สหรัฐฯ จ่อไฟเขียววัคซีนโควิด-19 'โดส 4' ท่ามสถานการณ์หลากหลาย

นิวยอร์ก, 28 มี.ค. (ซินหัว) -- สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) พร้อมประกาศอนุมัติการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) โดสกระตุ้นโดสที่ 2 (โดสที่ 4) ให้ผู้มีอายุ 50 ปีขึ้นไป ท่ามกลางความกังวลต่อการระบาดของเชื้อไวรัสฯ ชนิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์โอไมครอน สายพันธ์ย่อยในสหรัฐฯ

สื่อท้องถิ่นสหรัฐฯ รายงานว่าการประกาศอนุมัติการฉีดวัคซีนไฟเซอร์-ไบออนเทคและโมเดอร์นาเป็นโดสที่ 4 จะเกิดขึ้นอย่างเร็วที่สุดในวันอังคาร (29 มี.ค.)

เมื่อวันเสาร์ (26 มี.ค.) ฮาวายกลายเป็นรัฐสุดท้ายของสหรัฐฯ ที่ยกเลิกข้อบังคับสวมหน้ากากอนามัยในที่ร่ม เนื่องจากการระบาดของเชื้อไวรัสฯ สายพันธุ์โอไมครอนลดลง ทั้งยังสั่งระงับโครงการเดินทางปลอดภัย (Safe Travels) ทำให้นักเดินทางในสหรัฐฯ สามารถเดินทางเข้าฮาวายโดยไม่ต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนหรือผลตรวจโรค

ขณะสภานิติบัญญัติแห่งรัฐไอดาโฮได้ผ่านร่างกฎหมายห้ามไม่ให้ธุรกิจต่างๆ ขอหลักฐานการฉีดวัคซีนสำหรับจ้างงานหรือการบริการ เพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลที่ยังไม่ได้รับวัคซีน "ได้รับการปฏิบัติที่แตกต่างหรือถูกเลือกปฏิบัติ"

ร่างกฎหมายข้างต้นระบุว่าการตัดสินใจฉีดวัคซีนเป็น "เรื่องส่วนบุคคล" และไม่ควรถูกบังคับจากหน่วยงานรัฐหรือเอกชน โดยร่างกฎหมายนี้ได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกสภานิติบัญญัติของพรรครีพับลิกัน และถูกส่งไปยังแบรด ลิตเติล ผู้ว่าการรัฐไอดาโฮ เป็นที่เรียบร้อย ทว่าลิตเติล ซึ่งสังกัดพรรครีพับลิกัน ยังไม่ได้ตัดสินว่าจะลงนามร่างกฏหมายดังกล่าวหรือไม่

ในขณะที่หลายพื้นที่ของประเทศทยอยยกเลิกหรือผ่อนปรนข้อจำกัดควบคุมโรคโควิด-19 ทางการสาธารณสุขในรัฐวอชิงตันกำลังเฝ้าระวังสายพันธุ์โอไมครอน สายพันธ์ย่อยบีเอ.2 (BA.2) อย่างใกล้ชิด เนื่องจากมันได้แพร่กระจายไปทั่วยุโรปและส่วนอื่นๆ ของโลกแล้ว โดยครองสัดส่วนร้อยละ 30 ของการติดเชื้อใหม่ในภูมิภาคตอนกลางของมหาสมุทรแอตแลนติก ซึ่งรวมถึงเขตปกครองพิเศษโคลัมเบีย รัฐแมรีแลนด์ และรัฐเวอร์จิเนีย

หนังสือพิมพ์เดอะวอชิงตัน โพสต์ รายงานโดยอ้างอิงคณะผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุข ว่าสายพันธ์ย่อยบีเอ.2 จะกลายเป็นสายพันธุ์หลักในภูมิภาควอชิงตันอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า และทำให้เกิดการติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นอีกครั้ง หลังลดลงอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ผ่านจุดระบาดสูงสุดของสายพันธุ์โอไมครอนเมื่อช่วงต้นเดือนมกราคม

ขณะที่การวิเคราะห์ข้อมูลของหนังสือพิมพ์เดอะ นิวยอร์ก ไทมส์ พบว่าผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 รายใหม่เฉลี่ย 7 วัน ของสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 39 จากช่วง 14 วันที่ผ่านมา เหลืออยู่ที่ 796 ราย ในวันเสาร์ (26 มี.ค.) ส่วนผู้ป่วยรายใหม่ลดลงร้อยละ 12 อยู่ที่ 30,174 ราย