“ฟลูโรนา (Flurona)” ไข้หวัดใหญ่ผสมโควิด-19 อันตรายแค่ไหน อาการฟลูโรนา รุนแรงไหม
ในช่วงที่ผ่านมา ในต่างประเทศได้พบเชื้อโควิด-19 รูปแบบใหม่ที่ผสมกันระหว่าง โควิด-19 และไข้หวัดใหญ่ จนกลายเป็นเชื้อ “ฟลูโรนา (Flurona)” โควิดสายพันธุ์ใหม่ ที่ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคเรื้อรัง ควรฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ และวัคซีนป้องกันโควิด เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันต่อทั้ง 2 โรค
วันนี้ TrueID จึงพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ “ฟลูโรนา (Flurona)” เชื้อโควิด-19 รูปแบบใหม่ที่ผสมระหว่างเชื้อไวรัสโควิด-19 และไวรัสไข้หวัดใหญ่ จะอันตรายและมีอาการอย่างไรบ้าง เช็กที่นี่
ฟลูโรนา (Flurona) คืออะไร
ฟลูโรนา (Flurona) เป็นการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ (Influenza) และเชื้อไวรัสโคโรนา (Corona) หรือโควิด-19 เชื้อทั้งสอง เป็นไวรัสทั้งคู่ แต่เป็นไวรัสคนละตระกูลกัน และทั้งสองตระกูลทำให้เกิดอาการป่วยคล้ายๆ กัน ขณะนี้ยังไม่มีนัยสำคัญอะไรที่ทำให้ต้องวิตกกังวล และจากการเฝ้าระวังในประเทศไทยยังไม่พบผู้ติดเชื้อดังกล่าว
การที่คนหนึ่งคนติดเชื้อสองอย่าง โดยบังเอิญในเวลาเดียวกัน มีความเป็นไปได้ (Mixed Infection) แต่จะผสมพันธุ์กันจนเกิดเป็นไฮบริดไม่ได้ จึงไม่ต้องวิตกกังวล แต่ทั้งเชื้อไข้หวัดใหญ่ และเชื้อโควิด-19 แพร่กระจายจากทางเดินหายใจในลักษณะที่เป็นฝอยละอองเหมือนกัน
กลุ่มเสี่ยงติดเชื้อฟลูโรนา (Flurona)
- ผู้สูงอายุ
- ผู้มีโรคประจำตัวเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค
- หญิงตั้งครรภ์
อาการฟลูโรนา (Flurona)
- มีอาการทางเดินหายใจ เช่น เป็นหวัด คัดจมูก
- อ่อนเพลีย
- เป็นไข้ 89.4%
- ไอ 79.3%
- หายใจเหนื่อย 24.1%
- ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ 20.7%
กรณีคนที่มีอาการรุนแรงจะทำให้เกิดปอดอักเสบ และอาจเสียชีวิตจากระบบทางเดินหายใจล้มเหลว หรืออวัยวะต่างๆ ล้มเหลว
อาการของฟลูโรนาเท่าที่มีการรายงานในปัจจุบัน ยังไม่มีอะไรแตกต่างจากโควิดทั่วไป โอกาสติดเชื้อทั้ง 2 ตัวพร้อมกันยังมีค่อนข้างน้อย
ฟลูโรนา (Flurona) พบที่ไหนแล้วบ้าง
จำนวนผู้ป่วยที่พบยังมีจำนวนน้อย ขณะนี้มีข้อมูลรายงานการตรวจพบในอิสราเอล บราซิล ฮังการี ฟิลิปปินส์
ส่วนประเทศไทย กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ยืนยันยังไม่พบฟลูโรนาในประเทศไทย โดยเชื้อไข้หวัดใหญ่กับเชื้อโควิดผสมพันธุ์เกิดเป็นไฮบริดไม่ได้ ส่วนอาการของฟลูโรนายังไม่มีอะไรแตกต่างจากโควิด
วิธีป้องกันฟลูโรนา (Flurona)
การใส่หน้ากาก ล้างมือ รักษาระยะห่าง สามารถป้องกันทั้งสองโรคในเวลาเดียวกัน และถ้าจะสร้างภูมิคุ้มกัน ให้เกิดความปลอดภัยมากขึ้นควรฉีดวัคซีน
สำหรับวัคซีนไข้หวัดใหญ่แนะนำให้ฉีดในกลุ่มเปราะบาง ได้แก่ ผู้สูงอายุ กลุ่มผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรัง ซึ่งขณะนี้ สปสช.ได้เตรียมวัคซีนไข้หวัดใหญ่ประมาณ 6 ล้านโดส ให้กลุ่มเหล่านี้ ในขณะที่วัคซีนโควิด-19 จะฉีดให้ครอบคลุมคนในประเทศทั้งหมด
ทั้งนี้ การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ควรเว้นระยะจากวัคซีนโควิด 19 ห่างกัน 1-2 สัปดาห์ เพราะหากฉีดพร้อมกันสองอย่างอาจจะทำให้มีไข้ ปวดเมื่อยมากเกินไปและเมื่อเกิดอาการข้างเคียงก็จะไม่รู้ว่ามาจากวัคซีนตัวใด เพราะฉะนั้นถ้าฉีดวัคซีนโควิด 19 ผ่านไป 1-2 สัปดาห์ หากไม่มีอาการอะไรก็ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ต่อได้
ข้อมูลจาก กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ , THE STANDARD
--------------------
เกาะติดสถานการณ์โควิด-19 ทันความเคลื่อนไหว ได้ความรู้ที่ถูกต้อง ส่งตรงถึงมือคุณ
คลิกเลย!! >>> รู้ทันกันโควิด <<< หรือ กด *301*35# โทรออก
ทุกประเด็นร้อนข่าวสาร สาระ ทันเหตุการณ์ พูดคุยกันได้ 24 ชม.
คลิกเลย >>> TrueID Community <<<