จับไอซ์บิ๊กล็อต หนัก 1 ตัน ค่ากว่า 1,000 ล้าน ส่ง 3 จังหวัดชายแดนใต้

บก.สส.จชต. แถลงจับแก๊งค้ายา ยึดไอซ์บิ๊กล็อต หนัก 1 ตัน ค่ากว่า 1,000 ล้าน เตรียมส่ง 3 จังหวัดชายแดนใต้ ก่อนขนออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน

เมื่อวันที่ 15 ส.ค.64 ที่ศูนย์ปฏิบัติการสํานักงานตํารวจแห่งชาติส่วนหน้า (ศปก.ตร.สน.) ถ.สุขยางค์ เขตเทศบาลนครยะลา อ.เมืองยะลา จ.ยะลา พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 , พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภ.9, พล.ต.ท.มนตรียิ้มแย้ม ผบช.ปส., พล.ต.ท.ดำรัส วิริยะกุล ผู้ทรงคุณวุฒิ พิเศษ ตำรวจ รรท.รอง ผบช.ภ.9, พล.ต.ปิยะพงษ์ วงศ์จันทร์ ผอ.สขว.กอ.รมน.ภาค 4 สน., นายวรเชษฐ พรมโอภาษ รอง ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา,

นายพงศธร ธรรมชาติ ผอ.ป.ป.ส.ภาค 9, พล.ต.ต.ดุษฎี ชูสังกิจ รอง ผบช.ภ.9, พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี รอง ผบช.ภ.9, พล.ต.ต.ปราบพาล มีมงคล รอง ผบช.ภ.9, พล.ต.ต.อรรถวุฒิ อ่อนทรัพย์ ผบก.สส.จชต., พล.ต.ต.อาชาน จันทร์ศิริผบก.ภ.จว.สงขลา, พ.อ.พสิษฐ์ ชาญเลขา ผอ.กปก.สขว.กอ.รมน. ภาค 4 สน,

พ.ต.อ.ประพัตร์ ศรีอนันต์รอง ผบก.สส.จชต., พ.ต.อ.ชุมพล ศักดิ์สุรีย์มงคล, พ.ต.อ.สักรินทร์ บำเพ็ญสมัย รอง ผบก.สส.จชต.,พ.ต.อ.อลงกรณ์ สีมาวุธ รอง ผบก.สส.จชต. และ พ.ต.อ.พิชัย กิระวานิช รอง ผบก.ภ.จว.สงขลา ร่วมกันแถลงข่าว จับกุมเครือข่ายนักค้ายาเสพติดรายสำคัญ ตามนโยบายรัฐบาลให้ปราบปรามยาเสพติด อย่างจริงจัง

โดยให้ถือเป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นแหล่งแพร่ระบาด เป็นจุดพักยาและเป็นเส้นทางลำเลียงไปสู่ประเทศเพื่อนบ้าน ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติและ กอ.รมน.ภาค 4 ระดมสรรพกำลังเพื่อขับเคลื่อนนโยบายในการแก้ปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง

โดยเมื่อวันที่ 13 ส.ค.64 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ ปปส. ได้ร่วมกันจับกุม 1.นายอับดุลรอมัน หรือมัง เจ๊ะแล๊ะ อายุ 40 ปี ชาว อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส (ผู้ต้องหาที่ 1) 2.นายยาฮารี หรือยี เจ๊ะฮะ อายุ 33 ปี ชาว อ.แว้ง จ.นราธิวาส (ผู้ต้องหาที่ 2) 3.นายซุลกิฟลี เจ๊ะเง๊าะ อายุ 34 ปี ชาว อ.ตากใบ จ.นราธิวาส (ผู้ต้องหาที่ 3) 4.นายกูอาฟิส ต่วนสะมะแอ อายุ 25 ปี ชาว อ.ตากใบ จ.นราธิวาส (ผู้ต้องหาที่ 4) 5.นายอาดินนันท์ เจ๊ะมิ อายุ 25 ปีชาว อ.ตากใบ จ.นราธิวาส (ผู้ต้องหาที่ 5)

พร้อมด้วยของกลาง 1.ไอซ์ น้ำหนักประมาณ 1,000 กิโลกรัม 2.รถบรรทุกสิบล้อ ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นเดก้า หมายเลขทะเบียน 71-1274 เพชรบุรี จำนวน 1 คัน 3.รถกระบะคอก ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแมคซ์ สีขาว หมายเลขทะเบียน 3ฒฌ 9363 กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 คัน 4.รถกระบะ ยี่ห้อนิสสัน หมายเลขทะเบียน บท 8562 ปัตตานี จำนวน 1 คัน 5.โทรศัพท์มือถือ จำนวน 7 เครื่อง โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย

เหตุเกิดที่ ริมถนนสายเอเชีย ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อวันที่ 13 ส.ค.64 เวลาประมาณ 02.39 น.(จุดเกิดเหตุที่ 1) และบริเวณภายในปั๊มน้ำมัน ริมถนนสายเอเชีย ม.2 ต.นาหม่อม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อวันที่ 13 ส.ค.64 เวลาประมาณ 02.40 น.(จุดเกิดเหตุที่ 2)และบริเวณข้างประตูน้ำ ริมถนนเลียบคลองมูโน๊ะ ม.5 ต.พร่อน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 13 ส.ค.64 เวลาประมาณ 21.50 น. (จุดเกิดเหตุที่ 3) ต่อเนื่องกัน

พฤติการณ์ในการจับกุม สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 25 ก.ย.63 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.2 บก.สส.จชต. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสืบสวนติดตามจับกุมเครือข่ายนักค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ภาคกลาง ซึ่งมีพฤติการณ์ร่วมกับเครือข่ายในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดชนิดยาบ้า และไอซ์ จากพื้นที่ภาคเหนือ และภาคกลาง เพื่อส่งจำหน่ายให้กับเครือข่ายในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านได้

พร้อมของกลางยาเสพติดชนิดยาบ้าจำนวน 2,018,000 เม็ด เหตุเกิดที่ด่านตรวจเกาะหม้อแกง ต.ท่ากำชำ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี หลังจากนั้นร่วมกันสืบสวนขยายผล เพื่อทำลายเครือข่ายนักค้ายาเสพติดเครือข่ายดังกล่าวและสามารถจับกุมบุคคลในเครือข่ายมาโดยต่อเนื่อง ต่อมาก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้

ร่วมกันสืบสวนทราบว่า มีนักค้ายาเสพติดเครือข่ายดังกล่าวซึ่งเป็นคนพื้นที่ จ.นราธิวาส ได้ร่วมกันลักลอบลำเลียงยาเสพติดชนิดไอซ์จากพื้นที่ภาคกลาง เพื่อส่งให้เครือในพื้นที่ จ.นราธิวาส และประเทศเพื่อนบ้าน จึงได้ร่วมประชุมวางแผนติดตามจับกุม

กระทั่งต่อมาในวันที่ 13 ส.ค.64 เวลาประมาณ 02.30 น. สามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ 1 และ 2 ได้พร้อมของกลางไอซ์ จำนวน 1,000 กิโลกรัม (มูลค่า 1,000 ล้านบาท) ในขณะลักลอบลำเลียงโดยซุกซ่อนมากับรถบรรทุกสิบล้อของกลาง ได้ในพื้นที่ ต.คอหงส์อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา หลังจากนั้นขยายผลการสืบสวนเพื่อจับกุมเครือข่ายที่ร่วมขบวนการ ซึ่งรอรับยาเสพติดของกลางดังกล่าวในพื้นที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส และสามารถทำการจับกุมเครือข่ายได้เพิ่มอีก จำนวน 3 คน (ผู้ต้องหาที่ 3 - 5)

ในการนี้ได้ตรวจยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำผิดเพื่อดำเนินการตาม พ.ร.บ. มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 จำนวน 11 รายการ มูลค่าประมาณ 8,000,000 บาท และทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สืบสวนขยายผลติดตามยึดทรัพย์ของผู้ต้องหาและรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินการตามกฏหมายกับเครือข่ายที่ร่วมกระทำผิดและยังไม่ถูกจับกุมต่อไป