" เห้อออ จะสอบทีไม่เคยมีไฟเลย เหนื่อยจัง " ประโยคนี้มักจะหลุดออกมาจากสมองของเราในตอนที่คุณรู้ว่าตัวเองกำลังมีสอบ แต่เห้อ ทำไมมันเหนื่อยมันท้อขนาดนี้นะ และวันนี้เราจะแนะนำการสอบยังไงให้มีไฟ โดย w.wi_ne1. Exam Schedule ( ตารางสอบ ): หากคุณได้ตารางสอบมาแล้วให้คุณนำตารางสอบมาแบ่งว่าควรอ่านวิชาไหนก่อน โดยควรอ่านวิชาที่สอบวันแรกเรียงไปวันสุดท้าย เพื่อที่เราจะได้มีเวลาในการเตรียมตัวที่พอดีให้กับวิชาที่เราไม่เข้า และหากกวิชาไหนที่เราค่อนข้างมั่นใจ เราอาจจะเอาเวลาที่เหลือไปอ่านวิชาอื่นที่เราไม่เข้าใจเพิ่มเติมได้มากขึ้น2. To Do List: ให้คุณนำบทที่จะออกสอบมาแบ่งออกเป็นหัวข้อต่างๆเพื่อที่คุณจะได้รู้ว่าในบทนี้มีหัวข้อเกี่ยวกับอะไรบ้าง3. 5 minutes Rule ( กฎ 5 นาที ): วิธีนี้คือหากคุณกำลังอยากอ่านหนังสือหรือถึงเวลาที่คุณต้องอ่านหนังสือแล้ว แต่คุณยังไม่พร้อมที่จะไปอ่านหนังสือ คุณลองใช้กฎนี้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคุณควรทำตามกฎที่ตัวคุณเองตั้งไว้ *วิธีนี้ต้องบอกก่อนว่าแล้วแต่นิสัยของแต่ละคน โดยส่วนตัวนักเขียนแนะนำว่า 5 นาทีกำลังพอดีหรือคุณอาจจะเพิ่มหรือลดเวลาตามสมควร4. Don't Say " LAZY " ( ไม่พูดคำว่า " ขี้เกียจ " ): ตามหลักวิทยาศาสตร์หากคุณพูดคำว่าขี้เกียจตัวคุณนั้นจะมีผลกับคำนี้มากกว่าที่คุณเหนื่อยแต่คุณไม่พูด เหมือนคุณกำลังบอกสมองคุณว่าขี้เกียจแล้วสมองของคุณก็จะขี้เกียจตามที่คุณพูดออกมา ทั้งที่ในความเป็นจริงคุณสามารถทำมันได้ต่อ5. Social Detox: การทำการบำบัดเพื่อให้เรากลับมาใช้ชีวิตได้อย่างดีขึ้น เพื่อที่เราจะไม่ติดโซเชียลมากจนเกินไป6. Break: การนั่งอ่านหนังสือนานไปนั้นอาจทำให้เกิดอาการล้า เพราะฉะนั้นเราควรพัก ดีกว่าการที่เราจะนั่งติดต่อกันเป็นเวลานาน เพราะสุขภาพร่างกายที่ดีต่อตัวเองและสมองของเราด้วย สมองของเราไม่ควรได้รับอะไรที่มันหนักมากจนเกินไป7. Walking: ต่อจากการพักในข้อที่แล้ว ทุกคนอาจจะคิดว่าพักโดยการไม่เล่นมือถือควรทำอะไรดี การพักที่ดีคือการเลี่ยงการจับมือถือ เพราะฉะนั้นการเดินเป็นทางออกที่ดีกว่าการที่เราจะนั่งนิ่งอยู่เฉยๆ หรือเอาเวลาไปทานอะไรที่อร่อยอาจจะดีมากขึ้น แต่ ณ ที่นี้ ควรออกกำลังกายกันด้วยนะจ๊ะ8. Punish ( ลงโทษ ): เราควรท้าทายตัวเองด้วยการมีบทลงโทษ เพื่อให้เรามีความซื่อสัตย์ต่อตนเอง หากเราปล่อยปะละเลยในวันที่เราอ่านหนังสือไม่ครบหรืออะไรก็แล้วแต่แล้วเราไม่มีบทลงโทษให้ตัวเอง เราอาจได้ใจ ต่อมาความขี้เกียจก็จะเอาชนะไฟที่เราอุส่าห์ตั้งใจทำจนมาถึงข้อนี้นั้น นับเป็นเรื่องที่แย่ทีเดียว เช่น ถ้าวันนี้เราไม่อ่านหนังสือก็ต้องมีบทลงโทษอย่างอ่านเพิ่ม งดอาหาร หรือเก็บตังค์9. Reward ( รางวัล ): มีบทลงโทษก็ต้องมีรางวัลกันนะคะสาวๆ กว่าจะอ่านหนังสือ เขียนสรุปได้แต่ละหน้านั้น มันเหนื่อย มันท้อ เพราะฉะนั้น อาหารอร่อยๆสักมื้อ หรือของน่ารักๆสักชิ้นก็อาจจะทำให้เรามีกำลังใจได้มากขึ้นนะคะ ปล.ทุกคนอาจคิดเราจะเอาตังค์ที่ไหนไปซื้อของเหล่านั้้นกัน ย้อนกลับไปข้อที่แล้วนะคะ เก็บตังค์ค่ะ ยึดไปเลย ทำไม่ได้ก็ต้องยอมเสียกันนะคะ การมีความซื่อสัตย์กับตัวเองถือเป็นเรื่องที่ดีที่สุดนะคะ10. Teach ( สอน ): การสอนผู้อื่นทำให้เราได้เข้าใจในเนื้อหามากขึ้นและเป็นการทบทวนเนื้อหาของที่ตัวเองที่ไม่เข้าใจหรือเข้าใจอยู่แล้วให้มากขึ้นไปอีกนะคะ แต่ถ้าสกิลเรานั้นยังสอนคนอื่นยาก ก็ไปให้เค้าสอนเรา แลกเปลี่ยนวิชากัน เธอสอนวิชานี้ เราสอนวิชานี้ ได้เพื่อนเพิ่มอีกหนึ่ง บอกเลยข้อนี้มีแต่กำไร ไม่มีแหวน แท๊น สำหรับใครที่ชอบการอธิบายของเราสามารถติดตามเราได้ที่ IG : w.wi_ne นะคะ มาเมคเฟรนด์กันน้าาา ปล.เราติ่งนะ5555 เครดิต : w.wi_ne ( Creator ) เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !