สวัสดีครับ ตัวผมเองเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนประเทศ New Zealand ใยยุคโควิด-19!! เรื่องราวและการเดินทางครั้งนี้เป็นความทรงจำและประสปการณ์ที่ผมจะไม่มีวันลืมเลยครับ! ก่อนอื่นเลย ณ วันที่เราเริ่มเดินทางนั้นเราอายุเพียง 14 ปีเท่านั้นเอง แต่อย่่างไรก็ตาม เราจะมานำเสนอประสปการณ์ทั้งหมดที่เราได้เผชิญมาทั้งหมดในปี 2020 สำหรับใครที่สนใจอยากไปแลกเปลี่ยนหรืออยากรู้เรื่องราวการใช้ชีวิตที่ต่างประเทศ ผมขอแนะนำบทความนี้ ผมได้รวมสื่งที่น่าสนใจและไฮไลท์ใน New Zealand ไว้ในบทความนี้เรียบร้อยแล้วนะครับจุดเริ่มต้นเดิมทีแล้วผมเป้นคนที่ไม่ชอบภาษาอังกฤษมากกก.. ในตอนประถม เนื่องจากเป็นสิ่งที่เรารู้สึกเข้าถึงและรับรู้ได้ยาก อาจจะเป็นเพราะ เราไม่ค่อยได้ใช้ภาษาบ่อยครั้งนอกสะจากตอนที่เราเรียนในห้องเรียน เท่านั้น ถึงอย่างงั้นเราก็ทำคะแนนได้ดีมาโดยตลอดจนทำให้ ตั้งแต่ประถม ครอบครัวเรามักจะเสนอให้เราไปเรียนต่างประเทศตลอดหลายๆปีติด จนเราได้ขึ้น ม.1 ตอนนั้นเราจำได้ว่าเรากำลังเลื่อนใ้ช้ social media อยู่แล้วเราไปเจอกับ คลิปเกี่ยวกับ ประการณ์การแลกเปลี่ยนต่างประเทศ เมื่อเราได้นั้งฟังหลายๆคลิปทำให้เริ่มเปลี่ยน mindset เกี๋ยวกับการเรียน ตปท. หลังจากนั้นได้ไม่นานทางโรงเรียนเราได้มี พวก agency ต่างๆมาโปรโมทโครงการที่โรงเรียน เราพอดิบพอดีจนให้เราได้นำข้อเสนอมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับพ่อแม่จนไปในทิทางเดียวกัน เวลาใกล้ๆเข้ามาทุกๆที... (Time flies)หลังจากที่ได้พูดคุยกับครอบครัวเป้นที่เรียบร้อย ผมเหลือเวลาเตรียมตัวเพียง 4 เดือนเท่านั้นซึงเวลาส่วนใหญ่ ณ ตอนนั้นผมก็อยู่กับเวลาเรียนเท่านั้นนอกจาก เสสร์ อาทิตย์ ที่ได้มีโอกาศไปเที่ยวเดินทางเพียงเล็กน้อย เวลาก็ผ่านไปเร็วมากเลย... พอใกล้ช่วงเดินทางผมก็ได้ตรียมตัวตั้งแต่เนิ่นๆ เลยทำให้ตอนใกล้บินนั้นค่อนข้างที่จะพร้อมมากๆ ก่อนเวลาบิน 1 เดือนผมมีโอกาสไปค่ายลูกเสือจริงๆก็เหมือนเป็นค่ายสั่งลาเราตั้งแต่ๆ เนิ่นด้วยซ้ำเป็นค่ายลูกเสิอที่สนุกมากที่สุกที่เราเคยเข้ามาแล้วแหละเริ่มต้นสูนักเรียนแลกเปลี่ยนเต็มตัวในวันที่เรา จะได้บินข้ามประเทศนั้นเรารู้สึกตื่นเต้นมากโดยเฉพาะครอบครัวเรานั้นตื่นเต้นยิ่งกว่าอีกด้วยซ้ำ เรายังจำได้ว่าแม่กับพี่ๆ เรานั้นถึงขั้นหลั่งน้ำตามาชั้วขณะเลย.. หลังจากนั้นการเดินทางของเราก็ได้เริ่มขั้นในอีกไม่นานหลังจากนั้น แต่ก่ออื่นนะ โครงกเราได้แจ้งมากก่อนหน้านี้แล้วว่าจะมีการปรับตัวให้เข้ากับเพื่อนๆและบรรยากาษของประเทศให้ได้ก่อน โดยเรานั้นมีโอกาศไปเที่ยวกับเพื่อนในโครงการที่เมือง Queenstown 3 วัน 2 คืน กับเพื่อนๆในโครงการของเรา จริงๆเป้นทริปที่สนุกมากๆเลยนะ ได้ไปเยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวหลายที่เลย เมื่อถึงเวลากำหนดที่เราจะได้ไป พบเจอ hpst ครั้งแรกเรารู้สึกกังวลมากๆ เนื่องจาก เราพูดภาษาอังกฤษไม่เป็นเลยแต่กลับกันพอเราเจอครั้งแรกพวกเขา พยายามคุยกันเราและทำความรุ้จัก คุ้นชิน เป้นกันเองมากๆ ช่วงแรกๆ เราก็ยังคงไม่ค่อยเข้าใจที่้เขาพยายามสือเท่าไหร่หรอกแต่ก็ เราพยายามฝึกภาษาอังกฤษด้วยตัว้เองผ่านคลิปๆ ต่างและ ท่องคำศัพท์เยอะมากกกๆ ช่วงนั้น โควิดเยือนประเทศนิวซีแลนด์ช่วงที่โควิดละบาดนะ เราอยู่ที่นิวซีแลนด์ได้ประมาณ เกือบ 3 เดือนแล้วตอนนี้ก่อนหน้านี้เราได้พยายามเข้าสังคมแล้วแต่ก็ยังไม่ค่อยมีเพื่อนเท่าไหร่ และอีกอย่างเราพูดไม่คล่องเลย แต่พอมีกิจกรรมกีฬาสี เราได้ลงแข่งวิ่ง 3 กิโลเมตรไป เราได้ที่ 3 เพื่อนๆเลยรู้จักมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามนั้น โควิดมาพอดีทำให้เราต้องอยู่บ้านเป็นเวลาเกือบ 3 เดือนทำให้ภาษาอังกฤษไม่ค่อยพัฒนาเท่าที่ควร แต่ทำให้เราได้สานสัมพันธ์กับ host family มากขึ้นๆ ถึงขั้นทุกวันจะต้องเล่น้เกมและดูหนังก่อนนอนตลอดเป้นเวลาหลายเดือนติดๆ เหมือนเป้น activities หนึงเลยแหละ สำหรับเราแล้ว การ lockdown ครั้งนั้นทำให้เราได้มากกว่าที่เราจะเสีย เพราะว่า เราได้คุยดับเพื่อนๆผ่านทาง social media มากขึ้นทำให้หลังหมดโควิดเราได้ยู่ในกลุ่มเพื่อนๆ และเราได้ลงแข่งกีฬฟุตบอลของโรงเรียนเช่นกันช่วงที่เรารู้สึกสนุกที่สุดในชีวิตแล้ว!!พอเราได้เิริ่มกลับไปเรียนที่โรงเรียนแบบ ปกติเราก็สานความสัมพันธ์ จนมีเพื่อนสนิทหลายคนเลยทีเดียว ในขณะเดียวกันเราก็เล่นฟุตบอลให้กับโรงเรียนก็เต็มเปลี่ยมไปด้วยความสนุกๆ แต่จริงๆก็กดดันหน่อยเพราะว่าเราเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ที่ส่วนใหญ่เขาตัวใหญ่กว่าเรามาก แต่ทั้งปีนั้นเราให้กับที่มโรงเรียนและ เขตที่เราอาศัยอยู่เลยเราค่อนข้างเข้าสังคมแล ได้รู้จักเพื่อนๆหลายคนเพิ่มแบบไม่รุ้ตัวเลยทีเดียวแต่กลับกันสำหรับเราแล้วเรื่องของการเรียนนั้นเราไม่ค่อยเอาใจใส่เท่าที่ควรเนื่องจากเป็นภาษาอังกฤษล้วนเลย แล้วข้อสอบคือเราแปลไม่ค่อยออกเลย แตเราคิดว่าเราได้ประสบการณ์การเข้าสังคมและ การใช้ชีวิตที่สนุกมากๆ ช่วงหนึ่งของวัยรุ่นเราเลยไม่ค่อยกังวงเรื่องคะแนนของเราที่ได้รับจากการเรียนที่นั้นเท่าไหร่ แต่บอกก่อนเลยว่าไม่มีการบ้านเลย! ทุกครั้งที่เรากลับบ้านมานั้นเราออกไปเล่นกีฬาเพื่อนตลอดเลยสิ่งที่ได้รับจากการแลกเปลี่ยน ในประสบการณ์ของเราแล้วรู้สึกว่าเราได้อะไรมากกว่าที่เราจินตนการไว้เยอะพอสมควร ครั้งหนึ่งตอนหลังโควิดซาลงเราได้มีโอกาศ ได้รับการสัมภาษณ์จากำนักข่าว Southland Times เกี่ยวกับการตัดสินใจที่ปรารถนาอยู่ที่ ประเทศต่อในขณะที่โควิดกำลังละบาดอย่างหนัก จนได้ทำให้ได้ลงหนังสือพิมพ์ เป็นอะไรที่เราไม่คาดฝันมาก่อนเลย และ สุดท้ายเราเล่นฟุตบอลจนสามารถช่วย พี่ๆและ เพื่อนๆ ในทีมเลื่อนทีมขึ้น division จาก สอง ไป premier ได้ซึงเรารู้สุกภาคภมืใจที่เป้นส่วนหนึงในการช่วยเหลือทีมถึงเป้นเพียงระยะเวลาสั้นๆ เพียงไม่กี่เดือนนั้นสุดท้ายนี้ เราอยากจะบอกเพื่อนว่าสิ่งที่เรานำเสนอในบทความนี้เป็นเพียงจุดสำคัญๆเท่านั้นเองและ เหมือนเป้นความขอบไปอีกอย่างหลังจากเรากลับมากรู้สึกถ้าหากมีโอกาศไปแลกเปลี่ยนเราก็อยากไปอีกนะ เหมือนเราได้รับประสบการณ์ที่ไม่คาดฝัน ลองสิ่งอะไรใหม่ๆ ที่เรายังไม่เคยได้ทำ ออกจาก comfort zone สำหรับเราเป็นสิ่งที่น่าลองดูก็ไม่เสียหาย ถ้าหากเสียหาย เราก็นำข้อผิดพลานนั้นมาพิจรณาและ แก้ไขเพื่อให้ครั้งต่อไปได้ตระหนักและ ไม่เกิดซ้ำอีกครั้ง ครับ สุดท้ายนี้ขอบคุณที่อ่านบทความนี้จนจบครับ เครดิตภาพภาพปก : kewl โดย kewl จาก Pixabay ภาพที่ 1 : Gino Crescoli โดย AbsolutVision จาก Pixabay ภาพที่ 2 - 6 โดย pongthawathอัปเดตข่าวสาร และแหล่งเรียนรู้หลากหลายแบบไม่ตกเทรนด์ บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !