activities)ให้นักเรียนแบ่งกลุ่มละ 4-5 คน ตามความสมัครใจของนักเรียนขั้นที่ 1 สร้างความสนใจ 1. ครูตั้งประเด็นคำถาม เกี่ยวกับโครโมโซม ยีน และดีเอ็นเอ ดังนี้ – เราพบโครโมโซมที่บริเวณใดของเซลล์สิ่งมีชีวิต (นิวเคลียส) 2. นักเรียนตอบคำถาม เพื่อเชื่อมโยงไปสู่การเรียนรู้เรื่อง โครโมโซมในสิ่งมีชีวิตขั้นที่ 2 สำรวจและค้นหา ครูแจกกระดาษให้นักเรียนแต่ละกลุ่ม จากนั้นครูกำหนดสถานการณ์ “นายดำแต่งงานกับนางแดงงานกัน ต่อมีให้กำเนิดเด็กทารกคนหนึ่ง” จากข้อมูลให้นักเรียนตอบคำถามต่อไปนี้- ให้นักเรียนบอกลักษณะที่นายดำกับนางแดงสามารถถ่ายทอดสู่ทารกมาให้ได้มากที่สุด โดยให้เวลา 3 นาที ในการเขียนลงในกระดาษ (1 คำตอบต่อ 1 กระดาษ) 2. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มสรุปว่านักเรียนได้จำนวนทั้งหมดกี่คำตอบ และให้นักเรียนช่วยกันวิเคราะห์ว่าคำตอบที่กล่าวมาเป็นลักษณะที่สามารถถ่ายทอดจากพ่อแม่สู่ลูกได้หรือไม่ (ความคิดคล่อง)3. จากคำตอบข้อที่ 1 ครูให้นักเรียนนำคำตอบมาจัดกลุ่มให้อยู่ในหมวดหมู่เดียวกัน โดยให้เวลา 3 นาที จากนั้นให้นักเรียนแต่ละกลุ่มอธิบายเหตุผลในการจัดหมวดหมู่เดียวกัน (ความคิดยืดหยุ่น) (ความคิดละเอียดละออ)4. ครูอธิบายถึงลักษณะทางพันธุกรรมที่ถ่ายทอดจากพ่อแม่สู่ลูกหลาน โดยครูตั้งคำถามเพื่อให้นักเรียนมีความเข้าใจตรงกัน ดังนี้.- ยีนและโครโมโซมในสิ่งมีชีวิตมีความสำคัญอย่างไร- โครโมโซม ยีน และดีเอ็นเอมีความสัมพันธ์อย่างไร- โครโมโซมของสิ่งมีชีวิตมีลักษณะอย่างไรและสิ่งมีชีวิตแต่ละชนิดมีจำนวนโครโมโซมเท่าใด ขั้นที่ 3 อธิบายและลงข้อสรุป 1. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันสืบค้นโครงสร้างพื้นฐานของโครโมโซม และให้นักเรียนออกแบบจำลองโครโมโซมโดยระบุวัสดุที่ต้องใช้2. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มสร้างออกแบบจำลองโครโมโซม พร้อมระบุโครงสร้างของแบบจำลอง จากนั้นให้นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนมานำเสนอแบบจำลองหน้าชั้นเรียน (ความคิดริเริ่ม)ขั้นที่ 4 ขยายความรู้ 1. นักเรียนดูภาพรูปร่างของยีน ดีเอ็นเอและโครโมโซม จาก power point และร่วมกันอภิปรายถึงรูปร่างของยีน ดีเอ็นและโครโมโซมในสิ่งมีชีวิต ซึ่งสามารถแบ่งออกได้หลายชนิด หรือความรู้เพิ่มเติมที่นักเรียนสืบค้นได้ นักเรียนเล่าราะละเอียดให้เพื่อนๆ ฟัง5) ขั้นประเมิน(evaluation)1. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามข้อสงสัยเพิ่มเติม ครูให้คำอธิบายเพื่อตอบคำถาม เกณฑ์การประเมิน จากการจัดการเรียนรู้ เราสามารถวัดความคิดสร้างสรรค์ได้ 4 ด้าน โดยนักเรียนแต่ละกลุ่มมีความคิดที่หลากหลาย เช่นคำถามข้อที่ 1 วัดการคิดคล่อง โดยให้นักเรียนตอบลักษณะสามารถถ่ายทอดให้ได้มากที่สุด นักเรียนสามารถปรึกษากันภายในกลุ่มและเขียนข้อมูลได้เยอะมาก แต่ในด้านความคิดยีดหยุ่นและด้านความคิดละเอียดละออ คุณครูให้นักเรียนจัดกลุ่ม นักเรียนสามารถจัดกลุ่มได้หลากหลาย โดยไม่ได้อ้างอิงจากวิทยาศาสตร์ก็ได้ เช่น แบ่งกลุ่มโดยให้ภาษาไทยเสียงสูง เสียงกลาง เสียงต่ำ หรือแบ่งตามคำเป็นคำตาย คุณครูสามารถบูรณาการร่วมกับสาระอื่น ๆ ได้เช่นกัน สามารถฝึกให้นักเรียนนำเสนอผลงาน และสร้างสรรค์ผลงานตามที่นักเรียนออกแบบ จากการจัดกิจกรรมเป็นการคิดนอกกรอบ ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว ไม่มีถูกหรือผิด ทำให้นักเรียนมีความสนุกตื่นเต้นกระตุ้นให้นักเรียนพร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ นอกกรอบตำราเรียนเสมอ ภาพปกทำเองจากเว็บไซต์ canva.comภาพประกอบทุกภาพ ทำเองจากเว็บไซต์ canva.comเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !