วิเคราะห์ขีปนาวุธใหม่เกาหลีเหนือ ทรงพลังสุดเท่าที่เคยพัฒนามา

วันนี้( 14 ต.ค.63) เกาหลีเหนือจัดงานสวนสนามอย่างยิ่งใหญ่ ในโอกาสครบรอบ 75 ปี การก่อตั้ง พรรคแรงงาน เมื่อเช้ามืดวันเสาร์ที่ 10 ต.ค. ไฮไลต์เป็นการเปิดตัวอาวุธรุ่นใหม่ได้แก่ "ขีปนาวุธข้ามทวีป หรือ ICBM" ที่ต้องใช้ รถบรรทุก 22 ล้อในการเคลื่อนย้าย โดยมีความยาว  24-25 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลาง  2.5 เมตร สามารถติดตั้ง “หัวรบนิวเคลียร์ 3 -4 หัวรบซึ่งอาจมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกมีความยาวมากกว่าขีปนาวุธฮวาซอง-15 มีอานุภาพทำลายล้าง 2,000-3,500 กิโลกรัม นับว่าทรงพลังที่สุดเท่าที่เกาหลีเหนือเคยพัฒนามา 

ปัจจุบันขีปนาวุธ ที่ยิงได้ระยะไกลสุดก็คือ ICBM อาวุธประเภทนี้ จะใช้หลักการที่ว่ามันจะพุ่งขึ้นไปถึงชั้นอวกาศ ที่มีเพดานสูง 3,000-4,500 กิโลเมตร  ดินทางในอากาศนานประมาณ 53 นาที แล้วทิ้งตัว (Ballastic) ลงมาสู่เป้าหมาย ซึ่งยิงได้ไกลมากกว่า 13,000 กิโลเมตร หรือถึงทวีปอเมริกา

ทั้งนี้ ICBM ตอนยิงขึ้นจรวดขนาดใหญ่มาก แต่จะค่อยๆถอดชิ้นส่วนเหมือนจรวด ทำให้ตอนตกใส่เป้าหมาย เหลือเฉพาะ หัวรบนิวเคลียร์ขนาดเท่าตัวคนเท่านั้น ขีปนาวุธชนิดนี้สามารถติดตั้ง “หัวรบนิวเคลียร์” ได้พร้อมกันหลายหัว ซึ่งน่าจะเป็นกลยุทธ์ใหม่ของเกาหลีเหนือ คือ ไม่ต้องการพัฒนาเรื่องพิสัยของขีปนาวุธไปมากกว่านี้แล้ว แต่ในทางกลับกันจะมุ่งไปที่การติดตั้ง “หัวรบนิวเคลียร์หลายหัว” บนขีปนาวุธ 1 อัน เพื่อให้การสกัดของฝ่ายตรงข้าม ทำได้ยากขึ้น 

ก่อนหน้านั้น  ช่วงกรกฎาคม 2017 เกาหลีเหนือได้ทดสอบขีปนาวุธ HWASONG-14 ซึ่งมีพิสัยราว 6,700-10,000 กิโลเมตร และถือเป็นการทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีปครั้งแรก ซึ่งการทดสอบดังกล่าว สามารถยิงข้ามประเทศญี่ปุ่นหรือไปเกาะกวมได้อย่างไม่ยาก

เจฟฟรีย์ ลิวอิส (Jeffrey Lewis) แห่งสถาบันมิดเดิลบิวรีเพื่อการระหว่างประเทศศึกษา บอกว่า ขีปนาวุธนี้ “มีจุดมุ่งหมายอย่างชัดเจนที่จะทำให้มันทรงพลังจนเกินกว่าที่ระบบต่อสู้ขีปนาวุธของสหรัฐฯ ในรัฐอะแลสกาจะยับยั้งสกัดกั้นได้

หากขีปนาวุธ ICBM แต่ละลูกบรรทุกหัวรบจำนวน 3 หรือ 4 หัวรบ สหรัฐฯ ก็จำเป็นต้องใช้ระบบ THAAD ยิงจรวดตัวสกัดกั้นขึ้นไปปราบ ราว 12-16 ลูก ซึ่งสิ้นค่าใช้จ่ายรวมประมาณ 1,000 ล้านดอลลาร์ ด้วยค่าใช้จ่ายระดับนี้จึงแน่ใจเว่าเกาหลีเหนือสามารถที่จะเพิ่มหัวรบได้อย่างรวดเร็วกว่าที่สหรัฐสามารถเพิ่มจรวดตัวสกัดกั้น 

นาย Michael Elleman ผู้เชี่ยวชาญด้านจรวดขีปนาวุธของสหรัฐฯยังมีคำถามว่า เกาหลีเหนือมีขีดความสามารถสูงพอที่จะย่อส่วนหัวรบนิวเคลียร์ให้มีน้ำหนักเบาเพื่อติดตั้งบนจรวดขีปนาวุธข้ามทวีปของตนได้หรือไม่ เพราะน้ำหนักของจรวดรวมทั้งหัวรบที่มากเกินไป จะทำให้ขีปนาวุธข้ามทวีปของเกาหลีเหนือไปได้ไกลอย่างมากที่สุด คือชายฝั่งด้านตะวันตกของสหรัฐฯเท่านั้นเอง ทั้งนี้ผู้เชี่ยวชาญ บางคนยังไม่มั่นใจว่า ขีปนาวุธที่เกาหลีเหนือนำมาโชว์เป็นของจริง หรือเป็นเพียงโมเดลต้นแบบเท่านั้น

ด้าน รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศจะเดินหน้าเสริมสร้างกองทัพให้แข็งแกร่งเพื่อพร้อมป้องกันภัยคุกคามจากต่างประเทศ หลังกองทัพเกาหลีเหนือจัดขบวนพาเหรดแสดงแสนยานุภาพทางกองทัพ 

ขณะที่กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้แสดงความกังวลทันที โดยเรียกร้องให้เกาหลีเหนือกลับมาสู่โต๊ะเจรจาสันติภาพ

ผู้เชี่ยวชาญบางคนคิดว่าเกาหลีเหนืออาจจะทดสอบอาวุธหนักรุ่นใหม่นี้ ภายหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ในเดือน พ.ย. เพื่อเพิ่มอำนาจในการเจรจาครั้งใหม่กับสหรัฐ ไม่ว่าใครจะชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีก็ตาม

ด้าน คิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือกล่าวปราศรัย ยืนยันจะใช้อาวุธเพื่อปกป้องประเทศไม่ได้สร้างขึ้นมาเพื่อคุกคาม แต่ขู่ว่าถ้าเกาหลีเหนือถูกรุกล้ำอธิปไตยก็จะตอบโต้ด้วยอาวุธอานุภาพสูงที่สุดเพื่อเป็นการลงโทษผู้รุกราน แต่ไม่ได้ระบุถึงสหรัฐอเมริกา

อย่างไรก็ตามประเทศที่มีขีปนาวุธชนิดนี้ คือสมาชิกถาวรคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ 5 ประเทศ คือ จีน, ฝรั่งเศส, รัสเซีย, สหราชอาณาจักร และสหรัฐ ขณะที่อินเดียกับปากีสถาน ปัจจุบันมีขีปนาวุธรพิสัยปานกลางประจำการ และกำลังพัฒนาขีปนาวุธข้ามทวีป ส่วนเกาหลีเหนือซึ่งกำลังพัฒนาขีปนาวุธข้ามทวีปจนกระทั่งเปิดตัวในวันนี้

เกาะติดข่าวที่นี่