2 โบรกฯ ตรวจเช็กสุขภาพ "BH" เก็บรอ หรือ รอเก็บ
บล.ดาโอ คงคำแนะนำ “ซื้อ” BH และคงราคาเป้าหมาย 265.00 บาท อิง 2566E PER ที่ 40.0x ประเมินว่า BH จะรายงานกำไร Q2/66E ที่ 1,366 ล้านบาท (+17% YoY, -14% QoQ) เติบโตจากคนไข้ต่างชาติที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ลดลง QoQ เพราะเป็นช่วงวันหยุดสงกรานต์ และตรงการเทศกาลรอมฎอน ทำให้คนไข้ตะวันออกกลาง ไม่ได้เข้ามารักษาในช่วงนี้ (เดือนมี.ค. - เม.ษ.) ทำให้คาดรายได้จะอยู่ที่ 5,400 ล้านบาท (+10% YoY, -11% QOQ) ซึ่งคาดสัดส่วนต่างชาติอยู่ที่ 66% จากรายได้ที่ลดลงทำให้ GPM ลดลง QoQ แต่เพิ่มขึ้น YoY อยู่ที่ 47% (Q2/65 = 46.2%, Q1/66 = 47.9%) และ SG&A/revenue เพิ่มขึ้น QoQ และลดลง YoY อยู่ที่ 17.8% (Q2/65 =18.1%, Q1/66 = 16.8%)
ฝ่ายวิจัยคงประมาณการกำไรปี 2566E ที่ 5,270 ล้านบาท (+7% YoY) โดยการเติบโตมาจากรายได้จากผู้ป่วยซาอุฯ เต็มปีหลังจากการเข้าทำตลาดตั้งแต่ต้นปี 2565 อีกทั้งรัฐบาลซาอุฯ ได้เพิ่มโควต้านักท่องเที่ยวซาอุฯ ที่เดินทางมาไทยเป็น 100,000 – 150,000 คน จากเดิม 30,000 คน และจะขยายฐานลูกค้าเพิ่มโดยรุกตลาดเวียดนาม นอกจากนี้ ทางรัฐบาลสนับสนุนให้ประเทศเป็น medical hub ทำให้รพ.ไทยเป็นที่รู้จักมากขึ้นสำหรับผู้ป่วยต่างชาติที่สนใจเข้ามารับบริการ โดย BH มีสัดส่วนผู้ป่วยต่างชาติสูงสุดที่ราว 67% (pre-covid level) ทั้งนี้ มองว่ากำไร Q3/66E จะเติบโต YoY, QoQ เข้าสู่ช่วง high season จากฤดูที่เปลี่ยนแปลง รวมถึงไข้เลือดออก รวมถึงคนไข้ต่างชาติเติบโตต่อเนื่อง
ราคาหุ้น underperform SET -5% ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา จากการแนวโน้มผลดำเนินงานจะชะลอตัว QoQ เนื่องจากเป็นช่วง low season ของกลุ่มรพ. ปัจจุบัน BH เทรดอยู่ที่ 2566E PER ที่ 32.4x (ใกล้เคียง -0.75SD below 5-yr avg PER) โดยราคาหุ้น BH เคยสูงสุดที่ 250 บาท ในปี 2558 ซึ่งมีกำไรสุทธิเพียง 3,436 ล้านบาท และปี 2562 (ก่อน COVID) กำไรอยู่ที่ 3,794 ล้านบาทเท่านั้น
ฝ่ายวิจัยคาดว่ากำไร BH จะเติบโตต่อเนื่อง อีกทั้งยังมี upside จากการปรับขึ้นค่ารักษา โดยทุกๆ การปรับขึ้น 2% ของค่ารักษา จะเป็น upside ต่อประมาณการที่ +5%, จำนวนคนไข้ต่างชาติที่มากกว่าคาด โดยเฉพาะซาอุดิอาระเบีย และขยายฐานลูกค้าต่อเนื่อง รวมถึงในอนาคต BH จะเปิดรพ.ที่ภูเก็ตที่จะขยายฐานคนไข้ที่อาศัยอยู่ที่พื้นที่ภาคใต้ทำให้กำไรของ BH เติบโตต่อเนื่อง และมองว่า 2H66E จะเติบโตดี HoH จากคนไข้ต่างชาติที่เติบโตดีเกินคาด โดยจะเป็น upside ต่อประมาณการของฝ่ายวิจัย
ด้าน บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) คาดว่ากำไรสุทธิของ BH ใน Q2/66F จะอยู่ที่ 1.30 พันล้านบาท (+11.6% YoY, -17.8% QoQ) คิดเป็น 24.2% ของประมาณการกำไรเต็มปีของฝ่ายวิจัยที่ 5.39 พันล้านบาท นอกจากนี้ คาดว่ากำไรสุทธิของ BH ใน 1H66F จะอยู่ที่ 2.89 พันล้านบาท (+52.6% YoY) คิดเป็น 58.4% ของประมาณการกำไรเต็มปีของฝ่ายวิจัย
สำหรับในระยะต่อไป คาดว่าผลการดำเนินงานของ BH ใน Q3/66F จะแข็งแกร่งขึ้น ฝ่ายวิจัยยังคงราคาเป้าหมายกลางปี 2567 ที่ 270 บาท (ใช้ WACC ที่ 8.2% และ TG ที่ 3%) เพื่อสะท้อนถึงแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง YoY ในปี 2567F นอจกจากนี้ ยังคง คำแนะนำซื้อ BH