แนวทางปรับปรุงสิ่งแวดล้อมในบ้าน เพื่อส่งเสริมสุขภาพ | บทความโดย Pchalisa ที่อยู่อาศัยที่บางคนอาจเรียกว่า คอนโด บ้าน หอพัก บ้านเช่า หรืออะไรก็ตามแต่ในทำนองนั้น ทุกอย่างที่กล่าวมาคือสิ่งแวดล้อมอย่างหนึ่งที่อยู่รอบตัวเราค่ะ สิ่งแวดล้อมรอบตัวเราสามารถส่งเสริมสุขภาพเราในทางบวกได้ ที่ในขณะเดียวกันหากสิ่งแวดล้อมนั้นมีบางอย่างที่สามารถคุกคามสุขภาพได้ แบบนี้เราจะได้รับผลกระทบแน่นอน ที่ผลกระทบนั้นอาจมีความรุนแรงมากหรือน้อยก็ได้ เกิดขึ้นแบบทันทีทันใดหรือใช้เวลานาวกว่าจะเห็นผลเสียก็ได้ นั่นคือผลของสิ่งแวดล้อมรอบตัวเราค่ะ โดยบ้านที่มีสิ่งแวดล้อมดี ก็ส่งเสริมสุขภาพในทางดีของคนในบ้าน เพราะจะว่าไปแล้วคนส่วนมากใช้เวลาที่บ้านมากกว่าที่อื่นค่ะ ดังนั้นการจัดการสิ่งแวดล้อมในบ้านจึงมีความสำคัญไม่แพ้เรื่องอื่นในชีวิตของเรา ซึ่งผู้เขียนก็เป็นคนหนึ่งที่ตระหนักเรื่องนี้พอสมควร จึงอยากมาส่งต่อแนวทางปรับปรุงสิ่งแวดล้อมในบ้าน ที่ได้ทำประจำเพื่อทำให้บ้านน่าอยู่และโดยภาพรวมมีสิ่งแวดล้อมดีค่ะ ดังข้อมูลต่อไปนี้ 1. ทำความสะอาดบ้าน ปกติในบ้านมีความสกปรกเกิดขึ้นค่ะ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งสกปรกจากที่เรามีกิจกรรมต่างๆ ภายในบ้าน ตัวเราเองก็พาความสกปรกจากนอกบ้านมาในบ้านได้ด้วย เช่น ฝุ่นละอองต่างๆ ที่ติดมากับเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า อีกทั้งในอากาศก็มีเรื่องของฝุ่นละอองและความสกปรกพัดพาเข้ามาในบ้าน การเสื่อมสภาพของข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ภายในบ้าน ก็ทำให้เกิดความสกปรกขึ้นมานะคะ ดังนั้นการทำความสะอาดจึงจำเป็นตามมา ก็ให้ปัด กวาด เช็ดถู ทิ้งข้าวของที่สภาพไม่ดีแล้ว และอื่นๆ ที่เป็นการลดความสกปรกในบ้าน การทำความสะอาดบ้านไม่ใช่ว่ากลัวว่าคนอื่นจะว่าเราไม่ความขยัน แต่ประโยชน์ทางตรงเลยคือบ้านเราสะอาดและมีสิ่งแวดล้อมดีค่ะ 2. เพิ่มพื้นที่สีเขียวในบ้าน ปัจจุบันคนโหยหาธรรมชาติมากค่ะ การไปนอกบ้านเพื่อไปใช้เวลากับธรรมชาติจึงเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่คิดได้ แต่คุณผู้อ่านรู้ไหมคะว่า เราสามารถเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้บ้านของเราได้ด้วย ที่อาจทำในสิ่งที่เป็นไปได้และเข้ากับความชอบของตัวเองค่ะ อย่างในกรณีของผู้เขียนคือจะมีสวนผักหน้าบ้าน มีดอกไม้ และมีไม้ดอกไม้ประดับค่ะ ซึ่งคุณผู้อ่านก็สามารถทำสิ่งนี้ได้ มีบ้างเล็กน้อยก็ยังดีค่ะ เพราะพื้นที่สีเขียวคือสิ่งที่สามารถทำให้สิ่งแวดล้อมรอบบ้านน่าอยู่ขึ้นได้เหมือนกัน 3. จัดการน้ำเสีย ทุกบ้านมีน้ำเสียเกิดขึ้นค่ะ ต่อให้บ้านหลังนั้นจะอยู่บนดอยสูงก็ตาม น้ำเสียเมื่อเกิดขึ้นแล้วสามารถสร้างปัญหาให้กับคนในบ้านได้ ตั้งแต่ส่งกลิ่นเหม็น เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของแมลงและสัตว์พาหนะนำโรคต่างๆ แถมยังเป็นจุดที่ทำให้เกิดภาพที่ดูไม่สวยงามในบ้านเราด้วยนะคะ ดังนั้นต้องจัดการน้ำเสียจากบ้านเรือนของตัวเราค่ะ ถ้าบ้านเรายังไม่มีท่อรับน้ำเสียของชุมชน เราต้องจัดการดูแลเรื่องการทำให้น้ำเสียซึมหายไปตามธรรมชาติให้ดี แต่ถ้ามีท่อรับน้ำเสียของเทศบาลอยู่หน้าบ้าน ก็ต้องหาทางระบายน้ำเสียของเราไปที่ท่อรับน้ำเสียชุมชนค่ะ เพื่อนำไปกำจัดให้เหมาะสมต่อไปนะคะ 4. จัดเก็บขยะและมีการคัดแยกขยะ หลายบ้านไม่น่ามองเพราะมีขยะกระจัดกระจายเต็มพื้นที่บ้าน ซึ่งปัญหานี้ผู้เขียนพบว่ามีค่อนข้างมาก จนทำให้สิ่งแวดล้อมในบ้านดูแย่ไปเลยค่ะ ทั้งๆ ที่บ้านหลังนั้นใหญ่มาก ขยะนอกจากจะทำให้ดูไม่สวยงามแล้ว ขยะยังสามารถเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของเชื้อโรค แมลงและสัตว์พาหนะนำโรคได้ด้วยนะคะ ดังนั้นจึงต้องมีการจัดการขยะให้ดี อะไรที่หยิบติดมือ เอาไปทิ้งเป็นขยะให้หมดค่ะ อะไรไม่ใช้แล้วก็ให้ทิ้งไป ขยะแบบไหนขายได้ก็ให้คัดแยกเป็นขยะรีไซเคิล เศษอาหารสามารถย่อยสลายได้ ก็ให้นำไปเทเป็นปุ๋ยหมักใต้ดินในสวนผักหน้าบ้านก็ได้นะคะ เพียงเท่านี้สิ่งแวดล้อมในบ้านเราก็ดีขึ้นค่ะ เพราะคือขยะคือมลพิษอย่างหนึ่ง ที่ผู้เขียนเชื่อมั่นมากว่าคงไม่มีใครอยากมีบ้านที่มีขยะ จริงไหมคะ? 5. กำจัดแหลงที่ทำให้เกิดกลิ่นเหม็น หลายคนยังไม่รู้ว่า จริงๆ แล้วกลิ่นเหม็นที่เราได้กลิ่นมักเกิดจากบ้านของเราเองด้วย เช่น กลิ่นเหม็นย้อนกลับเข้ามาในอาคารจากส้วม กลิ่นเหม็นจากขยะเปียก กลิ่นเหม็นอับจากบางส่วนในบ้านที่มีความชื้นสูง กลิ่นเหม็นจากรางรับน้ำเสียข้างบ้าน ฯลฯ ซึ่งกลิ่นไม่พึงประสงค์คือเหตุรำคาญอย่างหนึ่งนะคะ ที่ถ้ามีกลิ่นบ้านเราก็เดือดร้อนเอง และถ้ากลิ่นนี้บ้านอื่นเดือดร้อนด้วย แบบนี้สามารถร้องเรียนได้ค่ะ เพราะกลิ่นเหม็นทำให้สิ่งแวดล้อมรอบในบ้านไม่ดี เพราะสามารถส่งผลต่อสุขภาพเราได้ค่ะ 6. ให้ความสำคัญกับการระบายอากาศ หลายๆ ครั้งปัญหาของสิ่งแดล้อมในบ้าน มักเกิดจากที่เราละเลยการระบายอากาศค่ะ และที่เราจะเห็นได้ชัดเจนคือ บ้านไม่น่าอยู่จากที่มีฝุ่น มีกลิ่นเหม็น มีกลิ่นอับชื้น ดังนั้นการมีการระบายอากาศที่ดี คือแนวทางง่ายๆ ในการทำให้สิ่งแวดล้อมในบ้านดีขึ้นค่ะ ที่ควรมีการเปิดระบายอากาศอย่างสม่ำเสมอนะคะ 7. มีช่องรับแสงตามธรรมชาติ นอกจากแสงแดดตามธรรมชาติจะชวยทำให้เราลดการเปิดไฟแล้วนะคะ แสงแดดยังมีส่วนฆ่าเชื้อโรคในบ้านได้ด้วย การเปิดรับแสงแดดยังช่วยลดการเหม็นอับภายในบ้าน ดังนั้นอยากมีสิ่งแดล้อมในบ้านที่ดี ลองเปิดผ้าม่านรับแสงแดดในทุกๆ วันค่ะ 8. ลดมลพิษในบ้าน มลพิษในบ้านเกิดได้จากหลายแหล่งนะคะ สารเคมีที่เรานำมาใช้ในบ้าน ถือเป็นจุดสำคัญที่ทำให้บ้านของเรามีสิ่งแวดล้อมที่ไม่ดีได้ด้วยเหมือนกัน เช่น จากสีทาบ้าน จากสารเคมีแบบสเปรย์พ่น เป็นต้น พอเป็นแบบนี้สิ่งแวดล้อมจะไม่ดีแบบที่เรามองไม่เห็นค่ะ ซึ่งการหาทางทำอะไรสักอย่างเพื่อลดมลพิษในบ้าน คือแนวทางที่เราทุกคนสามารถทำได้ค่ะ อาจเป็นการวางต้นไม้เพื่อฟอกอากาศ การเปิดระบายอากาศในบ้านก็ได้ 9. ให้ความรู้คนในบ้าน บ้านเราจะมีสิ่งแวดล้อมดีได้ต้องอาศัยคนค่ะ ดังนั้นการให้ความรู้ในในบ้าน เพื่อทำให้ตระหนักถึงความสำคัญของการจัดการสิ่งแวดล้อมในบ้าน ถือเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะคนคือทรัพยากรที่สำคัญที่จะมาเปลี่ยนมลพิษในบ้านให้ดีขึ้น จึงไม่ควรมองข้ามหรืออาศัยเพียงคนใดคนหนึ่งบ้านบ้านเท่านั้นค่ะ เพราะถ้าทุกคนมีความรู้ความเข้าใจ เชื่อไหมคะ เขาก็จะสามารถไปทำข้อ 1-8 ได้ง่ายๆ ค่ะ จากนั้นบ้านเราก็จะมีสิ่งแวดล้อมที่ดีตามมาได้ง่ายๆ นะคะ เป็นยังไงบ้างคะ พอจะมองภาพออกแล้วใช่ไหมคะว่า มีแนวทางมากมายเลยที่เราสามารถนำมาทำให้บ้านของเรา มีสิ่งแวดล้อมที่ดีที่สามารถส่งเสริมสุขภาพได้ ที่ทุกแนวทางข้างต้นผู้เขียนนำมาทำค่ะ ปกติเป็นคนทำความสะอาดบ้านอย่างมีแบบแผน ทำประจำสม่ำเสมอ เรื่องขยะ น้ำเสียและสิ่งปฏิกูลในบ้าน ผู้เขียนคอยสอดส่องดูแลค่ะ หากพบว่ามีจุดที่ทำให้เกิดกลิ่นเหม็น จะจัดการให้ดีขึ้นให้เร็วที่สุดที่จะทำได้ค่ะ และในส่วนของพื้นที่สีเขียวนั้น ที่นี่เน้นปลูกผักสวนครัวค่ะ ที่จะกระตุ้นให้ทุกคนในบ้านช่วยกันในส่วนที่เขาทำได้ เด็กๆ ฝึกเรื่องการทิ้งขยะและคัดแยกขยะค่ะ ในบางที่ก็ให้ช่วยรดน้ำต้นไม้ทำสวน ยังไงนั้นคุณผู้อ่านลองนำไปปรับใช้กันค่ะ ซึ่งผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หากชอบบทความแบบนี้อีก ก็อย่าลืมกดติดตามหรือกดบุ๊กมาร์กหน้าโปรไฟล์ไว้นะคะ เพราะจะได้ไม่พลาดบทความใหม่ๆ ที่จะได้นำมาเผยแพร่ในเร็วๆ นี้ค่ะ เครดิตภาพประกอบบทความ ภาพหน้าปกและภาพประกอบเนื้อหาโดยผู้เขียน ออกแบบภาพหน้าปกใน Canva เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา : พยาบาลศาสตรบัณฑิต (B.N.S.) จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม); M.P.H. (Environmental Health) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ : สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การจัดการน้ำเสียและสิ่งปฏิกูล บทความอื่นที่น่าสนใจโดย Pchalisa https://news.trueid.net/detail/wvR6QzbOBRYv https://news.trueid.net/detail/q4qKljJV7vmR https://news.trueid.net/detail/zgJ5L6jvEO6n เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !