HSBC ตั้งสำรอง 1.1 พันล้านดอลลาร์ คดี Madoff

สำนักข่าว Nikkei Asia รายงานว่า ธนาคาร HSBC Holdings ประกาศว่าจะบันทึกค่าเผื่อหนี้สูญ (provision) มูลค่า 1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในผลประกอบการไตรมาส 3 หลังจากศาลในประเทศลักเซมเบิร์ก มีคำตัดสินในคดีฟ้องร้องที่ยืดเยื้อมานาน ซึ่งเกี่ยวข้องกับคดี Bernard Madoff หนึ่งในคดีฉ้อโกงการลงทุนครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์

ทั้งนี้ HSBCถูกพัวพันในคดีนี้จากการทำหน้าที่เป็นผู้ให้บริการทางการเงินแก่กองทุนหลายแห่งที่นำเงินไปลงทุนกับบริษัท Bernard L. Madoff Investment Securities LLC โดย Herald Fund SPC ได้ยื่นฟ้องHSBC หน่วยงานในลักเซมเบิร์กเมื่อปี 2009 เพื่อเรียกร้องให้ชดใช้ทรัพย์สินที่สูญหายจากการฉ้อโกง

ศาล Court of Cassation แห่งลักเซมเบิร์กมีคำตัดสินเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ปฏิเสธการอุทธรณ์ของHSBC Securities Services Luxembourg (HSSL) ในส่วนของการคืนหลักทรัพย์ ที่ Herald Fund SPC เรียกร้อง แต่ยอมรับการอุทธรณ์ของHSBC ในส่วนที่เกี่ยวกับการคืนเงินสด 

ธนาคารระบุว่า HSSL จะดำเนินการยื่นอุทธรณ์ครั้งที่สองต่อศาลอุทธรณ์ลักเซมเบิร์ก และหากไม่ประสบความสำเร็จ จะดำเนินการโต้แย้งจำนวนเงินที่จะต้องจ่ายในกระบวนการพิจารณาครั้งถัดไป

HSBC กล่าวเพิ่มเติมว่าจะบันทึกค่าเผื่อดังกล่าวในงบไตรมาส 3 โดยคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อ อัตราส่วนเงินกองทุนขั้นที่ 1 (CET1 ratio) ประมาณ 0.15%

นอกจากนี้ ธนาคารระบุว่าการตั้งสำรองนี้จะถูกจัดประเภทเป็นรายการสำคัญที่มีนัยสำคัญ (material notable item) และจะไม่กระทบต่อผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้นที่จับต้องได้ (Return on Tangible Equity: RoTE) เมื่อไม่รวมรายการพิเศษ และจะไม่กระทบต่อการจ่ายเงินปันผลประจำปีของธนาคาร

คดีนี้มีต้นตอมาจากการที่ Herald Fund SPC ยื่นฟ้องเรียกร้องให้คืนหลักทรัพย์และเงินสดที่สูญหายจากการล่มสลายของบริษัท Bernard L. Madoff Investment Securities LLC ซึ่งอยู่ใจกลางของ แผนแชร์ลูกโซ่ (Ponzi scheme) ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โลกการเงิน