จอกหูหนู คืออะไร กำจัดยากไหม ช่วยบำบัดน้ำเสียไหม | บทความโดย Pchalisa วัชพืชในน้ำหากพูดถึงกันจริงๆ นั้น จะมีหลากหลายชนิดเหมือนกันค่ะ โดยจอกเป็นพืชน้ำอีกประเภทที่หลายคนน่าจะเคยได้ยินมาบ้างแล้ว เช่น จอกผักกาด จอกหูหนู เป็นต้น จอกหูหนูเป็นวัชพืชน้ำที่ผู้เขียนมีโอกาสเห็นมาตั้งแต่เด็กค่ะ ที่ปัจจุบันยังสามารถพบเห็นได้ แต่ถ้าจะให้เทียบปริมาณกับสมัยแต่ก่อนของที่นี่ ถือว่าพบได้น้อยแล้วค่ะ แต่บางที่ยังสามารถพบจอกชนิดนี้จำนวนมาก และหลายคนก็สงสัยว่าทำไมจอกหูหนูเกิดถึงมีมากในบางแห่ง อะไรกระตุ้นให้จอกชนิดนี้โตเร็ว ซึ่งในบทความนี้เราจะมาเรียนรู้เรื่องนี้กันค่ะ ดังข้อมูลต่อไปนี้ จอกหูหนูเป็นพืชน้ำชนิดหนึ่งค่ะ ที่จัดเป็นเฟิร์นน้ำขนาดเล็ก ที่มีลักษณะเด่นคือใบลอยน้ำที่มีรูปร่างคล้ายหูหนู ซึ่งเป็นที่มาของชื่อเรียกนั่นเองค่ะ และลักษณะเด่นอื่นๆ เช่น ใบ: มีใบ 3 แบบ ใบลอยน้ำ: 2 ใบ รูปกลมรี โค้งเข้าหากันคล้ายหูหนู ใบจมน้ำ: 1 ใบ ทำหน้าที่สร้างสปอร์ ลำต้น: เป็นเหง้าเล็กๆ แตกกิ่งก้านสาขาแผ่กระจายไปตามผิวน้ำ ราก: ไม่มีรากที่แท้จริง แต่มีส่วนที่คล้ายรากทำหน้าที่ยึดเกาะและดูดซับสารอาหาร หลายคนอาจเคยพบเห็นว่า จอกหูหนูเป็นพืชน้ำที่สามารถแพร่พันธุ์ได้รวดเร็วมาก จนกลายเป็นปัญหาสำคัญในหลายพื้นที่ แต่ยังไม่รู้สาเหตุหลักที่ทำให้จอกหูหนูแพร่พันธุ์ได้รวดเร็ว ซึ่งเหตุผลที่ทำให้จอกชนิดนี้เจริญเติบโตและขยายพันธุ์จำนวนมาก นั่นเป็นเพราะว่า การขยายพันธุ์แบบไม่ใช้เพศ: จอกหูหนูส่วนใหญ่ขยายพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ โดยการแตกหน่อจากลำต้นหลัก เมื่อส่วนที่แตกออกไปสัมผัสกับน้ำ ก็จะสามารถเจริญเติบโตเป็นต้นใหม่ได้ทันที ทำให้จำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วค่ะ สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม: จอกหูหนูเจริญเติบโตได้ดีในน้ำนิ่ง หรือน้ำที่มีการไหลเวียนช้า มีแสงแดดส่องถึง และอุณหภูมิอบอุ่น ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่พบได้ทั่วไปในแหล่งน้ำตามธรรมชาติหลายแห่ง สารอาหารอุดมสมบูรณ์: น้ำที่มีสารอาหารสูง เช่น ไนโตรเจนและฟอสฟอรัส จะทำให้จอกหูหนูเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในแหล่งน้ำที่ได้รับผลกระทบจากมลพิษทางน้ำ ไม่มีศัตรูธรรมชาติควบคุม: ในหลายพื้นที่ยังไม่มีศัตรูธรรมชาติอย่างแมลง หรือสัตว์น้ำชนิดอื่นๆ ที่จะกินจอกหูหนูเป็นอาหาร ทำให้ไม่มีตัวควบคุมการเจริญเติบโตของจอกชนิดนี้นะคะ การกระจายพันธุ์โดยมนุษย์: การขนย้ายจอกหูหนูไปยังแหล่งน้ำอื่นๆ โดยไม่ตั้งใจ เช่น ติดไปกับเรือ หรือเครื่องมือประมง ทำให้จอกหูหนูแพร่กระจายไปยังพื้นที่ใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็วได้อีกเช่นเดียวกันค่ะ จอกหูหนูเป็นพืชน้ำที่สามารถเจริญเติบโตได้ดีในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมเท่านั้นนะคะ ที่โดยทั่วไปแล้วจอกหูหนูจะเจริญเติบโตได้ดีในแหล่งน้ำนิ่งหรือน้ำไหลช้า เช่น คลอง หนอง บึง หรือสระน้ำ โดยสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเจริญเติบโตของจอกหูหนู มีดังนี้ค่ะ แสงแดด: จอกหูหนูต้องการแสงแดดเพื่อการสังเคราะห์แสง ดังนั้นแหล่งน้ำที่มีแสงแดดส่องถึงตลอดทั้งวันจึงเหมาะสมต่อการเจริญเติบโต อุณหภูมิ: อุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของจอกหูหนูคืออุณหภูมิปานกลาง ไม่ร้อนหรือเย็นจัดเกินไป อุณหภูมิที่เหมาะสมจะทำให้กระบวนการทางชีวเคมีในพืชเกิดขึ้นได้เร็วขึ้น และส่งผลให้จอกหูหนูเจริญเติบโตได้เร็วขึ้นค่ะ สารอาหาร: จอกหูหนูต้องการสารอาหารจากน้ำ เช่น ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม ซึ่งมักจะพบได้ในน้ำที่มีสารอินทรีย์สูง เช่น น้ำเสียจากชุมชน หรือน้ำที่มีการปลูกพืช น้ำที่มีสารอาหารสูงจะทำให้จอกหูหนูเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็วและมีขนาดใหญ่ค่ะ ค่าพีเอช (pH): ค่า pH ของน้ำที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของจอกหูหนูอยู่ในช่วง 6-8 ค่ะ ความลึกของน้ำ: จอกหูหนูสามารถเจริญเติบโตได้ในน้ำที่มีความลึกแตกต่างกัน แต่จะเจริญเติบโตได้ดีที่สุดในน้ำที่มีความลึกไม่เกิน 1 เมตรนะคะ น้ำนิ่ง: น้ำนิ่งจะทำให้จอกหูหนูสามารถลอยตัวและขยายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งคำถามที่หลายคนอาจมีอยู่ในใจตลอด คือ จอกหูหนูกำจัดยากไหม? คำตอบคือยากค่ะ และยิ่งปล่อยทิ้งไว้นานก็จะยิ่งกำจัดได้ยากมากขึ้นเป็นเท่าตัว ซึ่งสาเหตุที่ว่าทำไมจอกหูหนูกำจัดยาก ก็คือ การขยายพันธุ์ที่รวดเร็ว: จอกหูหนูมีอัตราการขยายพันธุ์ที่รวดเร็วมาก เพียงเศษเล็กเศษน้อยก็สามารถเจริญเติบโตเป็นต้นใหม่ได้ ระบบรากที่แข็งแรง: รากของจอกหูหนูจะยึดเกาะกับพื้นดินได้ดี ทำให้การดึงหรือขุดออกจากน้ำทำได้ยาก ความสามารถในการปรับตัว: จอกหูหนูสามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันได้ดี ทำให้สามารถเจริญเติบโตได้ในหลายสภาพน้ำ การแตกหน่อ: เมื่อถูกตัดหรือหัก จอกหูหนูจะแตกหน่อออกมาใหม่ได้หลายส่วน ทำให้การกำจัดไม่หมดสิ้นค่ะ โดยผลกระทบต่อระบบนิเวศจากที่มีจอกหูหนูจำนวนมาก อาจพบปัญหาดังต่อไปนี้ ลดปริมาณออกซิเจนในน้ำ: เมื่อจอกหูหนูขึ้นปกคลุมผิวน้ำหนาแน่น จะทำให้แสงแดดส่องลงไปในน้ำได้น้อยลง ทำให้พืชน้ำชนิดอื่นๆ สังเคราะห์แสงไม่ได้ และในเวลากลางคืนจอกหูหนูเองก็จะหายใจใช้ออกซิเจนในน้ำ ทำให้ออกซิเจนในน้ำลดลง ส่งผลให้สัตว์น้ำขาดอากาศหายใจและตายได้ ทำให้น้ำเน่าเสีย: ซากของจอกหูหนูที่ตายลงจะเน่าเปื่อยและจมลงสู่ก้นน้ำ ทำให้เกิดการหมักหมมและก่อให้เกิดแก๊สพิษ เช่น แอมโมเนีย ไฮโดรเจนซัลไฟด์ ที่มีส่วนทำให้น้ำเน่าเสียได้ค่ะ เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของยุง: จอกหูหนูที่ขึ้นหนาแน่นจะก่อให้เกิดน้ำขัง ซึ่งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของยุงที่เป็นพาหะนำโรคต่างๆ ลดความหลากหลายทางชีวภาพ: จอกหูหนูจะแย่งพื้นที่และสารอาหารจากพืชน้ำชนิดอื่นๆ ทำให้พืชน้ำดั้งเดิมลดจำนวนลง และส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อาหารในระบบนิเวศค่ะ อย่างไรก็ตามหากเราควบคุมให้มีจอกหูหนูในปริมาณที่เหมาะสม จอกชนิดนี้ยังมีส่วนช่วยบำบัดน้ำเสียได้ค่ะ ที่จะคล้ายๆ พืชลอยน้ำชนิดอื่น เพราะว่าจอกหูหนูมีความสามารถ ดังนี้ ดูดซับสารอาหาร: จอกหูหนูสามารถดูดซับสารอาหารในน้ำเสีย เช่น ไนโตรเจนและฟอสฟอรัส ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดปัญหาน้ำเสียได้ ผลิตออกซิเจน: ในกระบวนการสังเคราะห์แสง จอกหูหนูจะปล่อยออกซิเจนออกมา จึงช่วยเพิ่มปริมาณออกซิเจนในน้ำ ซึ่งมีประโยชน์ต่อสิ่งมีชีวิตในน้ำ ดูดซับโลหะหนัก: บางชนิดของจอกหูหนูสามารถดูดซับโลหะหนักบางชนิดได้ จะเห็นได้ว่าการมีจอกหูหนูมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ที่ในกรณีที่พบว่าจอกหูหนูมีจำนวนมากเกินไป จึงมีความจำเป็นที่จะต้องรู้เกี่ยวกับการควบคุมจอกหูหนูในธรรมชาติค่ะ และต่อไปนี้คือแนวทางการจำกัดปริมาณของจอกหูหนูในแหล่งน้ำ ดังนี้ กำจัดจอกหูหนูออกจากแหล่งน้ำโดยการตัก สร้างแนวป้องกันเพื่อไม่ให้จอกหูหนูแพร่กระจายไปยังพื้นที่อื่นๆ โดยเราสามารถสร้างทุ่นลอยน้ำเพื่อควบคุมไม่ให้จอกหูหนูกระจายเต็มพื้นที่ของผิวน้ำคะ ควบคุมปริมาณสารอาหารในน้ำ โดยการลดปริมาณของเสียที่ไหลลงสู่แหล่งน้ำ เช่น ลดปริมาณของเสียจากครัวเรือนและโรงงานอุตสาหกรรมที่ไหลลงสู่แหล่งน้ำ บำบัดน้ำเสียก่อนปล่อยลงสู่แหล่งน้ำ ป้องกันไม่ให้ปุ๋ยจากการเกษตรไหลลงสู่แหล่งน้ำ เป็นต้น ปลูกพืชน้ำชนิดอื่น เช่น ผักตบชวา จอกผักกาด เป็นต้น เพื่อแข่งขันกับจอกหูหนู อนุรักษ์แหล่งน้ำ โดยการไม่ทิ้งขยะลงในแหล่งน้ำและหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีในบริเวณใกล้เคียงแหล่งน้ำ และถึงแม้ว่าจอกหูหนูมักถูกมองว่าเป็นวัชพืชที่ก่อให้เกิดปัญหา แต่จริงๆ แล้วจอกหูหนูก็มีประโยชน์หลายอย่างที่น่าสนใจ ที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้นะคะ เช่น ปุ๋ยอินทรีย์: จอกหูหนูสามารถนำไปหมักทำปุ๋ยอินทรีย์ได้ ซึ่งอุดมไปด้วยธาตุอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช ช่วยบำรุงดินให้มีความอุดมสมบูรณ์ อาหารสัตว์: จอกหูหนูบางชนิดสามารถนำไปเป็นอาหารสัตว์ได้ เช่น วัว ควาย หรือใช้เป็นอาหารเสริมในการเลี้ยงสัตว์ปีก ตัวบ่งชี้คุณภาพน้ำ: จอกหูหนูสามารถใช้เป็นตัวบ่งชี้เบื้องต้นในการวัดคุณภาพของแหล่งน้ำได้ หากน้ำมีคุณภาพดี ใบของจอกหูหนูจะเป็นสีเขียวอมฟ้า แต่ถ้าหากน้ำมีปริมาณออกซิเจนน้อย ใบจะออกเหลือง ไม้ประดับ: จอกหูหนูบางชนิดมีรูปทรงสวยงาม สามารถนำไปใช้ตกแต่งในอ่างปลาหรือสวนน้ำได้ค่ะ แหล่งอาหารของสัตว์น้ำ: จอกหูหนูที่ตายลงจะกลายเป็นแหล่งอาหารของสัตว์น้ำขนาดเล็ก เช่น ปลา กุ้ง ที่โดยส่วนตัวแล้วผู้เขียนก็ได้นำจอกชนิดนี้มาใส่ในบ่อเลี้ยงปลาค่ะ ที่ทำไปแบบนั้นก็เพื่อความสวยงาม กับได้แนะนำให้คนที่รู้จักกำจัดจอกหูหนูด้วยการตักขึ้นมาหมักทำปุ๋ยพืชสด ที่เป็นการกองหมักใต้ต้นไม้แบบง่ายๆ และปล่อยให้เกิดการย่อยสลายเองไปเรื่อยๆ ตามธรรมชาติค่ะ ที่คุณผู้อ่านก็สามารถปรับใช้ได้เหมือนกัน เช่น นำจอกหูหนูมาใส่ในบ่อน้ำในสวน เพื่อความสวยงามและเป็นตัวบ่งชี้ถึงคุณภาพน้ำได้ค่ะ อย่างไรก็ตามผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หากชอบบทความแบบนี้อีก ก็อย่าลืมกดติดตามหรือกดบุ๊กมาร์กหน้าโปรไฟล์ไว้นะคะ เพราะจะได้ไม่พลาดบทความใหม่ๆ ที่จะได้นำมาเผยแพร่ในเร็วๆ นี้ค่ะ เครดิตภาพประกอบบทความ ภาพหน้าปกและภาพประกอบเนื้อหาโดยผู้เขียน ออกแบบภาพหน้าปกใน Canva เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา : พยาบาลศาสตรบัณฑิต (B.N.S.) จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม); M.P.H. (Environmental Health) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ : สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การจัดการน้ำเสียและสิ่งปฏิกูล บทความอื่นที่น่าสนใจโดย Pchalisa https://news.trueid.net/detail/pQ1zLZmPGo64 https://news.trueid.net/detail/YrLO7wPdNWY0 https://news.trueid.net/detail/nAmByKanyad0 เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !