เครดิตภาพ : www.unsplash.com การใช้คลื่นแอลฟา และบีตาในการกระตุ้นความรู้สึกแตกต่าง ระหว่างกลางวัน และกลางคืนนั้นจะทำให้เราผ่อนคลาย และหลับสบายขึ้น เสียงดนตรีสามารถกระตุ้นเยื่อหุ้มสมองส่วนการได้ยิน ระบบประสาทส่วนกลาง และระบบต่อมไร้ท่อ ปรับสมดุลระบบประสาท ก่อให้เกิดการปล่อยคลื่นแอลฟาซึ่งเกี่ยวข้องกับการทำงานของระบบประสาท ทำให้อารมณ์คงที่ ร่างกายอยู่ในสภาวะผ่อนคลาย และเกิดอาการง่วงนอน จึงทำให้นอนหลับได้ง่าย ในทางกลับคลื่นบีตาจะเกี่ยวข้องกับการทำงานของระบบประสาท ทำให้ร่างกายตื่นตัวและมีชีวิตชีวา เมื่อรู้อย่างนี้แล้วเรามาใช้เสียงเพลงกระตุ้นความรู้สึก และระบบประสาทของเรากันดีกว่าครับเครดิตภาพ : www.unsplash.comฟังเพลงเพราะ ๆ ตอนเช้าเพื่อให้คลื่นบีตากระตุ้นความมีชีวิตชีวาตลอดวัน เมื่อตื่นขึ้นในตอนเช้าอาจฟังเพลงที่ช่วยให้รู้สึกสดชื่นมีชีวิตชีวา หรือรายการวิทยุ เช่น รายการข่าว เพื่อให้สมองปล่อยคลื่นบีตาออกมาแทนคลื่นแอลฟา และทำให้ร่างกายเริ่มต้นวันใหม่ด้วยความรู้สึกตื่นตัว เพลงที่เลือกฟังอาจมีจังหวะเร็วเล็กน้อยและปรับเสียงให้ดังกว่าปกติหน่อยเครดิตภาพ : www.unsplash.comฟังเพลงคลายเครียดตอนกลางคืนเพื่อผ่อนคลาย ในตอนกลางคืนอาจเลือกฟังเพลงแจ๊ส หรือเพลงที่มีท่วงทำนองช้า ๆ เพื่อให้ร่างกายผ่อนคลายความตึงเครียดระหว่างวันไปพร้อมกับเสียงเพลงอันไพเราะ อย่าเปิดเพลงเสียงดังจนเกินไป ปรับเสียงเพลงเบา ๆ ให้เหมือนกับเป็นเสียงดนตรีประกอบที่นุ่มนวล และไม่ต้องตั้งใจฟังมากนัก เพียงแค่ปล่อยให้เสียงเพลงค่อย ๆ ผ่อนคลายอารมณ์ของเราเครดิตภาพ : www.upsplash.comฟังเพลงจากธรรมชาติ ให้ชีวิตกับวันอันแสนสุข ธรรมชาติมีพลังมหัศจรรย์ไร้ขีดจำกัด ท่วงทำนองจากธรรมชาติก่อให้เกิดความสุขทางจิตใจเมื่อตื่นนอนในยามเช้า การฟังบทเพลงธรรมชาติที่ประกอบไปด้วยเสียงนกร้อง และเสียงแมลงจะช่วยกระตุ้นจิตใจได้ตลอดทั้งวัน ส่วนในเวลากลางคืนอาจเลือกเพลงที่ประกอบด้วยเสียงสายลม สายฝน สายน้ำ เสียงคลื่นซัดชายฝั่ง ทำให้จิตใจสงบนิ่งเพื่อจังหวะท่วงทำนองของบทเพลง พร้อมกับจินตนาการว่ากำลังใช้เวลาช่วงวันหยุดพักผ่อนอยู่ มีลมทะเลพัดโชยมา พาให้จิตใจผ่อนคลาย แต่อย่านึกภาพว่ากำลังเล่นกีฬาบนชายหาด หรือกิจกรรมทางน้ำอื่น ๆ เพราะจะกระตุ้นให้เกิดผลในด้านตรงกันข้ามเครดิตภาพ : www.unsplash.comเปลี่ยนท่วงทำนองในการพูดให้ต่างกัน ระหว่างช่วงกลางวัน และกลางคืน ความวุ่นวายในสังคมปัจจุบันและจังหวะชีวิตที่รวดเร็ว ทำให้มนุษย์อย่างเรา ๆ ต้องเร่งจังหวะความเร็วในการสนทนา ก่อให้เกิดความเครียด และความกดดันได้ง่าย ในเวลากลางคืนจึงควรปรับท่วงทำนองในการพูด ชะลอความเร็ว ลดระดับเสียง และใช้ท่าทีและน้ำเสียงที่นุ่มนวลในการพูดจา วิธีนี้ไม่เพียงทำให้คู่สนทนา เช่น คนในครอบครัว หรือเพื่อนฝูงรู้สึกผ่อนคลายเท่านั้น แต่ยังช่วยให้อารมณ์ของเราผ่อนคลายลงไปด้วยเครดิตภาพ : www.unsplash.com คลื่นเสียง และท่วงทำนองของแต่ละเสียงมีผลในการกระตุ้นอารมณ์ และระบบประสาททำให้เกิดความรู้สึกที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ถ้าเราใช้คลื่นเสียงเหล่านี้ถูกต้อง และเข้าใจมันดี ก็จะเกิดประโยชน์ต่อตัวเรา และผู้คนอื่น ๆ ที่อยู่รอบตัวเราด้วย และเราจะมีความสุขมากขึ้นด้วย ลองเอาข้อมูลตรงนี้ไปปรับใช้กับตัวเราดูนะครับ ผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับทุก ๆ คนให้ผ่านความเครียดในเรื่องต่าง ๆ ไปได้ด้วยความสุข สวัสดีครับ