9 ทริคกำจัดหนูในบ้าน ด้วยกับดักหนู ต้องทำยังไงดี ถึงจะได้ผล มารู้กันเลย! เขียนโดย ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล หลายคนอาจคิดว่าการกำจัดหนูด้วยกับดักเป็นเรื่องง่าย แค่ซื้อกับดักมาใส่เหยื่อแล้ววางไว้ก็น่าจะได้ผล แต่ความจริงแล้วหนูเป็นสัตว์ที่ฉลาดและระมัดระวังสูง เพราะหนูมีประสาทสัมผัสด้านกลิ่นและการสังเกตที่ไว ทำให้หากการวางกับดักไม่ถูกตำแหน่ง ใช้เหยื่อไม่เหมาะสม หรือมีกลิ่นมือคนติดอยู่ หนูก็มักจะหลีกเลี่ยงทันที สิ่งนี้คือสาเหตุหลักที่ทำให้หลายบ้านพยายามซ้ำแล้วซ้ำเล่าแต่ก็จับหนูไม่ได้สักทีนะคะ และสิ่งที่ทำให้คนทั่วไปพลาด คือ การมองข้ามรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่เป็นเทคนิคเฉพาะ เช่น การไม่รู้ว่าหนูชอบวิ่งเลาะผนัง ไม่ตรวจสอบกับดักทุกวัน หรือไม่คำนึงถึงการปิดกั้นแหล่งอาหารและทางหนี หนูจึงยังมีเหตุผลที่จะเข้ามาในบ้านต่อไป ซึ่งการกำจัดหนูให้ได้ผลจริงนั้น จึงต้องอาศัยทั้งความเข้าใจพฤติกรรมของหนู และการประยุกต์ใช้เคล็ดลับที่เหมาะสมค่ะ ที่ไม่ใช่แค่การวางกับดักแบบสุ่มๆ แล้วหวังว่าจะได้ผลนะคะ และต่อไปนี้คือเทคนิคที่จำเป็นต้องรู้ หากต้องการจับหนูให้ได้ด้วยกับดักค่ะ 1. เลือกตำแหน่งวางกับดักให้เหมาะสม คุณผู้อ่านรู้ไหมคะว่า การเลือกตำแหน่งวางกับดักถือเป็นหัวใจสำคัญของการกำจัดหนู ถ้าหากวางในจุดที่ไม่ใช่เส้นทางเดินหรือพื้นที่ที่หนูใช้เป็นประจำ โอกาสในการจับได้จะน้อยลงมาก ปกติหนูมักชอบวิ่งเลาะตามผนัง มุมห้อง หรือพื้นที่ที่มืดและเงียบ เช่น ใต้ตู้เย็น หลังตู้กับข้าว หรือใต้บันได ซึ่งจุดเหล่านี้คือพื้นที่ปลอดภัยในมุมมองของหนู การนำกับดักไปวางบริเวณดังกล่าว จะช่วยเพิ่มโอกาสที่หนูจะเข้ามาใกล้เหยื่อและพลาดท่าได้ง่ายกว่ามากค่ะ นอกจากนี้ควรสังเกตร่องรอยที่หนูทิ้งไว้ เช่น ขี้หนู คราบมันบนผนัง หรือเศษอาหารที่ถูกกัดแทะ เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการเลือกตำแหน่งวางกับดัก การใช้หลักฐานที่เห็นชัดเจนมีส่วนช่วยให้เรารู้ได้ว่า หนูมักปรากฏตัวที่ใดบ่อยที่สุด หากเลือกตำแหน่งที่ถูกต้องแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องใช้กับดักจำนวนมากเกินไปค่ะ แต่จะได้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากกว่า ถือเป็นการใช้กลยุทธ์ที่ชาญฉลาดและไม่เปลืองแรงโดยเปล่าประโยชน์อีกด้วยนะคะ 2. ใช้กับดักหลากหลายแบบ การใช้กับดักแบบเดียวซ้ำๆ อาจทำให้หนูบางตัวเริ่มเรียนรู้และหลีกเลี่ยงได้ เพราะหนูเป็นสัตว์ที่ปรับตัวเก่งและระมัดระวัง การมีกับดักหลากหลายชนิด เช่น กับดักสปริงไม้ดั้งเดิม กับดักกาว กล่องดักหนู หรือกับดักไฟฟ้า จะช่วยสร้างแรงกดดันให้หนูไม่สามารถหลบหนีได้ทุกทิศทาง เพราะแต่ละแบบก็มีข้อดีที่แตกต่างกัน เช่น กับดักสปริงใช้ได้ผลเร็ว ส่วนกับดักกาวเหมาะกับพื้นที่แคบที่หนูชอบวิ่งผ่าน การผสมผสานหลายวิธี จึงทำให้ครอบคลุมและเพิ่มประสิทธิภาพได้มากขึ้นนะคะ ในบางพื้นที่ของบ้าน เช่น ห้องครัวหรือห้องเก็บอาหาร อาจเลือกใช้กับดักกาวเพราะปลอดภัยต่อเด็กและสัตว์เลี้ยง ส่วนในมุมลับตาหรือหลังตู้กับข้าวอาจใช้กับดักสปริงที่แรงและได้ผลทันที การเลือกกับดักให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและวางแบบสลับกัน ยังช่วยป้องกันไม่ให้หนูคุ้นเคยจนหลบเลี่ยงได้ตลอด เมื่อหนูไม่รู้ว่าจะเจอกับดักชนิดใดในเส้นทาง โอกาสที่หนูจะพลาดท่าก็ยิ่งสูงขึ้น นี่คือกลยุทธ์ที่ทำให้การกำจัดหนูได้ผลเร็วและยั่งยืนกว่าเดิมค่ะ 3. ใช้อาหารล่อที่หนูโปรดปราน รู้ไหมคะว่า หนูเป็นสัตว์ที่มีระบบสัมผัสกลิ่น และมีนิสัยชอบอาหารที่มีไขมันหรือมีกลิ่นแรง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ช่วยล่อให้หนูรู้สึกตื่นเต้นและอยากเข้าใกล้ เช่น เนยถั่วชนิดมีรสเข้ม ชีสเนื้อละเอียด ปลาแห้ง หรือเศษอาหารที่มีกลิ่นคาว เช่น ปลาทูหรือปลาแห้งก้อนเล็กๆ หรือเศษชิ้นเดียวที่มีกลิ่นแรง จะดึงดูดให้หนูเดินเข้ามาลองสัมผัสกับกับดักได้ง่ายกว่าอาหารจืดชืดทั่วไป อย่างเช่น เศษขนมปังหรือข้าวสวยที่แทบไม่มีคุณสมบัติดึงดูดเลย ซึ่งการเลือกเหยื่อที่มีคุณสมบัติทั้งมีกลิ่นและมีไขมัน เป็นกุญแจสำคัญในการเพิ่มโอกาสในการล่อหนูเข้าหากับดักให้ได้ผลค่ะ และการวางเหยื่อควรมีความเหมาะสมทั้งด้านปริมาณและตำแหน่งการวาง ถ้าใส่มากเกินไป หนูอาจกินเฉพาะส่วนที่อยู่นอกกับดักโดยไม่ลงไปในกับดัก แต่หากใส่น้อยเกินไป กลิ่นอาจไม่เพียงพอที่จะดึงดูดได้ ดังนั้นควรใช้ปริมาณที่พอเหมาะ พอให้หนูสนใจแต่ยังต้องเอื้อมเข้ามาหากับดักได้ ซึ่งจะเพิ่มโอกาสให้หนูพลาดท่าได้มากขึ้นด้วยนะคะ ในการวางเหยื่อควรใช้ถุงมือยางหรือคีมเล็กๆ ซึ่งจะช่วยลดกลิ่นมือของมนุษย์ที่อาจทำให้หนูได้กลิ่นและไม่กล้าเข้าหากับดักค่ะ 4. จัดวางกับดักหลายอันในพื้นที่เดียวกัน เป็นเรื่องปกติที่การใช้กับดักเพียงอันเดียว อาจไม่เพียงพอในการจัดการหนูค่ะ เพราะโดยธรรมชาติแล้วหนูไม่ได้อยู่ตัวเดียว แต่มักอาศัยรวมกันเป็นกลุ่ม การวางกับดักหลายอันในพื้นที่เดียวกัน เช่น ตามแนวผนัง ใต้ตู้ หรือมุมห้องที่มีร่องรอยการกัดแทะ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการจับได้มากกว่า การเว้นระยะห่างแต่ละกับดักประมาณ 2–3 เมตร ก็มีส่วนทำให้สามารถครอบคลุมเส้นทางการเดินของหนูได้กว้างขึ้น และลดโอกาสที่หนูจะหลบเลี่ยงไปได้ และการวางหลายกับดักยังเป็นการสร้างแนวป้องกัน ให้หนูไม่สามารถเลือกเส้นทางที่ปลอดภัยได้ ถ้าหนูบางตัวหลีกเลี่ยงกับดักหนึ่ง แต่ยังมีโอกาสพลาดกับดักอีกอันที่อยู่ใกล้ๆ วิธีนี้ยังช่วยเร่งเวลาในการกำจัด เพราะสามารถจับหนูได้มากกว่าหนึ่งตัวในช่วงเวลาเดียวกัน ซึ่งถือเป็นเทคนิคที่ชาญฉลาดสำหรับบ้านที่มีปัญหาหนูระบาดหนัก และช่วยให้การควบคุมสถานการณ์มีประสิทธิภาพมากขึ้นได้ค่ะ 5. วางกับดักตามแนวผนัง หลายคนยังไม่รู้ว่า หนูเป็นสัตว์ที่มักเลือกเส้นทางที่ปลอดภัยที่สุดในการเคลื่อนไหว ที่โดยธรรมชาติแล้วหนูจะชอบวิ่งเลาะตามแนวผนังมากกว่ากลางห้องนะคะ เพราะการวิ่งตามผนังช่วยให้หนูรู้สึกปลอดภัยจากการถูกโจมตีรอบด้าน ดังนั้นการวางกับดักชิดผนังจึงเป็นกลยุทธ์ที่ได้ผลกว่าการวางไว้กลางพื้นที่ และการหันด้านที่ใส่เหยื่อเข้าหากำแพง ยังช่วยบังคับให้หนูต้องเข้าใกล้เหยื่อโดยตรง และเพิ่มโอกาสให้หนูเดินชนกับดักในที่สุดค่ะ ซึ่งการเลียนแบบพฤติกรรมธรรมชาติของหนูเป็นสิ่งสำคัญ หากเราวางกับดักไว้กลางห้อง แม้จะใส่เหยื่อที่มีกลิ่นแรง หนูส่วนใหญ่ก็ยังไม่กล้าเสี่ยงเข้าไปค่ะ เพราะพื้นที่โล่งทำให้หนูรู้สึกไม่ปลอดภัย ดังนั้นการจัดวางกับดักตามแนวผนังหรือมุมห้องที่เงียบมืด จึงเป็นการใช้ธรรมชาติของหนูให้เป็นประโยชน์ เทคนิคนี้ไม่เพียงแค่เพิ่มประสิทธิภาพของกับดัก แต่ยังช่วยให้การกำจัดหนูทำได้เร็วและตรงจุดมากขึ้นด้วยค่ะ 6. ตรวจสอบกับดักทุกวัน การตรวจสอบกับดักทุกวันถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามค่ะ เพราะหากปล่อยทิ้งไว้นานเกินไป ซากหนูที่ติดกับดักอาจส่งกลิ่นเหม็น สร้างความไม่สะอาด และกลายเป็นแหล่งแพร่กระจายสิ่งปนเปื้อนในบ้านได้ การตรวจสอบวันละ 1–2 ครั้ง เช่น ตอนเช้าและตอนเย็น จะช่วยให้เรารู้ผลได้ทันทีว่ากับดักทำงานหรือไม่ หากพบว่าเหยื่อหายไปแต่ยังจับไม่ได้ นั่นเป็นสัญญาณว่าต้องปรับตำแหน่งหรือเปลี่ยนวิธีการใช้กับดัก เพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นนะคะ นอกจากการตรวจสอบว่ากับดักจับหนูได้หรือไม่แล้ว ยังควรใส่ใจเรื่องความสะอาดและความพร้อมของกับดักด้วย หากเป็นกับดักกาวที่มีฝุ่นหรือเศษผงติดมาก ควรเปลี่ยนใหม่ทันที ส่วนกับดักสปริงควรทดสอบกลไกและใส่เหยื่อใหม่ทุกครั้งที่ตรวจ อีกทั้งการเก็บข้อมูลว่ากับดักจุดใดจับได้มากหรือน้อย จะช่วยให้เรารู้เส้นทางที่หนูใช้เดินผ่านได้จริง และสามารถวางกลยุทธ์ควบคุมได้ตรงจุด การตรวจสอบสม่ำเสมอจึงไม่ใช่เพียงการเก็บซาก แต่คือการปรับปรุงประสิทธิภาพในการกำจัดหนูอย่างต่อเนื่องค่ะ 7. ใช้กลิ่นมนุษย์ให้น้อยที่สุด หนูเป็นสัตว์ที่มีประสาทรับกลิ่นไวมาก หากกับดักหรือเหยื่อมีกลิ่นมือมนุษย์ติดอยู่ หนูมักจะไม่กล้าเข้าใกล้และเลือกเส้นทางอื่นแทนค่ะ ดังนั้นการจัดการกับกับดักและเหยื่อควรทำอย่างระมัดระวัง เช่น ใช้ถุงมือยาง คีมคีบ หรืออุปกรณ์ช่วยหยิบเหยื่อ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้กลิ่นจากเหงื่อหรือผิวหนังไปเกาะติด การลดกลิ่นมนุษย์ช่วยทำให้หนูไม่สงสัย และเพิ่มโอกาสที่มันจะเข้าไปติดกับดักได้ง่ายขึ้นนะคะ นอกจากนี้ควรทำความสะอาดพื้นที่วางกับดัก และหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีกลิ่นแรง เช่น น้ำหอม สบู่ หรือสเปรย์ปรับอากาศใกล้บริเวณนั้น เพราะหนูอาจจับกลิ่นได้และเกิดความระแวงทันที การปล่อยให้กับดักและเหยื่อคงสภาพเป็นธรรมชาติที่สุดคือกลยุทธ์ที่ได้ผลค่ะ ซึ่งการเข้าใจพฤติกรรมและการระวังเรื่องกลิ่น ถือเป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับสำคัญที่ช่วยให้การกำจัดหนูประสบความสำเร็จเร็วขึ้นและลดความยุ่งยากได้มากนะคะ 8. เปลี่ยนตำแหน่งวางเป็นระยะ การวางกับดักไว้ที่ตำแหน่งเดิมนานเกินไป อาจทำให้หนูเริ่มเรียนรู้และหลีกเลี่ยงได้ค่ะ เพราะหนูเป็นสัตว์ที่ปรับตัวไวและมีความระแวงสูง การเปลี่ยนตำแหน่งวางกับดักทุกๆ 4–5 วัน จึงเป็นวิธีที่ช่วยทำให้หนูไม่คุ้นเคยกับสิ่งแปลกปลอมในพื้นที่ และยังช่วยให้ครอบคลุมเส้นทางการเดินของหนูได้กว้างขึ้นด้วย การโยกย้ายกับดักไปยังมุมใหม่ๆ เช่น จากใต้ตู้เย็นไปยังหลังตู้กับข้าว หรือจากมุมครัวไปยังห้องเก็บของ จะช่วยสร้างความไม่แน่นอนและเพิ่มโอกาสในการจับได้นะคะ และนอกจากการเปลี่ยนตำแหน่งแล้ว ควรสังเกตร่องรอยที่หนูทิ้งไว้ เช่น ขี้หนู คราบมันบนผนัง หรือเศษอาหารที่ถูกกัด เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการเลือกพื้นที่ใหม่ๆ การย้ายกับดักอย่างมีแผน ไม่เพียงแต่ช่วยให้จับหนูได้เร็วขึ้น แต่ยังเป็นการลดโอกาสที่หนูจะเอาตัวรอดได้ตลอดเวลา ถือเป็นกลยุทธ์ที่ทำให้หนูเสียความมั่นใจ และเป็นตัวช่วยให้การกำจัดหนูในบ้านสำเร็จอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนค่ะ 9. กำจัดแหล่งอาหารและทางหนี ถึงแม้ว่าจะวางกับดักจำนวนมาก แต่หากยังมีเศษอาหารหรือกลิ่นอาหารในบ้าน หนูก็ยังมีแรงจูงใจที่จะกลับมาเสมอค่ะ ซึ่งการเก็บอาหารทุกชนิดในภาชนะปิดสนิท ล้างจานชามทันทีหลังใช้งาน และปิดฝาถังขยะให้แน่น คือสิ่งที่ช่วยตัดวงจรการเข้ามาหาอาหารของหนูได้โดยตรง การทำให้บ้านปลอดจากแหล่งอาหารง่ายๆ จะทำให้หนูหมดความสนใจ และเพิ่มโอกาสเข้ามาเจอกับดักมากขึ้นหลายเท่า นอกจากอาหารแล้ว ช่องโหว่ตามผนัง พื้น หรือมุมเล็กๆ ก็คือเส้นทางที่หนูใช้เข้ามาและหลบหนี การอุดรอยแตกด้วยซีเมนต์ เหล็กตาข่าย หรือซิลิโคน รวมถึงการตรวจสอบประตู หน้าต่าง และท่อน้ำให้แน่นหนา จะช่วยปิดเส้นทางการเคลื่อนไหวของหนูได้ การกำจัดทั้งอาหารและทางหนีไปพร้อมกัน จึงเป็นวิธีการที่สมบูรณ์ที่สุด เพราะต่อให้กับดักดีแค่ไหน หากบ้านยังเปิดโอกาสให้หนูเข้าออกได้อิสระ ก็ยากที่จะควบคุมสถานการณ์ให้ได้ผลจริงค่ะ ก็มีเพียงเท่านี้ค่ะ กับแนวทางจัดการหนูด้วยกับดัก พอจะมองเห็นภาพกันไหมคะ? ที่โดยสรุปแล้วเคล็ดลับการกำจัดหนูด้วยกับดักที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น ล้วนเชื่อมโยงกันเป็นระบบที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้จริง ตั้งแต่การเลือกตำแหน่งวางที่ถูกต้อง การใช้อาหารล่อที่ดึงดูด การวางหลายกับดักร่วมกัน ไปจนถึงการตรวจสอบและปรับเปลี่ยนตำแหน่งอย่างต่อเนื่อง ทุกอย่างไม่ใช่เพียงรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ นะคะ แต่เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้การกำจัดหนูประสบความสำเร็จ หากละเลยข้อใดข้อหนึ่ง ประสิทธิภาพของกับดักก็จะลดลงไปมาก และทำให้หนูรอดพ้นได้ง่ายขึ้นค่ะ โดยในสถานการณ์จริงนั้น การเริ่มต้นก็ไม่จำเป็นต้องทำทุกอย่างพร้อมกัน แต่ควรเริ่มจากจุดง่ายๆ ก่อน เช่น สังเกตร่องรอยการเดินของหนูแล้ววางกับดักตามแนวผนัง ใช้เหยื่อที่มีกลิ่นแรง และตรวจสอบผลวันละ 1–2 ครั้ง เมื่อมั่นใจแล้วจึงค่อยเพิ่มจำนวนกับดัก เปลี่ยนตำแหน่ง หรือสลับชนิดกับดักเพื่อให้ครอบคลุมมากขึ้น ซึ่งวิธีการค่อยเป็นค่อยไปแบบนี้ มีส่วนช่วยให้ไม่รู้สึกยุ่งยากจนเกินไป และเห็นผลได้จริงในเวลาไม่นานค่ะ และจุดที่ถือว่าเป็นสัญญาณว่าทำได้ดี คือ เมื่อหนูเริ่มถูกจับได้ภายใน 1–3 วันแรก และร่องรอยการปรากฏตัว เช่น ขี้หนูหรือคราบมันลดน้อยลง แสดงว่าการวางกับดักและการจัดการแหล่งอาหารทำงานสอดคล้องกันอย่างมีประสิทธิภาพ การตรวจสอบต่อเนื่องและการรักษาความสะอาดในบ้าน คือสิ่งที่ควรทำต่อเนื่องเพื่อไม่ให้ปัญหากลับมาอีก ซึ่งจริงๆ แล้วการกำจัดหนูจึงไม่ใช่เรื่องซับซ้อนค่ะ หากเข้าใจหลักการและทำตามเคล็ดลับข้างต้นอย่างเป็นแบบแผนนะคะ เพราะว่าที่นี่ผู้เขียนก็ยึดหลักการข้างต้นเหมือนกันค่ะ แต่ว่าปรับใช้ในรูปแบบใหม่ๆ ตลอดเวลา เช่น เปลี่ยนอาหารล่อชนิดใหม่ โดยในตอนแรกๆ ที่ผู้เขียนเห็นพ่อดักหนูนั้น พ่อใช้เป็นอาหารค่ะ เช่น เนื้อวัวที่สุกแล้ว เนื้อวัวดิบ เป็นต้น จากนั้นพ่อก็มาเปลี่ยนเป็นการใช้ข้าวเหนียวที่นำไปย่างไฟแทน ที่ในบางทีก็เป็นข้าวเหนียวนึ่งแบบธรรมดา ในบางครั้งเหยื่อก็หายไปค่ะ แต่หลายครั้งสามารถจับหนูได้ด้วยกับดักค่ะ และที่นี่ยังใช้วิธีการอื่นร่วมด้วย เช่น การไม่สะสมของใช้ที่เกินความจำเป็น การจัดการเศษอาหารอย่างเป็นระบบ และการเก็บกวาดทำความสะอาดบ้านแบบเป็นแบบแผนมากขึ้น ที่ในตอนหลังมาหนูน้อยลงในห้องเก็บของ แต่ก็ไม่ล้มเลิกความพยายามที่จะดักจับหนูด้วยกับดักค่ะ ยังไงนั้นหากคุณผู้อ่านเจอปัญหาเรื่องหนู ก็ลองนำเทคนิคต่างๆ ในนี้ไปใช้กันค่ะ และด้วยความตั้งใจ ผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่มากก็น้อย หากสนใจเนื้อหาเช่นนี้อีก อย่าลืมกดติดตามหรือบุ๊กมาร์กโปรไฟล์ไว้ เพื่อรับข้อมูลใหม่ๆ ในบทความต่อไป ถ้าต้องการอ่านบทความทั้งหมดโดยผู้เขียน ให้กดดูโปรไฟล์ได้เลยค่ะ #การกำจัดหนู #การควบคุมสัตว์และแมลงพาหะนำโรค #อนามัยสิ่งแวดล้อม #DiseasePrevention เครดิตรูปภาพประกอบบทความ รูปภาพทำหน้าปกและออกแบบหน้าปกโดยผู้เขียน ใน Canva รูปภาพประกอบบทความ: ภาพที่ 1-3 โดยผู้เขียน และภาพที่ 4 โดย slyfox photography จาก Unsplash เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา: พยาบาลศาสตรบัณฑิต จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ: สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การบำบัดน้ำเสียและกำจัดสิ่งปฏิกูล ทำไมในบ้านถึงมีหนู อะไรคือต้นเหตุ สัตว์พาหะนำโรคชนิดนี้ 9 วิธีรับมือกับสัตว์และแมลงพาหะต่างๆ เพื่อสุขอนามัยที่ดีกว่า 9 วิธีจัดการน้ำเสียและเศษอาหาร จากครัวบ้าน อย่างถูกสุขลักษณะ เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !