รีเซต

SPAจ่อเปิดบริการรร. ชี้พ้นจุดต่ำสุดฟื้นQ4

SPAจ่อเปิดบริการรร. ชี้พ้นจุดต่ำสุดฟื้นQ4
ทันหุ้น
18 ตุลาคม 2564 ( 06:56 )
82
SPAจ่อเปิดบริการรร. ชี้พ้นจุดต่ำสุดฟื้นQ4

ทันหุ้น - SPA เตรียมกดปุ่มเปิดให้บริการสปาในโรงแรมเพิ่ม 2 แห่ง วีรันดา พัทยา และ โนโวเทล กรุงเทพฯ ฟากโบรกชี้เปิดประเทศดันผลงานโค้งท้ายฟื้น เชื่อพ้นจุดต่ำสุดแล้ว พร้อมปรับกำไรปี 65 ขึ้น 17% แตะ 92 ล้านบาท ให้เป้าหมาย 8.80 บาท

 

นายวิบูลย์  อุตสาหจิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามเวลเนสกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ SPA กล่าวว่า บริษัทจะเปิดให้บริการสปา-นวดเพื่อสุขภาพในโรงแรม 2 แห่ง ได้แก่ที่ โรงแรมวีรันดา รีสอร์ท พัทยา นาจอมเทียน-เอ็ม แกลลอรี่ จังหวัดชลบุรี ภายใต้แบรนด์ “Let’s Relax” โดยได้ลงนามสัญญากับ บริษัท วีรันดา บีช พัทยา จำกัด ดำเนินการเป็นระยะเวลา 3 ปี และมีคำมั่นอีก 1 ครั้ง ครั้งละ 3 ปี โดยสาขานี้จะเปิดให้บริการในวันที่ 15 ตุลาคม 2564

 

เปิดบริการโนโวเทล

 

ส่วนอีกสาขาบริษัทได้ลงนามสัญญากับ บริษัท เดอะ แพลทินัม กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เพื่อเปิดสาขาให้บริการภายในโรงแรมโนโวเทล กรุงเทพฯ แพลทินัม ประตูน้ำ ภายใต้แบรนด์ “Let’s Relax” เป็นระยะเวลา 3 ปี โดยสามารถที่จะต่อสัญญากันต่อไปได้ ตามที่คู่สัญญาจะได้ตกลงกัน โดยสาขานี้จะเปิดให้บริการในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564

 

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) ระบุถึง SPA ว่า ในไตรมาส 4/2564 จะดีขึ้นจากนโยบายเปิดประเทศ แต่ยังต้องใช้เวลา เราคงคำแนะนำ “ถือ” แต่ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 8.80 บาท (อิง DCF WACC 8.5%, Growth 3%, ปรับปีฐานไปเป็นปี 2565) คาดผลประกอบการในไตรมาส 3/2564 ยังขาดทุนที่ -93 ล้านบาท (ติดลบมากขึ้นจากไตรมาส 2/64 ที่ -87ล้านบาท และไตรมาส 3/63 ที่ -55 ล้านบาท) โดยคาดรายได้หดตัวลงเหลือเพียง 12 ล้านบาท จากมาตรการสั่งปิดร้านนวดของรัฐ เป็นเวลาทั้งหมด 83 วัน ในไตรมาส 3/2564

 

ปีนี้ยังขาดทุน 310 ล.

 

อย่างไรก็ตามคาดว่าไตรมาส 4/2564 จะยังคงขาดทุนแต่น้อยลง หลังรัฐบาลจะเริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยวจาก 10 ประเทศ เข้าไทยโดยไม่ต้องกักตัว ซึ่งคาดว่าจะช่วยหนุน Utilization Rate ขึ้นมาได้ราว 40-50% โดยปัจจุบันหลังคลายLockdown บริษัทมี Utilization Rate อยู่ที่ประมาณ 30% เนื่องจากผู้ใช้บริการยังมีแต่ชาวไทย เราคงประมาณการปี 2564 ที่ขาดทุนสุทธิ -310 ล้านบาท

 

โดยมองว่าบริษัทได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว การเปิดประเทศจะทำให้เห็นการฟื้นตัวตั้งแต่ไตรมาส 4/2564 อย่างค่อยเป็นค่อยไป นอกจากนี้เรามีการปรับกำไรปี 2565 ขึ้น +17% ที่ 92 ล้านบาท โดยเราปรับรายได้ขึ้น +7% ที่ 837 ล้านบาท (+397%YoY) จากสมมติฐานที่ว่ารัฐบาลจะทยอยเพิ่มรายชื่อประเทศที่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าประเทศมากขึ้น ราคาหุ้น Outperform SET +14% ใน 1เดือนที่ผ่านมาจากตัวเลขผู้ติดเชื้อที่ทรงตัว และข่าวการเปิดประเทศ

 

คงคำแนะนำ “ถือ”

 

อย่างไรก็ตามเรายังคงคำแนะนำ “ถือ” โดยเราคาดว่าการเปิดประเทศเป็นปัจจัยบวก แต่การฟื้นตัวยังค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากรายได้จากนักท่องเที่ยวหลักยังคงเป็นนักท่องเที่ยวจีน (55% ของรายได้รวม) ซึ่งรัฐบาลจีนยังคงไม่เปิดให้ประชาชนเดินทางเข้าออกประเทศได้ตามปกติ และหากการเปิดประเทศอาจทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อในประเทศกลับมาเพิ่มสูงขึ้น และส่งผลให้รัฐบาลกลับมาใช้มาตรการที่เข้มงวดอีกครั้ง

ไตรมาส 3/2564 เป็นจุดต่ำสุดจากผลกระทบโควิด-19 คาดผลประกอบการใน ไตรมาส 3/2564 ยังขาดทุนที่ -93

 

ล้านบาท (ติดลบมากขึ้นจาก 2Q/64 ที่ -87 ล้านบาท และ 3Q/63 ที่ -55 ล้านบาท) โดยคาดรายได้หดตัวลงเหลือเพียง 12 ล้านบาท (-84%YoY, -348%QoQ) จากการระบาดของโควิดระลอกใหม่ที่ทำให้รัฐบาลสั่งปิดร้านนวด และ SPA เป็นเวลาทั้งหมด 83 วัน ใน 3Q/21E (10 ก.ค. –30 ก.ย.) โดยมีเพียงสาขาในภูเก็ต ที่สามารถเปิดได้จากโครงการ  Phuket Sandbox และ Baan Suan ที่สามารถเปิดได้ในจังหวัดหนองคาย และอุดรธานี คาด 4Q/21E เริ่มฟื้นตัวหลังเปิดประเทศ รัฐบาลได้มีการแถลงการณ์ในวันที่ 11 ตุลาคม ที่ผ่านมาว่า จะเริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยวโดยไม่ต้องกักตัวจาก 10 ประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ ซึ่งคาดว่าจะช่วย

 

หนุน Utilization Rate ขึ้นมาได้ราว 40-50% (โดยปัจจุบันหลังคลาย Lockdown บริษัทมี Utilization Rate อยู่ที่ประมาณ 30%เนื่องจากผู้ใช้บริการยังมีแต่ชาวไทยและพนักงานนวดยังกลับมาเพียงบางส่วน) อย่างไรก็ตามแม้จีนจะเป็นหนึ่งในประเทศที่ไทยจะเปิดรับนักท่องเที่ยว แต่ประเทศจีนนั้นยังมีมาตรการควบคุมประชากรที่จะเข้าออกประเทศไปจนถึงปลายปี 2565 จึงอาจทำให้นักท่องเที่ยวที่จะมาจากจีนยังฟื้นตัวได้ช้า โดยก่อนโควิด SPA มีสัดส่วนรายได้จากชาวจีนราว 55%

 

โอกาสในการทำ M&A และการขยายสาขา บริษัทยังไม่ได้มีแผนที่จะทำ M&A ในปีนี้ แต่เริ่มมีการเจรจากับโรงแรมต่างๆ เนื่องจากร้านนวด ร้านสปาเล็กๆ ได้ปิดสาขาไปค่อนข้างมาก ทำให้บริษัทมีโอกาสที่จะขยายสาขาใหม่ได้ในอนาคตเมื่อเริ่มเปิดประเทศและธุรกิจฟื้นตัว ทั้งนี้บริษัทมีแผนที่จะขยายอยู่ในสาขาจำนวน 3-4 สาขาในปี 2565 หลังเลื่อนมาจากปี 2564 ที่ได้รับผลกระทบของโควิดระลอกใหม่ โดยสาขาใหม่นี้จะตั้งอยู่ในจังหวัดกรุงเทพฯ ทั้งในโรงแรมและ Community Mall Implication คงประมาณการปี 2021E/ปรับกำไรปี 22E ขึ้น +17% คงประมาณการปี 2021E ที่ -310 ล้านบาท โดยมองผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วใน 3Q/2021E คาดว่าการเปิดประเทศจะทำให้ผลประกอบการฟื้นตัวตั้งแต่ 4Q/2021E อย่างค่อยเป็นค่อยไป

 

นอกจากนี้ เรามีการปรับกำไรปี 2022E ขึ้น +17% ที่ 92 ล้านบาท โดยเราปรับรายได้ขึ้น+7% ที่ 837 ล้านบาท (+397%YoY) โดยเรามีมุมมองเป็นบวกมากขึ้นหลังรัฐบาลเร่งฉีดวัคซีนและเตรียมเปิดประเทศตามแผน ซึ่งแม้จะเริ่มเปิดให้เพียง 10 ประเทศในเดือนพฤศจิกายนนี้ แต่เราเชื่อว่ารัฐจะทยอยเพิ่มรายชื่อประเทศที่เปิดรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่เดือนธันวาคม และหลังปีใหม่เป็นต้นไปValuation/Catalyst/Risk

 

เราได้ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 8.80 บาท อิง DCF (WACC 8.5%, Growth 3%) โดยเราได้มีการปรับปี ฐานไปเป็นปี 2022E และราคาเป้าหมายคิดเป็น 2024E PER ที่ 36.5x (+1.25SD AboveHistorical Avg.) เราคาดว่าบริษัทจะเริ่มพลิกกลับมาเป็นกำไรในปี 2022E แต่จะฟื้นตัวกลับมา

ใกล้เคียงกำไรในปี 2562 Pre-Covid ในปี 2024E

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง