สวัสดีค่ะปี 2022 แล้วหลายคนคงจะรอลุ้นกันว่าปีนี้ทาง Apple จะเปิดตัวสินค้า รุ่นไหนออกมาให้าเราได้ชมกันบ้าง และแล้วในที่สุดเมื่อช่วงต้นปีก็มีการปล่อย iPad Air 5 ออกมาให้เราได้เฉยชมกันและก็ตามมาด้วย iPad Pro M2 และ iPad (รุ่นที่ 10) ใช่วงเดือนตุลาคมนี้นี่เอง ทำให้คนซื้อแบบเราก็ลำบากใจเหลือเกินค่ะว่าจะเอารุ่นไหนดีเล่นออกกันมาในปี 2022 แบบรัวๆ วันนี้เราจะมาชำแหละแนะนำว่า iPad รุ่นไหนน่าใช้สเปคจะดีไหมจะอึดทนไม้ทนมือเราแค่ไหน ส่วนใครที่ยังเลือกรุ่นไม่ได้ยังกังวลเรื่องราคาจะแรงมั้ยจะคุ้มหรือเปล่าอันไหนเหมาะกับเราถ้าเพื่อนๆพร้อมแล้วไปดูกันเลยค่ะ 1. iPad Air (รุ่นที่ 5)https://cdn-img.wemall.com/943745/w_1400,h_1400,c_thumb/daae1dc7cb180a80a165ef3e4b3b48c7/ipad_air_wi-fi_purple_pdp_image_position-1b__th.jpgมาเริ่มกันที่รุ่นแรกเลยกับ iPad Air (รุ่นที่ 5) ที่เปิดตัวมาก่อนแล้วเมื่อต้นปีที่ผ่านมาถือเป็นรุ่นล่าสุดของตระกูล iPad Air เลยก็ว่าได้ มาพร้อมด้วยหน้าจอภาพ Liquid Retina ขนาด 10.9 นิ้ว(แนวทะแยง) ถือว่ามีขนาดกลางๆไม่ใหญ่มาพกพาสะดวกTouch ID ติดตั้งอยู่ในปุ่มด้านบนเราจึงสามารถใช้ลายนิ้วมือเพื่อปลดล็อค iPad และลงชื่อเข้าใช้แอปต่างๆ ได้สะดวกและยังมีสีให้เลือกด้วยกันถึง 5 สีสันแบบจุกๆไปเลยค่ะhttps://cdn-img.wemall.com/943745/w_1400,h_1400,c_thumb/2d2012dded1d8c68af158c9b6b517ec5/ipad_air_wi-fi_purple_pdp_image_position-7__th.jpgแถมรุ่นนี้ยังใช่ชิป M1 เป็นชิปตัวเดียวกันกับ iPad Pro M1 เป็นอุปกรณ์ที่เร็วที่สุดของ iPad ในปี 2021 ของบรรดาอุปกรณ์ประเภทเดียวกันเพราะได้รับการออกแบบมาเพื่อใช้ประโยชน์จากประสิทธิภาพที่เหนือชั้นไปอีกขั้นนี้อย่างเต็มที่รวมถึงจากเทคโนโลยีที่ปรับแต่งมาโดยเฉพาะทำให้ iPad Air 5 ตัวนี้น่าสนใจมากๆกับในราคาที่ไม่แรงเกินไป ใครที่เป็นสายออกแบบวาดภาพบอกได้เลยว่าลื่นไหลสุดๆกราฟิกในรุ่นนี้เร็วขึ้นสูงสุด 2 เท่านอกจากนี้แบตเตอรี่ก็อึดมากๆเช่นกัน รองรับการใช้งานแบบ 5G ด้วยนะคะ ถ่ายภาพ อัดวิดีโอ สแกนถ่ายเอกสาร จดเอกสาร ตัดต่อวิดีโอ รุ่นนี้ถือว่าคุ้มสุดๆเหมือนเป็นร่างอวตารของ iPad Pro M1 เลยก็ว่าได้ครบเครื่องจริงๆคุ้มมากกับราคาประมาณนี้เหมาะกับสายตัดต่อกราฟฟิกใช้งานหนักสุดๆ ข้อดีตัวนี้คือความใหญ่ของเขารูปทรงที่สวยงามและระบบสเปคที่สูงราคาเอื้อมถึงได้ค่ะข้อเสียแบบจะหาไม่เจอเลยโดยส่วนตัวนะคะคุณสมบัติตัวเครื่องเบื้องต้นของ iPad Air (รุ่นที่ 5)หน้าจอแสดงผลแบบ Liquid Retina 24-bit (16 ล้านสี),ขนาด 10.9 นิ้ว (แนวทะแยง),ความละเอียดอยู่ที่ 1640 x 2360 พิกเซล(264 ppi),ใช้ปากกา Stylus สำหรับวาด, เขียน, ระบาย และรีทัชรูปภาพวัสดุตัวเครื่องทำมาจากอลูมิเนียมมีสีให้เลือกด้วยกันถึง 5 สี spacegray(เทา),starlight(ทอง),pink(ชมพู),(purple)ม่วง,(blue)ฟ้าใช้งาน Nano-SIM,ใช้งาน eSIM,โทรไม่ได้,มีช่องใส่ซิมการ์ด (สำหรับการใช้อินเตอร์เน็ตเท่านั้น),รองรับการใช้งาน 3G , 4G, 5Gใช้ระบบปฏิบัติการ iPad OS 15.3,CPU : Apple : M1 Octa Core,หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 8GB,หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 64/256GBแบตเตอรี่ลิเธียมพอลิเมอร์ชนิดชาร์จซ้ำได้ภายในตัวเครื่อง 28.6 วัตต์ต่อชั่วโมง,ท่องเว็บผ่าน Wi‑Fi หรือดูวิดีโอได้นานสูงสุด 10 ชั่วโมง,ชาร์จจากอะแดปเตอร์แปลงไฟหรือจากเครื่องคอมพิวเตอร์ผ่านสาย USB‑C,รุ่น Wi‑Fi + Cellularท่องเว็บโดยใช้เครือข่ายข้อมูลเซลลูลาร์ได้นานสูงสุด 9 ชั่วโมงกล้องไวด์ ความละเอียด 12MP, รูรับแสงขนาด F/1.8,ซูมดิจิทัลได้สูงสุด 5 เท่า,ชุดเลนส์ 5 ชิ้น,ออโต้โฟกัสด้วย Focus Pixels,พาโนรามา (สูงสุด 63MP),HDR อัจฉริยะ 3 สำหรับภาพถ่าย,บันทึกภาพถ่ายและ Live Photos ด้วยขอบเขตสีกว้าง,แนบข้อมูลพิกัดตำแหน่งในภาพถ่าย,ระบบป้องกันภาพสั่นไหวอัตโนมัติ,โหมดภาพถ่ายต่อเนื่อง,รูปแบบไฟล์ภาพที่บันทึก: HEIF และ JPEGระบบเซ็นเซอร์สแกนตรวจสอบลายนิ้วมือด้านบน (Fingerprint),ไจโร 3 แกน,อุปกรณ์ตรวจจับการเคลื่อนไหว,บารอมิเตอร์,เซ็นเซอร์ตรวจวัดแสงโดยรอบราคาเริ่มต้น : 19,900 บาท - 25,900 บาทดูรายละเอียดเพิ่มเติมหรือโปรโมชั่นพิเศษจาก True Store ได้ที่นี่ iPad Air 5 (Wi-Fi),iPad Air 5 (Cellular) 2. iPad Pro M2 https://store.storeimages.cdn-apple.com/8756/as-images.apple.com/is/ipad-pro-select-202210?wid=545&hei=550&fmt=jpeg&qlt=95&.v=1664411207154มาต่อกันที่รุ่น iPad Pro M2 กันค่ะ รอบนี้มากับ 2 ขนาดจอภาพ Liquid Retina ขนาด 11 นิ้ว(แนวทะแยง) ที่มีเทคโนโลยี ProMotion, การแสดงผลแบบ True Tone, ขอบเขตสีกว้างแบบ P3 และการสะท้อนของแสงที่ต่ำมาก ซึ่งทำให้ทุกอย่างดูสวยสะดุดตาและรู้สึกได้ถึงการตอบสนองที่ดีเยี่ยม และ Liquid Retina XDR ขนาด 12.9 นิ้ว(แนวทะแยง) มาพร้อมกับความสามารถในการถ่ายทอดรายละเอียดที่สมจริงด้วยอัตราส่วนคอนทราสต์ 1,000,000:1 ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการรับชมและปรับแต่งรูปภาพและวิดีโอ HDR หรือสนุกกับภาพยนตร์และรายการทีวีที่คุณชื่นชอบ พร้อมด้วยเทคโนโลยีจอภาพที่ล้ำสมัย อย่างขอบเขตสีกว้างแบบ P3, True Tone และ ProMotion แถมยังใส่ได้ลงตัวพอดีในดีไซน์ที่บางเพียง 6.4 มม. เท่านั้นค่ะhttps://store.storeimages.cdn-apple.com/8756/as-images.apple.com/is/ipad-pro-11-select-202210?wid=970&hei=1020&fmt=png-alpha&.v=1664411207110แค่ความสุดยอดของรุ่นนี้มันอยู่ที่ตัวชิปค่ะที่อัปเกรดขึ้นมาเป็น M2 ที่เร็วและแรงที่สุดของ iPad ในปี 2022 นี้เลยค่ะ ซึ่งมาพร้อมกับ CPU แบบ 8-core ที่มีประสิทธิภาพเร็วขึ้นสูงสุด 15% และ GPU แบบ 10-core ที่มีประสิทธิภาพกราฟิกเร็วขึ้นสูงสุด 35% ทั้งยังมี Neural Engine ที่เร็วขึ้น 40% เพื่อเร่งความเร็วให้กับงานด้านการเรียนรู้ของระบบ และแบนด์วิดท์หน่วยความจำที่เพิ่มขึ้นถึง 50% เรียกได้ว่าชิป M2 นำประสิทธิภาพอันน่าทึ่งและความสามารถใหม่ๆ มาสู่ iPad Pro เพื่อให้เราสามารถสร้างงานออกแบบ 3D ที่มีรายละเอียดสมจริง, สร้างโมเดล AR ที่มีความสลับซับซ้อน และเล่นเกมไปพร้อมคุณภาพกราฟิกระดับคอนโซลที่มีอัตราเฟรมสูงได้เร็วยิ่งกว่าที่เคยเลยค่ะ แต่ถ้าถามว่าต่างจาก iPad Pro M1 มากมั้ยบอกได้ว่าแทบจะไม่ต่างกันเท่าไหร่ค่ะจุดเด่นๆที่เห็นคือเรื่องชิปที่เร็วและแรงกว่าเดิมและประสิทธิภาพทบันทึกวิดีโอที่มากขึ้นแทบไม่ค่อยเห็นความแตกต่างๆเลยค่ะคุณสมบัติตัวเครื่องเบื้องต้นของ iPad Pro M2 iPad Pro M2 ขนาด 11 นิ้ว (รุ่นที่ 4) หน้าจอแสดงผลแบบ Liquid Retina, Multi‑Touch แบ็คไลท์แบบ LED,ขนาด 11 นิ้ว (แนวทะแยง),พร้อมเทคโนโลยี IPS,ความละเอียดอยู่ที่ 2388 x 1668 พิกเซล (264 ppi),มาพร้อมเทคโนโลยี ProMotion,จอภาพขอบเขตสีกว้าง (P3),การแสดงผลแบบ True Tone,จอภาพแบบ Full Lamination,หน้าจอเคลือบสารกันแสงสะท้อนป้องกันการสะท้อนแสงกลับ 1.8%และเคลือบสารกันรอยนิ้วมือ,ความสว่าง SDR: 600 นิต ที่ระดับสูงสุด,รองรับ Apple Pencil (รุ่นที่ 2) และมีคุณสมบัติการยกปลาย Apple Pencilวัสดุตัวเครื่องทำมาจากอลูมิเนียมมีสีให้เลือกด้วยกันถึง 2 สี spacegray(เทา),silver(เงิน),คุณสมบัติกันน้ำและระบบป้องกัน (Waterproof & Resistance to dust)ใช้งาน Nano-SIM,ใช้งาน eSIM,รองรับการใช้งาน 3G , 4G, 5G,โทรไม่ได้,มีช่องใส่ซิมการ์ด (สำหรับการใช้อินเตอร์เน็ตเท่านั้น)ใช้ระบบปฏิบัติการ iPad OS 16,CPU : Apple : M2 Octa Core,ความเร็ว : 2.4GHz และ 5GHz,GPU : Apple GPU (8-core graphics),GPU(10-core ),Apple Neural Engine (ANE) : (16-core),หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 8/16GB,หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 128/256/512/GB,1/2TBแบตเตอรี่ลิเธียมพอลิเมอร์ชนิดชาร์จซ้ำได้ภายในตัวเครื่อง 28.65 วัตต์ต่อชั่วโมง,ท่องเว็บผ่าน Wi‑Fi หรือดูวิดีโอได้นานสูงสุด 10 ชั่วโมง,ชาร์จจากอะแดปเตอร์แปลงไฟ หรือจากเครื่องคอมพิวเตอร์ผ่านสาย USB‑C,รุ่น Wi‑Fi + Cellular ท่องเว็บโดยใช้เครือข่ายข้อมูลเซลลูลาร์ได้นานสูงสุด 9 ชั่วโมงระบบกกล้องไวด์ความละเอียด 12MP, รูรับแสงขนาด F/1.8,อัลตร้าไวด์ความละเอียด 10MP, รูรับแสงขนาด F/2.4,ซูมออกแบบออปติคัล 2 เท่า,ซูมดิจิทัลได้สูงสุด 5 เท่า,ชุดเลนส์ 5 ชิ้น (ไวด์และอัลตร้าไวด์),แฟลช True Tone ที่สว่างยิ่งขึ้น,พาโนรามา (สูงสุด 63MP),ผลึกแซฟไฟร์ป้องกันหน้าเลนส์,ออโต้โฟกัสด้วย Focus Pixels (ไวด์),HDR อัจฉริยะ 4,บันทึกภาพถ่ายและ Live Photos ด้วยขอบเขตสีกว้าง,การปรับแก้เลนส์ (อัลตร้าไวด์),การแก้ไขตาแดงขั้นสูง,แนบข้อมูลพิกัดตำแหน่งในภาพถ่าย,ระบบป้องกันภาพสั่นไหวอัตโนมัติ,โหมดภาพถ่ายต่อเนื่อง,รูปแบบไฟล์ภาพที่บันทึก: HEIF และ JPEGระบบเซ็นเซอร์สแกน Face ID,สแกนเนอร์ LiDAR,ไจโร 3 แกน,อุปกรณ์ตรวจจับการเคลื่อนไหว,บารอมิเตอร์,เซ็นเซอร์ตรวจวัดแสงโดยรอบราคาเริ่มต้น : 32,900 บาท - 82,900 บาทiPad Pro M2 ขนาด 12.9 นิ้ว (รุ่นที่ 6) หน้าจอแสดงผลแบบ Liquid Retina XDR, Multi‑Touch แบ็คไลท์แบบ Mini‑LED,ขนาด 12.9 นิ้ว (แนวทะแยง),พร้อมเทคโนโลยี IPS,ระบบแบ็คไลท์ 2D ที่มาพร้อมโซนหรี่แสงเฉพาะที่แบบเต็มแผงจำนวน 2,596 โซน,ความละเอียดอยู่ที่ 2732 x 2048 พิกเซล (264 ppi),พร้อมเทคโนโลยี ProMotion,จอภาพขอบเขตสีกว้าง (P3),การแสดงผลแบบ True Tone,จอภาพแบบ Full Lamination,หน้าจอเคลือบสารกันแสงสะท้อนป้องกันการสะท้อนแสงกลับ 1.8%และเคลือบสารกันรอยนิ้วมือ,ความสว่าง SDR: 600 นิต ที่ระดับสูงสุด,ความสว่าง XDR: 1,000 นิต ที่ระดับสูงสุดแบบเต็มหน้าจอ และ 1,600 นิต ที่ระดับสูงสุดเฉพาะจุด (เฉพาะคอนเทนต์ HDR),อัตราส่วนคอนทราสต์ 1,000,000:1,รองรับ Apple Pencil (รุ่นที่ 2) และมีคุณสมบัติการยกปลาย Apple Pencวัสดุตัวเครื่องทำมาจากอลูมิเนียมมีสีให้เลือกด้วยกันถึง 2 สี spacegray(เทา),silver(เงิน)ใช้งาน Nano-SIM,ใช้งาน eSIM,รองรับการใช้งาน 3G , 4G, 5G,โทรไม่ได้,มีช่องใส่ซิมการ์ด (สำหรับการใช้อินเตอร์เน็ตเท่านั้น)ใช้ระบบปฏิบัติการ iPad OS 16,CPU : Apple : M2 Octa Core,ความเร็ว : 2.4GHz และ 5GHz,GPU : Apple GPU (8-core graphics),GPU(10-core ),Apple Neural Engine (ANE) : (16-core),หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 8/16GB,หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 128/256/512/GB,1/2TBแบตเตอรี่ลิเธียมพอลิเมอร์ชนิดชาร์จซ้ำได้ภายในตัวเครื่อง 40.88 วัตต์ต่อชั่วโมง,ท่องเว็บผ่าน Wi‑Fi หรือดูวิดีโอได้นานสูงสุด 10 ชั่วโมง,ชาร์จจากอะแดปเตอร์แปลงไฟ หรือจากเครื่องคอมพิวเตอร์ผ่านสาย USB‑C,รุ่น Wi‑Fi + Cellular ท่องเว็บโดยใช้เครือข่ายข้อมูลเซลลูลาร์ได้นานสูงสุด 9 ชั่วโมงระบบกกล้องไวด์ความละเอียด 12MP, รูรับแสงขนาด F/1.8,อัลตร้าไวด์ความละเอียด 10MP, รูรับแสงขนาด F/2.4,ซูมออกแบบออปติคัล 2 เท่า,ซูมดิจิทัลได้สูงสุด 5 เท่า,ชุดเลนส์ 5 ชิ้น (ไวด์และอัลตร้าไวด์),แฟลช True Tone ที่สว่างยิ่งขึ้น,พาโนรามา (สูงสุด 63MP),ผลึกแซฟไฟร์ป้องกันหน้าเลนส์,ออโต้โฟกัสด้วย Focus Pixels (ไวด์),HDR อัจฉริยะ 4,บันทึกภาพถ่ายและ Live Photos ด้วยขอบเขตสีกว้าง,การปรับแก้เลนส์ (อัลตร้าไวด์),การแก้ไขตาแดงขั้นสูง,แนบข้อมูลพิกัดตำแหน่งในภาพถ่าย,ระบบป้องกันภาพสั่นไหวอัตโนมัติ,โหมดภาพถ่ายต่อเนื่อง,รูปแบบไฟล์ภาพที่บันทึก: HEIF และ JPEGระบบเซ็นเซอร์สแกน Face ID,สแกนเนอร์ LiDAR,ไจโร 3 แกน,อุปกรณ์ตรวจจับการเคลื่อนไหว,บารอมิเตอร์,เซ็นเซอร์ตรวจวัดแสงโดยรอบราคาเริ่มต้น : 44,900 บาท - 94,900 บาทดูรายละเอียดเพิ่มเติมหรือจอง iPad Pro M2 จาก Apple ได้ที่นี่ iPad Pro M2 3. iPad (รุ่นที่ 10)https://store.storeimages.cdn-apple.com/8756/as-images.apple.com/is/ipad-2022-hero-blue-wifi-select?wid=470&hei=556&fmt=png-alpha&.v=1664387252369และรุ่นสุดท้าย iPad (รุ่นที่ 10) รุ่นนี้ได้รับการออกแบบใหม่ให้มีสีสันสดใสมากขึ้นและมีให้เราได้เลือกหลายสีเลยค่ะคือชอบในจุดนี้มากๆและสเปคที่สูงขึ้นแบบเห็นได้ชัดต่างจากรุ่นก่อนๆที่ทำออกมาให้เราได้ใช้กัน iPad (รุ่นที่ 10) นั้นได้ปรับจอภาพให้เป็นแบบ Liquid Retina ที่มีขนาดถึง 10.9 นิ้ว ให้มาใหญ่กว่า iPad (รุ่นที่ 9) ถึง 0.7 นิ้วด้วยกันแล้วชิป A14 Bionic ที่แรงขึ้นกว่ารุ่นก่อนๆ และแก้ไขสเปรดชีต ใส่ลูกเล่นในงานนำเสนอ Keynote และจดโน้ตเจ๋งๆ ได้เลย กับ Magic Keyboard Folio ที่มอบประสบการณ์การพิมพ์ที่สะดวกสบายและแทร็คแพดสำหรับงานที่ต้องใช้ความแม่นยำราคาแรงเอาเรื่องอยู่นะคะhttps://store.storeimages.cdn-apple.com/8756/as-images.apple.com/is/ipad-2022-hero-landing-wifi?wid=507&hei=523&fmt=jpeg&qlt=95&.v=1664387222835รุ่นนี้รองรับการใช้งานกับปากกา Apple Pencil รุ่นที่ 1 ด้วยค่ะแต่ด้วยความที่ iPad (รุ่นที่ 10) เปลี่ยนไปใช้พอร์ตแบบ USB-C ทำให้เราไม่สามารถเสียบ Apple Pencil เข้ากับตัวเครื่องเพื่อเชื่อมต่อหรือชาร์จได้ เราจึงจำเป็นจะต้องซื้อใช้อแดปเตอร์เพิ่มค่ะ อีกหนึ่งจุดที่อัปเกรดขึ้นมาเลยก็คือเรื่องการถ่ายภาพและบันทึกวิดีโอที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นค่ะ ไม่ว่าจะเป็นกล้องหลังไวด์ความละเอียด 12MP เพิ่มขึ้นจากแต่ก่อนถ่ายและรีทัชรูปภาพ ตัดต่อวิดีโอระดับ 4K เพิ่มช่วงไดนามิกกว้างขึ้นได้แล้วด้วยรวมถึงสแกนและทำเครื่องหมายบนเอกสาร ถือว่าการมารอบนี้คือปังมากยิ่งขึ้นค่ะทำให้เราเห็นความแตกต่างจากรุ่นก่อนสเปคที่แรงขึ้นการออกแบบที่ต่างจากเดิมแต่ก็มาพร้อมกับราคาที่สูงขึ้นด้วยนะคะคุณสมบัติตัวเครื่องเบื้องต้นของ iPad (รุ่นที่ 10)หน้าจอภาพ Multi‑Touch แบ็คไลท์แบบ LED,ขนาด 10.9 นิ้ว(แนวทะแยง),พร้อมเทคโนโลยี IPS,ความละเอียดอยู่ที่ ความละเอียด 2360 x 1640 พิกเซล (264 ppi),การแสดงผลแบบ True Tone,หน้าจอเคลือบสารกันรอยนิ้วมือ,รองรับ Apple Pencil (รุ่นที่ 1)วัสดุตัวเครื่องทำมาจากอลูมิเนียมมีสีให้เลือกด้วยกันถึง 4 สี blue(ฟ้า),silver(เงิน),pink(ชมพู),yellow(เหลือง)ใช้งาน Nano-SIM,ใช้งาน eSIM,โทรไม่ได้,มีช่องใส่ซิมการ์ด (สำหรับการใช้อินเตอร์เน็ตเท่านั้น),Hybridsim (ใส่ได้ทั้งซิมการ์ดและเมมโมรี่),รองรับการใช้งาน 3G , 4Gใช้ระบบปฏิบัติการ iPad OS 16,CPU : Apple : A14 Bionic ,ความเร็ว : 2.4GHz และ 5GHz,GPU : Apple GPU (4-core graphics),GPU(6-core ),Apple Neural Engine (ANE) : (16-core) ,หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 8/16GB,หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 64/256GBแบตเตอรี่ลิเธียมพอลิเมอร์ชนิดชาร์จซ้ำได้ภายในตัวเครื่อง 28.6 วัตต์ต่อชั่วโมง,ท่องเว็บผ่าน Wi‑Fi หรือดูวิดีโอได้นานสูงสุด 10 ชั่วโมง,ชาร์จจากอะแดปเตอร์แปลงไฟ หรือจากเครื่องคอมพิวเตอร์ผ่านสาย USB‑C,รุ่น Wi‑Fi + Cellular ท่องเว็บโดยใช้เครือข่ายข้อมูลเซลลูลาร์ได้นานสูงสุด 9 ชั่วโมงกล้องไวด์ ความละเอียด 8MP,รูรับแสงขนาด F/2.4,ซูมดิจิทัลได้สูงสุด 5 เท่า,ชุดเลนส์ 5 ชิ้น,พาโนรามา (สูงสุด 43MP),HDR สำหรับภาพถ่าย,แนบข้อมูลพิกัดตำแหน่งในภาพถ่าย,ระบบป้องกันภาพสั่นไหวอัตโนมัติ,โหมดภาพถ่ายต่อเนื่องระบบเซ็นเซอร์สแกนตรวจสอบลายนิ้วมือ (Fingerprint),ไจโร 3 แกน,อุปกรณ์ตรวจจับการเคลื่อนไหว,บารอมิเตอร์,เซ็นเซอร์ตรวจวัดแสงโดยรอบราคาเริ่มต้น : 17,900 บาท - 29,900 บาทดูรายละเอียดเพิ่มเติมหรือจอง iPad (รุ่นที่ 10) จาก Apple ได้ที่นี่ iPad (รุ่นที่ 10)เป็นยังไงบ้างคะกับ iPad ที่มาออกใหม่ในปี 2022 ทั้ง 3 รุ่น ที่ได้แนะนำไปถูกใจเพื่อนๆกันบ้างมั้ยคะ จริงๆทุกรุ่นนั้นก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไปเอารวมๆแล้วคืออยู่ที่ความชอบของเราเลยค่ะ บางคนชอบแบบราคาเบากระเป๋าสเปคดีหน้าจอใหญ่ก็ต้อง iPad (รุ่นที่ 10) แถมมีสีให้เลือกเยอะด้วยสำหรับใครที่ชอบสีสันสดใสต้องตัวนี้เลย ส่วนตัวคิดว่าถ้าใครใช้งานเยอะแบบจัดหนักจัดเต็มเพิ่มเงินอีกสักก้อนมาซื้อ iPad Air (รุ่นที่ 5) จะดีกว่าค่ะได้ชิปที่สเปคดีและแรงกว่าค่ะ และถ้าใครที่ชอบอะไรใหม่ๆสเปคแรงๆก็ต้อง iPad Pro M2 ค่ะแต่ถ้าให้ตัดเรื่องชิปที่ใหม่ล่าสุดและการถ่ายภาพและบันทึกวิดีโอที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น รุ่นนี้แทบไม่ค่อยแตกต่างจาก iPad Pro M1 สักเท่าไหร่ค่ะแต่ก็ขึ้นอยู่ที่การใช้งานบวกกับราคาที่เราสะดวกจ่ายเลยค่ะ และถ้าใครที่อยากซื้อไอแพดในราคาที่ถูกลงไปอีกก็สามารถดูรายละเอียดได้ที่ True Store ได้เลยนะคะโปรโมชั่นเพียบห้ามพลาดเลยค่ะ วันนี้ขอลาเพื่อนๆไปก่อนถ้ามีโปรโมชั่นดีๆหรือไอแพดรุ่นไหนน่าสนใจอีกจะมาแนะนำให้เพื่อนได้ชมกันนะคะ ขอบคุณค่ะ 🤗🤗🤗 เครดิตขอขอบคุณรูปภาพจากเว็บไซต์ True Store , apple ปก1.1 ปก1.2 ปก1.3 ภาพ1 ภาพ2 ภาพ3 ภาพ4 ภาพ5 ภาพ6เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !