เจ้าหน้าที่กู้ภัยระงับปฏิบัติการค้นหาผู้ที่ติดอยู่ใต้ซากอาคารคอนโดมิเนียมในรัฐฟลอริดาของสหรัฐฯ
America: เจ้าหน้าที่กู้ภัยระงับปฏิบัติการค้นหาผู้ที่ติดอยู่ใต้ซากอาคารคอนโดมิเนียมในรัฐฟลอริดาของสหรัฐฯ ที่พังถล่ม เพื่อเตรียมการสำหรับการรื้อถอนทำลายอาคารส่วนที่เหลืออยู่ เนื่องจากหวั่นจะพังลงมาได้ทุกเวลา ขณะที่เฮอริเคนเอลซาเคลื่อนตัวเข้าใกล้ ซึ่งอาจเกิดกระแสลมแรง จนทำให้ทีมกู้ภัยและค้นหาไม่ปลอดภัย
นายกเทศมนตรีเทศมณฑลไมอามี-เดด และผู้ว่าการรัฐฟลอริดาเห็นตรงกันว่า การรื้อถอนส่วนที่เหลือของอาคารคอนโดมิเนียม 12 ชั้นที่พังถล่มในเมืองเซิร์ฟไซด์ ใกล้หาดไมอามี รัฐฟลอริดา อาจเกิดขึ้นเร็วที่สุดในวันนี้
เป็นความพยายามที่จะทำลายโครงสร้างที่ไม่ปลอดภัยของอาคาร ก่อนพายุเฮอริเคนเอลซาที่เคลื่อนตัวอยู่นอกชายฝั่งรัฐฟลอริดาอยู่ในขณะนี้จะขึ้นฝั่ง เพื่อให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างปลอดภัย เพราะไม่มีใครรู้ว่าอาคารส่วนที่เหลือจะพังถล่มลงมาเมื่อไหร่ กระแสลมแรงอาจก่อให้เกิดอันตรายรุนแรงได้
ขณะที่ทีมกู้ภัยพบผู้เสียชีวิตใต้ซากปรักหักพังของอาคารแชมเพลน ทาวเวอร์ส เซาท์ เพิ่มอีก 2 คนในวันเสาร์ (3 กรกฎาคม) และไม่พบผู้เสียชีวิตเพิ่มในวันอาทิตย์ (4 กรกฎาคม) ก่อนจะระงับภารกิจค้นและกู้ภัย รวมตัวเลขผู้เสียชีวิตเป็น 24 คน และยังสูญหายอยู่ 121 คน ซึ่งคาดว่าน่าจะเสียชีวิตแล้วทั้งหมด
ปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยยังคงเดินหน้ามากว่า 1 สัปดาห์แล้ว ตั้งแต่อาคารพังถล่มเมื่อวันที่ 24 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยที่ยังไม่พบผู้รอดชีวิตเพิ่มเติมแม้แต่คนเดียว
คณะเจ้าหน้าที่สอบสวนยังไม่ได้ระบุสาเหตุของอาคารอายุ 40 ปีแห่งนี้พังถล่ม แต่รายงานทางวิศวกรรม ในปี 2018 พบรอยร้ายของโครงสร้าง ซึ่งขณะนี้เป็นประเด็นหลักในการสอบสวน
สำหรับความคืบหน้าของเฮอริเคนเอลซา สำนักอุตุนิยมวิทยาสหรัฐฯ เผยว่า ขณะนี้เฮอริเคนเอลซาเคลื่อนตัวอยู่นอกชายฝั่งจาเมกา ด้วยความเร็วลม 95 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าในวันนี้พายุจะเคลื่อนผ่านคิวบา และอาจพัดเข้าถล่มทางตะวันตกของรัฐฟลอริดาในวันอังคารหรือวันพุธนี้