เศรษฐกิจญี่ปุ่นหดตัวหนักสุด นับจากช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2
วันนี้ (8ก.ย.63) รัฐบาลญี่ปุ่น ประเมินว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวม หรือ GDP ในไตรมาสที่ 2 จะปรับนตัวลดลง 28.1 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจของญี่ปุ่นหดตัวรุนแรงที่สุด นับตั้งช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยก่อนหน้านี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประเมินเอาไว้ว่า ตัวเลข GDP ในไตรมาสที่ 2 จะปรับตัวลดลง 27.8 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งแม้ว่าตัวเลขจะไม่ห่างกันมากนัก แต่ก็แสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจของญี่ปุ่นย่ำแย่กว่าที่คาดไว้
ปัจจัยสำคัญ ก็คือ การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ที่ทำให้ต้องมีการใช้มาตรการ lock down เป็นระยะ จนทำให้การใช้จ่ายในภาคครัวเรือน ลดลงไป 7.6 เปอร์เซนต์ ขณะที่ตัวเลขการลงทุนภาคธุรกิจปรับตัวลดลงไป 4.7 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสแรกของปี
ฮิโรชิ มิยาซากิ (Hiroshi Miyazaki ) นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส ของ Mitsubishi UFJ Morgan Stanley กล่าวเตือนด้วยว่า จากสถานการณ์ปัจจุบัน เป็นไปไม่ได้เลยที่บริษัท หรือ กลุ่มทุนขนาดใหญ่ จะจัดตั้งโครงการใหม่ๆ ตลอดจนขยายการลงทุน เนื่องจากยังไม่มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษกิจเพียงพอ ดังนั้นจึงเป็นไปได้ที่ เศรษฐกิจญี่ปุ่นจะหดตัวตลอดทั้งปี โดยมีการประเมินว่า GDP ในไตรมาสที่ 3 จะปรับตัวลดลงไม่ต่ำกว่า 15 เปอร์เซ็นต์
ในวันที่ 14 กันยายนนี้ จะมีการเลือกหัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย หรือ LDP ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลของญี่ปุ่น ที่คาดกันว่า นายโยชิฮิเดะ สึกะ ประธานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี จะได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรค และก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ทำให้ต้องจับตาว่า รัฐบาลชุดใหม่ของญี่ปุ่น จะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างไรบ้าง
ที่ผ่านมานั้น นายสึกะ สนับสนุน การสร้างรายได้ในส่วนการปกครองท้องถิ่น และสนับสนุนให้ ญี่ปุ่นเดินหน้าเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก แม้จะได้รับเสียงคัดค้านเนื่องจากวิกฤตโควิด 19 ยังไม่คลี่คลาย แต่นักเคราะห์เชื่อว่า นายสึกะ พร้อมที่จะเสี่ยง เพื่อมิให้เศรษฐกิจถดถอยไปมากกว่านี้
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNTHAILAND.com
facebook : TNNONLINE
facebook live : TNN Live
twitter : TNNONLINE
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNONLINE
Instagram : TNN_ONLINE
TIKTOK : @TNNONLINE