ประชุมออนไลน์ เมื่อวันเสาร์ก่อนโน้น ผมกับคณะผู้วิจัยได้นักชดประชุมแล้วคุยรายละเอียดเริ่มโครงวิจัย โดยหัวใจสำคัญของวิจัยในครั้งนี้ คือ กฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา กฎหมายการแข่งขันทางการค้า ภายใต้ผู้ประกอบการ SMEs ซึ่ง กฎหมายตัวแรกถือเป็นสิ่งใหม่และท้าทายคนในยุคปัจจุบันมาก เพราะ กรรมสิทธิ์ 1. ก่อนหน้านี้ คนเราจะมักจะหวงกันสำหรับทรัพย์สินที่มีรูปร่างหรือไม่มีรูปร่างแล้วแต่กรณี ด้วยหลักกรรมสิทธิ์ก็ดี สิทธิครอบครองก็ดี คล้ายอันนั้นเป็นของเธอ อันนี้เป็นของฉัน มันคือความสัมพันธ์ในลักษณะ คน ต่อ ของดังที่ผมได้เคยเขียนบทความไว้เกี่ยวกับทรัพยสิทธิ - บุคคลสิทธิ https://cities.trueid.net/post/202076 เทคโนโลยี 2.ต่อมาเมื่อเทคโนโลยีเข้ามีบทบาทมากขึ้น มนุษย์ย่อมแสวงหาความสะดวกสบาย จึงทำให้เกิดช่องทางการหารายได้โดยใช้ความคิด ทำให้เกิด การแสวงหาประโยชน์จากความคิดขึ้น ทำให้เกิดผลิตผลโดยตรงจากการใช้ความคิดของมนุษย์ ได้แก่ ลิขสิทธิ์ สิทธิบัตร เครื่องหมายทางการค้า ความลับทางการค้า ฯ สุดท้ายมนุษย์เราก็จบกันด้วยเรื่องรายได้/ค่าตอบแทน 3.กฎหมายจึงต้องมีวิวัฒนการให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของโลกด้วย เพราะกฎหมายเดิม ที่ร่างมาเมื่อนานแรมปี น่าจะไม่ทันต่อสภาพสังคมที่ต่างออกไป ยกตัวอย่าง การลักทรัพย์ ตามกฎหมายอาญาเดิม จะครอบคลุมถึงการลักทรัพย์สินดิจิทัล หรือไม่? 4.ด้วยเหตุนี้ ประเทศไทยจึงต้องมีการประกาศใช้กฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา เพราะ 4.1 ทรัพย์สินทางปัญญาจะลักษณะเฉพาะกว่าทรัพย์สินธรรมดา โดยทรัพย์สินทางปัญญาจะผูกโยงกับข้อมลเป็นส่วนใหญ่ ส่วนทรัพย์สินทางปัญญาส่วนใหญ่จะมีลักษณะทางกายภาพ อาทิ การทำซ้ำ กรณีทรัพย์สินปกติ เช่น ช่วงนี้ผลไม้เช่นส้มราคาดี การทำตามโดยนำเมล็ดส้มมาปลูกแม้จะลอกวิธีเดียวกันกับเพื่อนบ้าน เพื่อนบ้านคุณก็ไม่สามารถมาอ้างความเป็นเจ้าของต่อส้มที่คุณปลูกได้ แต่ในทางกลับกันทรัพย์สินทางปัญญา เช่น ลิขสิทธิ์ในหนังสือ ถ้าคุณอยากมี อยากได้ก็แค่ไปซื้อตามร้านหนังสือ เพื่อทำให้ถูกต้อง แต่ถ้าบางคนมองว่าอยากได้ในราคาที่ถูก ก็นำต้นฉบับไปสำเนา คุณก็จะได้หนังสือที่อ่านได้เหมือนกัน แม้จะไม่เหมือนต้นฉบับก็ตาม เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้น คือ ตำราต่างประเทศที่มีราคาแพงมาก! ซึ่งบางคนไม่สามารถหาซื้อได้ จึงตัดสินใจยืมตำราจากห้องสมุดและนำไปทำสำเนา คุณก็จะมีหนังสือเอาไว้อ่านแล้ว ซึ่งกรณีดังกล่าวจะต่างกับการปลูกส้มตามซึ่งคุณสามารถแสดงความเป็นเจ้าของได้ กลับกันในมิติของทรัพย์สินทางปัญญา แม้คุณจะซื้อหนังสือมา คุณเป็นเจ้าของในเล่มหนังสือที่ซื้อมา แต่การจัดวางเนื้อหา+เนื้อความ ที่ตีพิมพ์เป็นหน้า ๆ ไป คุณไม่อาจอ้างได้ว่า คุณเป็นผู้นิพนธ์ หรือ คุณจะนำหนังสือไปทำลายทิ้งด้วยความโกรธ ก็ไม่มีใครว่าคุณ เพราะทำลายของของตัวเอง แต่การทำลายกหนังสือย่อมไม่กระทบสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาเลย หรือคุณซื้อรถยนต์มาคันหนึ่ง ซึ่งคุณจะทุบทิ้ง ขยมือสอง หรือดัดแปลงโครงสร้างเปลี่ยนล้อก็เป็นเรื่องของคุณ แต่ ยี่ห้อรถ เช่น ตรา Toy. คุณไม่มีสิทธิในตราดังกล่าวเลย จะนำไปเป็นแบบแล้วสกีนลงบนเสื้อผ้าไม่ได้นะ เพราะนั่นคือเครื่องหมายการค้า ที่ผู้ผลิตคิดค้นยี่ห้อ ถือสิทธิเด็ดขาด แต่คุณมีเพียงกรรมสิทธิ์ในรถเท่านั้น เพราะซื้อรถไม่ได้แปลว่าได้ทั้งกรรมสิทธิ์ในตัวรถ และสิทธิในเครื่องหมาการค้า หรือตัวอย่างใกล้ตัวเราคุณเข้าในร้านสะดวกซื้อ แล้วมีความรู้สึกกระหายน้ำ อยากหาอะไรสดชื่นดื่ม คุณจึงตัดสินใจซื้อน้ำอัดลมมาดื่ม ใช่ครับ คุณเป็นเจ้าของบรรจุภัณฑ์และน้ำอัดลม แต่เครื่องหมายการค้า หรือสูตรเฉพาะในการทำน้ำอัดลมคุณไม่ได้มาโดยการซื้อเครื่องดื่ม มิฉะนั้น ซื้อไก่ K. แถมสูตรหรือครับ ตลก! (มีต่อ)มีต่อท้ายนี้ขอบพระคุณรูป1. ปก โดย Clever Visuals จาก Unsplash https://unsplash.com/photos/iMwiPZNX3SI2. รูปที่ 1 โดย stories จาก freepik https://bit.ly/2OaiGQl3. รูปที่ 2 โดย vectorjuice จาก freepik https://bit.ly/3oWlQ754. รูปที่ 3 โดย vectorjuice จาก freepik https://bit.ly/3jtzQ7k5.รูปที่ 4 โดย upklyak จาก freepik https://bit.ly/2MIhfrV6. รูปที่ 5 โดย geralt จาก pixabay https://pixabay.com/images/id-812223/