KCC โชว์ฟอร์มหรู พอร์ตทะลุ 2 พันล.

#KCC #ทันหุ้น - KCC เดินหน้าอวดกำไรสุทธิเติบโตทุกไตรมาส ล่าสุดกวาดกำไรไตรมาส 2/2567 ที่ 23 ล้านบาท พุ่งขึ้น44% หนุนครึ่งปีมีกำไร 39 ล้านบาท เดินหน้าลงทุนซื้อหนี้ NPL ต่อ ปิดครึ่งปีมีพอร์ตลูกหนี้ทะลุ 2 พันล้านบาท

นายทวี  กุลเลิศประเสริฐ  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  บริษัท ไนท คลับ แคปปิตอล โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ KCC ผู้ดำเนินธุรกิจจัดหาและบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพและธุรกิจบริหารจัดการทรัพย์สินรอการขายและการปรับปรุงทรัพย์สินรอการขายเพื่อจำหน่าย  เปิดเผยว่า    ผลดำเนินงานของบริษัทเติบโตต่อเนื่อง มีกำไรสุทธิทุกๆ ไตรมาส นับตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai)

** กำไรพุ่ง 44%

สำหรับผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/2567 บริษัทมีกำไรสุทธิ 23 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44% จากไตรมาสก่อนหน้า ที่มีกำไรสุทธิ 16 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 20 ล้านบาท ส่งผลให้งวดครึ่งแรกปี 2567 บริษัทมีกำไรสุทธิ 39 ล้านบาท

ขณะที่รายได้จากการดำเนินงานรวมอยู่ที่ 50 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% จากไตรมาสก่อนหน้าที่มีรายได้ 43 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 32% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 38 ล้านบาท ส่วนงวดครึ่งปีมีรายได้ 92 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% เทียบงวดเดียวกันกับปีก่อนที่มีรายได้ 86 ล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทยังคงเดินหน้าลงทุนหนี้ NPLต่อเนื่อง เพื่อขยายพอร์ตลูกหนี้ NPLs ไตรมาส 2/2567 บริษัทลงทุนซื้อ NPL เพิ่มขึ้นจำนวน 412 ล้านบาท รวมครึ่งปีแรกของปี 2567 บริษัทลงทุนในพอร์ตใหม่แล้วทั้งสิ้น 463 ล้านบาท ทำให้ ณ มิถุนายน 2567 พอร์ตลูกหนี้ของบริษัททะลุ 2,000 ล้านบาท

** เดินหน้าซื้อหนี้

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KCCกล่าวว่า ทิศทางครึ่งหลังของปียังคงเดินหน้าลงทุนซื้อหนี้ด้อยคุณภาพให้ได้ตามเป้าหมาย โดยประเมินว่า ปีนี้ทั้งปีสถาบันการเงินจะนำหนี้ออกมาประมูลต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทก็มีความพร้อมในการเข้าประมูลเพราะได้มีการเตรียมสภาพคล่องไว้รองรับ ขณะเดียวกันการทรานส์ฟอร์มเป็นโฮลดิ้ง คอมพานี ที่เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้วจะทำให้บริษัทประมูลหนี้ได้ในขอบเขตที่กว้างขึ้น

นอกจากนี้ล่าสุดคณะกรรมมีมติอนุมัติตั้งบริษัทย่อย ขึ้นมาโดย KCC ถือหุ้น 100%ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในไตรมาส 3 นี้ เพื่อประกอบธุรกิจรับซื้อหรือรับโอนสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ และเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของบริษัทขยายขอบเขตการซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพให้มีความหลากหลายมากขึ้น