ACGผุดศูนย์บริการ18แห่ง เล็งโกยเงินเข้าพอร์ต300ล.
ทันหุ้น – ACG ตั้งเป้าศูนย์บริการ FAST-FIT ครบ 18 แห่งในปี 2565 หากทำได้ตามแผน คาดโกยเงินเข้ากระเป๋า 300 ล้านบาท แถมดันมาร์จิ้นพุ่ง ชี้ช่องลงทุนต่ำ คืนทุนเร็ว ผลตอบแทนสูง ดีเดย์เปิดสาขาในกรุงเทพฯ สิ้นเดือนพ.ย.2564 ส่องทิศทางรายได้ปี 2565 สูงกว่าปีนี้
นายภานุมาศ รังคกูลนุวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออโตคอร์ป โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ ACG เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าจะมีศูนย์บริการรถยนต์ทุกยี่ห้อประเภทเร่งด่วน (FAST-FIT) ครบ 18 แห่ง ภายในปี 2565 หรือเปิดสาขาเพิ่มอีก 13 แห่ง จากสิ้นปี 2564 คาดมีจำนวนศูนย์บริการทั้งสิ้น 5 แห่ง หากบริษัทสามารถเปิดศูนย์บริการ FAST-FIT ได้ครบ 18 แห่งตามแผน คาดจะมีรายได้จากศูนย์บริการราว 300 ล้านบาท
ดันมาร์จิ้น
ขณะเดียวกันเชื่อว่าศูนย์บริการFAST-FIT จะสร้างอัตรากำไรขั้นต้น (มาร์จิ้น) ให้กับ ACG ได้ เพราะขนาดการลงทุนต่ำ ผลตอบแทนสูง และสามารถสร้างคืนทุนได้เร็ว ปัจจุบันบริษัทมีจำนวนศูนย์ FAST-FIT แล้ว 2 แห่ง ในจังหวัดภูเก็ต ได้แก่ สาขาเทพกระษัตรี และสาขาโรงเรียนสตรีภูเก็ต
สำหรับศูนย์บริการ FAST-FIT ที่จะเปิดบริการช่วงที่เหลือของปี 2564 บริษัทมีแผนที่จะเปิดให้บริการอีก 3 สาขา โดยในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564 บริษัทจะเปิดสาขาแรกในกรุงเทพฯ ที่โลตัส อ่อนนุช 80 พื้นที่ให้บริการประมาณ 400 ตารางเมตร และมีจำนวน 5 ช่องซ่อม สามารถรองรับรถที่เข้ามาใช้บริการได้เดือนละมากกว่า 1.9 พันคัน ส่วนอีก 2 สาขาคาดจะเปิดภายในธันวาคมนี้ ได้แก่ สาขาบิ๊กซี กัลปพฤกษ์ และสาขาบิ๊กซี มหาชัย 2
ทั้งนี้ศูนย์บริการ FAST FIT จะให้บริการ อาทิ การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ยางรถยนต์ ซ่อมบำรุงระบบเบรก แบตเตอรี โช้คอัพ ช่วงล่าง รวมถึงระบบแอร์รถยนต์
นายภานุมาศ กล่าวต่อว่า ทิศทางรายได้ปี 2565 คาดจะเติบโตสูงกว่าปีนี้ โดยการเติบโตจะมาจากธุรกิจดีลเลอร์ หรือตัวแทนการจำหน่ายรถยนต์ บริษัทมองธุรกิจดังกล่าวยังสามารถเติบโตไปได้ เพราะผู้บริโภคจำเป็นต้องใช้รถยนต์ในการเดินทาง ปัจจุบันบริษัทมีจํานวนทั้งหมด 9 แห่งใน 5 จังหวัด ที่มีศักยภาพสูงในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้ของประเทศไทย ได้แก่ ขอนแก่น บุรีรัมย์ สุรินทร์ ภูเก็ต และกระบี่
ศูนย์ซ่อมบูม
ขณะที่ศูนย์บริการ FAST FIT คาดจะเติบโตตามความต้องการซ่อมบำรุงรถยนต์ ปัจจุบันผู้บริโภคเริ่มเดินทาง และใช้รถยนต์บนท้องถนนเพิ่มมากขึ้น หลังจากภาครัฐประกาศเปิดประเทศ รับนักท่องเที่ยว และผ่อนคลายมาตรการ กิจกรรมในประเทศเพิ่มเติม ดังนั้นเชื่อว่าการซ่อมบำรุงรักษาจะมีทิศทางเติบโตเพิ่มขึ้น
สำหรับภาพรวมผลการดําเนินงานงวด 9 เดือนแรกปี 2564บริษัทมีกำไรสุทธิ 22.35 ล้านบาท ลดลง 2.41 ล้านบาท หรือลดลง 9.73% เมื่อเปรียบเทียบกับงวด 9เดือนโดยรวมเกิดจากผลการดําเนินงานออโตคลิก ที่เพิ่งเริ่มเปิดดําเนินการ ทําให้เกิดค่าใช้จ่ายในการเตรียมความพร้อมตอนเริ่มการเปิดศูนย์บริการ ซึ่งค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่เกี่ยวกับการฝึกอบรมพนักงานโดยผู้เชี่ยวชาญในงานดำนบริการยานยนต์ เพื่อสร้างมาตรฐานและคุณภาพงานบริการ และการจัดทําแผนทางด้านการตลาด สื่อโฆษณา เพื่อให้เป็นที่รู้จัก และลูกค้าที่ได้เข้ามารับบริการได้รับความพึงพอใจ