https://www.youtube.com/watch?v=t_3e4bCjCME&t=2750s เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วเป็นที่เรียบร้อย สำหรับ suzuki fronx รถยนต์สไตล์ครอบครัว 5 ประตู 5 ที่นั่ง ที่ครั้งนี้เข้ามาพร้อม 3 รุ่นย่อยกันเลยทีเดียว และบอกเลยว่า ใครที่กำลังตามหารถยนต์ที่ราคาน่ารัก ภายในกว้าง สามารถขับได้ทั้งในเมือง และออกต่างจังหวัด suzuki fronx 2025 อาจจะเป็นเลือกที่น่าสนใจสำหรับคุณ สเปค Suzuki Fronx All New Suzuki Fronk 2025 เป็นรถยนต์ที่ถูกวางตำแหน่งเป็นรถยนต์ B-Segment Crossover SUV (B-SUV) ที่มาพร้อม 3 รุ่นย่อย คือ GL, GLX และ GLX PLUS (รุ่นท็อป) โดย Suzuki Fronk GL จะมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน K15B 1.5 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว ปริมาณกระบอกสูบ 1,462 ซีซี กำลังอัดสูงสุด 105PS / 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 138 นิวตัน - เมตร / 4,400 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ (4AT) ส่วนรุ่น Suzuki Fronk GLX และ GLX PLUS จะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ Mild Hybrid K15C 1.5 ลิตร (K15C DualJet + SHVS) 4 สูบ 16 วาล์ว ปริมาณกระบอกสูบ 1,462 ซีซี กำลังอัดสูงสุด 101PS / 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 135 นิวตัน - เมตร / 4,400 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ แบบ Paddle Shift 6 จังหวะ (6AT) เพื่อการขับขี่ที่ให้อารมณ์สปอร์ตมายิ่งขึ้น และทั้งหมดมาพร้อมระบบขับเคลื่อนล้อหน้า (Front-Wheel Drive - FWD) หัวฉีดมัลติพอยท์ ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิงขนาด 37 ลิตร นอกจากนี้ในญี่ปุ่นหรือออสเตรเลียมีการเคลมอัตราสิ้นเปลืองรวมอยู่ในช่วง ประมาณ 19 - 20.4 กม./ลิตร (ตามมาตรฐานการทดสอบที่แตกต่างกัน เช่น WLTC หรือ NEDC) ซึ่งถือว่า Suzuki Fronk รุ่น Mild Hybrid ประหยัดมากสำหรับรถยนต์ในกลุ่มนี้ ราคาของ Suzuki Fronk Suzuki Fronk GL ราคา 689,000 บาท Suzuki Fronk GLX ราคา 749,000 บาท Suzuki Fronk GLX PLUS ราคา 799,000 บาท ดีไซน์ภายนอก และขนาดตัวรถ Suzuki Fronk หรือถ้าจะเรียกให้มองภาพออกก็คงต้องบอกว่าเป็น Suzuki Swift แบบอัปไซต์ก็ได้ เพราะ Fronx ใช้แพลตฟอร์ม HEARTECT เดียวกันกับ Suzuki Swift และ Baleno แต่ Fronx จะถูกออกแบบให้มีตัวถังยกสูงขึ้นในสไตล์ครอสโอเวอร์ โดยตัวรถจะมีความยาวอยู่ที่ 3,995 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,765 มิลลิเมตร และ ความสูงตั้งแต่พื้นถึงหลังคารถจะอยู่ที่ 1,550 มิลลิเมตร (3,995*1,765*1,550 มม.) ส่วนความสูงใต้ท้องรถก็จะอยู่ที่ประมาณ 170 มิลลิเมตร เมื่อเทียบกับ B-SUV หรือ Crossover จากเจ้าอื่น ๆ อย่างเช่น Honda WR-V หรือ Mitsubishi XForce ถือว่า อยู่ในระดับกลางค่อนไปทางต่ำ แต่ถ้าเทียบกับรถเก๋งละก็ความสูงในระดับนี้ถือว่าสูงกว่าอยู่ควร ดังนั้น Suzuki Fronk จึงจัดว่าเป็นรถที่ค่อนข้างจะเน้นความคล่องตัวเป็นหลัง เหมาะกับการใช้งานเมือง รับมือกับหลุมเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ค่อนข้างดี แต่ถึงขึ้นเป็นรถที่เกิดมาพร้อมลุยเลยไหม บอกเลยว่าอาจจะยังไม่ใช่ ตัวรถมีให้เลือกทั้งหมดถึง 8 สี ด้วยกัน โดยจะแล่งเป็นสีแบบ Two Tone 3 สี ได้แก่ Ice Grayish Blue Metallic, Pearl Snow White และ Savanna Ivory Metallic ที่ทั้งสามจะจับคู่กับ Cool Black Metallic และอีก 5 สีที่เหลือกก็จะเป็นสีเดียวทั้งคัน ได้แก่ Pearl Snow White, Silky Silver Metallic, Metallic Magma Gray, Cool Black Metallic และ Savanna Ivory Metallic ไฟหน้าแบบ LED พร้อม Daytime Running Light กระจังหน้าดีไซน์สุดเท่เสริมความพรีเมียมด้วยลายเส้นโครเมียม เพิ่มความพรีเมียมด้วยไฟท้ายแบบ LED ที่จะยาวต่อเนื่องตั้งแต่ไฟท้ายด้ายซ้าย ยาวไปจนถึงด้านขวา การตกแต่งภายใน และสิ่งอำนวยความสะดวก นอกจากเรื่องของสมรรถนะ และการดีไซน์ภายนอก เราเชื่อว่าอีสิ่งหนึ่งที่หลาย ๆ ใช้เป็นเกณฑ์ตัดสินใจในการซื้อรถก็คงหนีไม่พ้นการตกแต่งภายใน สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบ Safety ของรถใช่ไหมล่ะค่ะ และสำหรับดีไซน์การตกแต่งและสิ่งอำนวยความสะดวกของรถรุ่นนี้ภายในจะมาพร้อมกับเบาะนั่งคนขับที่สามารถประรับดับความสูงต่ำ พนักพิงศีรษะแบบแยกส่วนได้ เบาะด้านหลังพับได้แบบ 60:40 พนักพิงศีรษะปรับได้ 3 ระดับ หุ้มด้วยหนังสังเคราะห์สำหรับรุ่นกลางและรุ่นท็อป พื้นที่จุสัมภาระสูงสุด 1,009 ลิตร ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติพร้อมระบบทำความร้อนในห้องโดยสาร และช่องปรับอากาศในห้องโดยสารด้านหลัง ช่วยให้ผู้โดยสารด้านหนังเย็นสบายมากขึ้นตลอดการเดินทาง หน้าจอกลางระบบสัมผัสขนาด 9 นิ้ว (รุ่นเริ่มต้นขนาด 7 นิ้ว) รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย และ แท่น Wireless Charger สำหรับรุ่นกลางและรุ่นท็อป หน้าจอแสดงผลการขับขี่จะเป็นแบบ จอสี LED ขนาด 4.2 นิ้ว และจะมีบนกระจกใสเหนือมาตรวัด เพื่อที่จะช่วยให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องละสายตาจากถนน ระบบความปลอดภัย สิ่งที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ ระบบความปลอดภัย สิ่งที่ทุกรุ่นย่อยจะได้มาเหมือนกันคือ เซ็นเซอร์ถอยหลังพร้อมสัญญาณเตือน กล้องมองหลัง ถุงลมนิรภัย SRS 6 ตำแหน่ง ได้แก่ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า 2 ตำแหน่ง, ถุงลมนิรภัยด้านข้าง 2 ตำแหน่ง และ ม่านถุงลมนิรภัย ติดตั้งอยู่บริเวณเหนือขอบหน้าต่างด้านข้างตลอดแนวฝั่งซ้ายและขวาอีก 2 ตำแหน่ง ระบบป้องกันล้อล็อก (ABS) และระบบกระจายแรงเบรกอิเล็กทรอนิกส์ (EBD) และอีกหนึ่งระบบความปลอดภัยที่คนมีลูกเล็กน่าจะถูกใจมาก ๆ คือ ระบบล็อกนิรภัยป้องกันเด็กเปิดประตูหลัง และ จุดยึดเบาะสำหรับเด็ก 2 ตำแหน่ง เป็นต้น Suzuki Fronx กับราคาเริ่มต้น 6 แสนปลาย ๆ คุ้มไหม เหมาะกับใคร ถ้าจะให้บอกคาแรคเตอร์ของรถ Suzuki ก็ต้องบอกเลยว่า จุเด่นของรถแบรนด์นี้คือเรื่องของความประหยัดน้ำมัน ความคุ้มค่า ไม่ค่อยมีปัญหาจุกจิก หลาย ๆ คนเลยมักจะเลือกซื้อ Suzuki เป็นรถยนต์คันแรก ส่วน Suzuki Fronx ในราคาเริ่มต้น 689,000 บาท กับสเปคและฟังก์ชันต่าง ๆ ที่ให้มา ถ้าพูดถึงเรื่องความคุ้มค่าอย่างเดียวรถรุ่นนี้ถือว่าคุ้มค่าสุด ๆ ไหม อาจจะยังไม่ใช่ เพราะถ้าคุณมีงบประมาณสัก 700,000 บาท แล้วต้องการรถที่ให้ทั้งความประหยัด สเปคเทพ ๆ ฟีเจอร์ล้น ๆ และเทคโลยีใหม่ รถ EV แบรนด์จีนอาจจะเป็นตัวเลือกที่ใช่และตอบโจทย์ในเรื่อความคุ้มค่าให้คุณได้มากกว่า แต่ถ้าพูดถึงการใช้งานในระยะยาว สมรรถนะ ความประหยัด และความน่าเชื่อถือ บวกกับถ้าคุณยังเป็นคนที่ชื่นชอบรถที่ใช้น้ำมัน เน้นขับสบาย ๆ คุณอาจจะต้องลองไปสัมผัสกับ All New Suzuki Fronk 2025 ดูค่ะ เครดิตภาพปก/ภาพประกอบ/วิดีโอ ภาพปก: Suzuki Motor Thailand ภาพประกอบ: Suzuki Motor Thailand: ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่3 / ภาพที่ 4 และภาพที่5 / ภาพที่ 6 วิดีโอ: Suzuki Motor Thailand เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !