พปชร.เปิดตัวส.ก. 50 เขต ลงสนามเลือกตั้ง 22 พ.ค. ชู 4 นโยบายมั่นใจกระแสนิยม บิ๊กตู่

ข่าววันนี้ 25 มีนาคม ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายอภิชัย เตชะอุบล ผู้อำนวยการศูนย์การเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) พรรคพลังประชารัฐ แถลงเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.ในพื้นที่ 50 เขตของกรุงเทพมหานคร ว่า การเลือกตั้ง ส.ก. ที่จะมีขึ้นวันที่ 22 พฤษภาคม 2565 พปชร.เห็นถึงความสำคัญ เพราะกรุงเทพฯ ถือเป็นพื้นที่หลักของพรรคที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนในการเลือกตั้งปี 2562 เพราะได้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) มากถึง 12 เขต จาก 30 เขต ทั่วกรุงเทพฯ และเขตอื่นๆ ก็ได้คะแนนเป็นที่ 2 จำนวนมากถึง 12 เขตเลือกตั้ง รวมเป็น 24 เขตเลือกตั้ง จาก 30 เขตเลือกตั้ง สะท้อนว่า คนกรุงเทพฯ ได้ให้ความไว้วางใจกับ พปชร.มากที่สุด จึงต้องรับผิดชอบต่อความไว้วางใจที่ประชาชนคนกรุงเทพฯ มีให้ พปชร. ดังนั้น ในการเลือกตั้ง ส.ก. ครั้งนี้ พปชร.ได้ส่งผู้สมัคร ส.ก. ครบทั้ง 50 เขต เพื่อรับใช้ประชาชนกรุงเทพฯ

นายอภิชัย กล่าวว่า โดยผู้สมัครของ พปชร. จะผสมผสานระหว่างคนรุ่นเก่าที่มีประสบการณ์ เคยทำงานเป็น ส.ก. ให้คนกรุงเทพฯ มาก่อน และคนรุ่นใหม่ ที่มีความรู้ความสามารถ มีแนวคิด มีไอเดียใหม่ๆ เข้ามาร่วมกันขับเคลื่อนการทำงานให้สอดประสานกับกระแสในปัจจุบัน

“สิ่งที่เราอยากเข้ามาขับเคลื่อนให้กรุงเทพฯ ดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ซึ่งมีหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการเดินทางของคนกรุงเทพฯ รถติดใช้เวลานานมากในการเดินทาง ปัญหาเรื่องการทำมาหากิน การค้าขาย ปัญหาเรื่องสภาพแวดล้อม การเพิ่มพื้นสีเขียว การเข้าถึงการบริการภาครัฐ ความเป็นอยู่ของคนกรุงเทพฯ ที่อยู่อาศัย ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน การดูแลสุขภาพของพี่น้องประชาชนคนกรุงเทพฯ ที่ปัจจุบันทราบกันดีว่า การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 เป็นปัญหาใหญ่ที่กำลังเผชิญ ระบบสาธารณสุขจึงเป็นเรื่องสำคัญ” นายอภิชัย กล่าว

ทั้งนี้ นายอภิชัย กล่าวว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา กรุงเทพฯ ประสบปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ประชาชนได้รับความยากลำบากในการรักษาพยาบาล ทั้งนี้ โรงพยาบาล (รพ.) ในสังกัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) มีจำนวน 11 แห่ง ไม่เพียงพอรองรับการรักษาพยาบาลประชาชนที่ติดเชื้อโควิด-19 จำนวนมาก

“ผมจึงมีนโยบายเร่งด่วนที่จะดำเนินการในทันที ด้วยการผลักดันให้ทุกหน่วยงานมาบูรณาการ และร่วมกันสร้าง รพ. ในพื้นที่กรุงเทพฯ ให้มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้เพียงพอรองรับการให้บริการรักษาพยาบาลประชาชนในพื้นที่ ซึ่งประกอบด้วย รพ.กทม., รพ.ในสังกัดมหาวิทยาลัย, รพ.ตำรวจ, รพ.ทหารบก, รพ.ทหารเรือ และ รพ.ทหารอากาศ และให้ทุกหน่วยงานดังกล่าว เปิดรับบุคลากรทางการแพทย์เพิ่มเติม

ทั้งแพทย์, พยาบาล, เจ้าหน้าที่ทางด้านเทคนิค ให้มีจำนวนเพียงพอรองรับการรักษาพยาบาลของประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯ ระบบสาธารณสุขเชิงรุกที่ว่านี้ เป็นการปรับตัวรองรับสถานการณ์โควิด-19 ที่ยังไม่รู้ว่าจะหมดไปเมื่อไร และเป็นการรองรับโรงระบาดต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เพราะ กรุงเทพฯ มีคนอยู่รวมกันจำนวนมาก หากมีการระบาดของโรคก็จะแพร่ไปได้เร็วเหมือนที่เราเห็นกันอยู่นี้ จึงจำเป็นต้องตั้งการ์ดป้องกันให้ดีที่สุด” นายอภิชัย กล่าว

ทั้งนี้ นายอภิชัย กล่าวว่า พปชร.ยังให้ความสำคัญกับการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้คนกรุงเทพฯ จัดหาพื้นที่ทำสวนสาธารณะใกล้บ้าน ให้กระจายไปในพื้นที่ต่างๆ ให้ครบทั้ง 50 เขตของกรุงเทพฯ เป็นปอดของคนกรุงเทพฯ

นอกจากนี้ ยังเล็งเห็นถึงการแก้ปัญหาปากท้อง ต้องมีที่ทำกินให้ประชาชนคนกรุงเทพฯ เช่น หาบเร่แผงลอย ที่ถูกปรามาทว่า เป็นปัญหา

“ที่จริงแล้วมันไม่ใช่ปัญหา เพียงแต่ต้องการการจัดระเบียบให้คนได้ทำมา หากิน และไม่กีดขวางการสัญจรของคนใช้ทางเท้า ที่สำคัญบางพื้นที่มันไม่ใช่แค่พื้นที่ทำมาหากิน แต่เป็นเอกลักษณ์ของกรุงเทพฯ ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ อย่างเช่น ปากคลองตลาด ตลาดดอกไม้ที่ชาวต่างชาติให้ความสนใจแบบนี้เราต้องเก็บไว้แล้วพัฒนาต่อให้ดียิ่งขึ้นจะดึงดูดเม็ดเงินมาให้ กทม. ได้จำนวนมากเงินเหล่านี้จะทำให้คน กรุงเทพฯ อยู่ดีกินดีมากยิ่งขึ้น” นายอภิชัย กล่าว

นายอภิชัย กล่าวว่า อีกนโยบายที่ให้ความสำคัญคือ การเพิ่มสกายวอล์ก เข้ามาอำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชนในการใช้ชีวิต หากต้องการเดินทางในระยะสั้นแทนที่ต้องขึ้นรถไฟฟ้าหรือขึ้นรถเมล์ก็มีทางเลือกในการเดินออกกำลังกายได้ นโยบายเหล่านี้ผู้สมัคร ส.ก. ของพรรค จะทำหน้าที่สื่อสารรายละเอียดให้ประชาชนคนกรุงเทพฯ ได้รับทราบ และรับฟังปัญหาของพี่น้องชาวกรุงเทพฯ ไปเร่งแก้ไข

“การที่ พปชร.ไม่ได้ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการทำงานของ ส.ก.ของ พปชร.แต่อย่างใด เพราะเราจะเข้าไปขับเคลื่อนการใช้งบประมาณปีละกว่าแสนล้านบาทของกรุงเทพฯ ให้เป็นประโยชน์กับประชาชนสูงสุด และนอกจากการขับเคลื่อนการช่วยเหลือประชาชนในสภาฯ กทม. แล้ว ด้วยความที่เรามี ส.ส. ในพื้นที่กรุงเทพฯ 11 คน ในปัจจุบัน” นายอภิชัย กล่าว

นอกจากนี้ ส.ก. ของ พปชร. ทำหน้าที่รับปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนเพื่อสะท้อนไปยัง ส.ส. ให้หาทางพัฒนาชีวิตประชาชนให้ดีขึ้นไปอีกทางหนึ่งด้วย และทาง พปชร. จะเปิดช่องทางสื่อสารสร้างความใกล้ชิดระหว่างผู้สมัคร ส.ก.กับประชาชน รับฟังปัญหาของพ่อแม่พี่น้องคนกรุงเทพฯ ผ่านระบบออนไลน์ช่องทางต่างๆ เพื่อรับเรื่องร้องเรียนนำไปสู่การแก้ไขปัญหาด้วยความรวดเร็ว และการแก้ไขของเราไม่ได้เลื่อนลอย จะมีการกำหนดกรอบเวลาที่ชัดเจนเพื่อให้ทุกอย่างจบ ไม่ใช่ปัญหาแต่ละปัญหาคาราคาซักไม่จบไม่สิ้นเหมือนที่ผ่านมา

“เรามั่นใจว่า จากกระแสความนิยมของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ พปชร. เป็นผู้เสนอในการเลือกตั้ง และผลงานที่ผ่านมาที่ช่วยเหลือประชาชนให้ผ่านพ้นวิกฤตโควิด-19 และวิกฤตปากท้องจากโครงการ มาตรการต่างๆ รวมถึงผลงาน พปชร. ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นหัวหน้า พปชร. ในฐานะพรรคแกนนำรัฐบาล จะเป็นการพิสูจน์ได้เป็นอย่างดีว่า ตัวแทนของ พปชร.มุ่งมั่นทำเพื่อพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง ประกอบกับผลงานของว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.ของเรา ที่มีส่วนในการช่วยเหลือประชาชนในการต่อสู้กับโควิด-19 จะทำให้ประชาชนไว้ใจ พปชร. ในการดูแลคุณภาพชีวิตให้คนกรุงเทพฯ ต่อไป

และมั่นใจว่า ผู้สมัครของเราจะได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องคนกรุงเทพฯ มากที่สุด เราอาจไม่ใช่พรรคการเมืองที่ประกาศนโยบายขายฝัน ให้พี่น้องชาวกรุงเทพฯ เลิศหรู เหมือนกับพรรคอื่นๆ เราไม่ใช่ผู้วิเศษ ที่จะเสกทุกสิ่งทุกอย่างให้กับคนกรุงเทพฯ ได้เท่าเทียมกันทุกคน แต่เราจะแก้ปัญหา เคียงข้าง รับใช้ ชาวกรุงเทพฯ บนโลกของความเป็นจริง เราสัญญาว่า บ้านต้องอบอุ่น ปากท้องต้องอิ่ม ประชาชนใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัยและมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าเดิม” นายอภิชัย กล่าว

นายอภิชัย กล่าวว่า ในฐานะคนที่รับผิดชอบการเลือกตั้ง ส.ก.ครั้งนี้ ตนเป็นคนที่ปากกับใจตรงกันไม่ชอบสร้างภาพ ชอบอะไรที่ตรงไปตรงมา

“คนที่จะเป็นตัวแทนของประชาชน มั่นใจว่า ผมเลือกมาแล้ว ที่จะร่วมทุกข์ร่วมสุขกับคนกรุงเทพฯ ไม่ใช่หาเสียงอย่างพอได้เป็นผู้แทนประชาชนก็อีกอย่างหน้ามือเป็นหลังมือ ถ้าจะอดก็ต้องอดด้วยกัน ถ้าจะอิ่มก็ต้องอิ่มด้วยกัน” นายอภิชัย กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ศึกเลือกตั้งในครั้งนี้สิ่งที่ยากที่สุดคืออะไร นายอภิชัย กล่าวว่า คิดว่ามันไม่ยาก ส.ก.ของพรรคเตรียมพร้อมมานาน และทุกคนลงไปรับปัญหาของพี่น้องประชาชนทุกเขตอยู่แล้ว ส่วนกระแสตอบรับก็ดีมาก และยังมั่นใจในกระแสนิยมของ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพราะว่าเขาก็ปฏิบัติหน้าที่ของเขาได้อย่างดีที่สุด อย่างในช่วงโควิด-19 ก็พยายามดูแลอย่างเต็มที่ แม้จะมีผิดพลาดไปบ้าง

เมื่อถามอีกว่า การที่ไม่ส่งชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม. จะทำให้เป็นจุดอ่อนหรือไม่ นายอภิชัย กล่าวว่า ไม่เป็นจุดอ่อน เพราะมี ส.ก.ที่ลงพื้นที่ ควบคู่กับผู้ว่าฯ กทม.ไป อีกอย่างคือ ส.ก.ของพรรคทำหน้าที่ร่วมกับผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่ ได้ไม่มีปัญหา

เมื่อถามว่า ตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะได้ ส.ก.กี่เขต นายอภิชัย กล่าวว่า ก็ตั้งเป้าไว้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้

ตั้งข้อถามว่า ยังคงเชื่อมั่นในกระแสนิยมของ พล.อ.ประยุทธ์ หรือไม่ เนื่องจากคนรุ่นใหม่ที่เป็นคนกรุงเทพฯ ก็มีจำนวนค่อนข้างมาก นายอภิชัย กล่าวว่า บอกแล้วว่า เราขายตามนโยบายพรรค ไม่ได้ขายเพื่อคนใดคนหนึ่ง