ยิ่งเช้า…ยิ่งสูดฝุ่น! ออกกำลังตอนเช้าเสี่ยงสุดของวัน

รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Jessada Denduangboripant อธิบายเรื่อง การวิ่งตอนรุ่งเช้า เสี่ยงรับฝุ่น PM2.5 มากกว่าวิ่งตอนเย็น โดยระบุข้อความไว้ดังนี้
"อยากฝากบอกว่า วิ่งตอนรุ่งเช้า เสี่ยงรับฝุ่น PM2.5 มากกว่าวิ่งตอนเย็นครับ"
หลังจากที่โพสต์เตือนไปแล้วเรื่องเกี่ยวกับว่า "ฝุ่น PM 2.5" ที่กลับมาเยอะขึ้น ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ไปจนถึงต้นสัปดาห์หน้า ก็มีคำถามจากคอมเม้นต์ว่า
"อาจารย์ครับ ฝุ่นมันอันตรายจริงๆ เหรอครับ ทำไม คนยังไปวิ่งกัน ทั้งเมื่อคืนและตอนเช้า หมอก็ไปวิ่ง คนดังก็ไปวิ่ง จนผมชักงงๆ แล้วว่า เครื่องวัดฝุ่นมันผิดพลาดมั้ย ขอความกรุณาอาจารย์ชี้แนะครับ"
ซึ่งก็สอดคล้องกับที่เมื่อคืน ตั้งแต่ช่วงตี 2 เป็นต้นไป มีการจัดวิ่งมาราธอนครั้งใหญ่ ใจกลางเกาะรัตนโกสินทร์ กรุงเทพฯ แล้วก็มีคนดังๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศมาวิ่งกันมากมาย แต่เหมือนไม่มีใครได้เตือนกันว่า เป็นช่วงเวลาที่มีฝุ่นPM2.5 หนาแน่นนะครับ
แม้ว่าเราจะพยายามรณรงค์สร้างความตระหนักเกี่ยวกับฝุ่น มาจะ 10 ปีแล้ว แต่สิ่งที่คนส่วนใหญ่จะไม่ค่อยรู้กัน คือ ช่วงเวลาของแต่ละวัน ที่มีฝุ่นค่อนข้างสะสมตัวหนาแน่นๆ นั้น
โดยทั่วไปแล้ว ช่วงใกล้รุ่งเช้า คือช่วงที่มีฝุ่นมากที่สุด ขณะที่ช่วงกลางวัน เป็นช่วงที่มีฝุ่นน้อย ซึ่งเป็นผลจากเรื่องของความชื้นและความร้อนในอากาศ ช่วงเวลาไหน อากาศค่อนข้างชื้น และอุณหภูมิต่ำ (อย่างช่วงใกล้รุ่งเช้า) กระแสลมก็จะไม่พัดพาฝุ่นขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศเบื้องบน แต่จะสะสมตัวอยู่ที่พื้นผิว ขณะที่ช่วงกลางวันเที่ยงๆ อากาศร้อน กระแสลมลอยตัวขึ้น ฝุ่นก็จะน้อยลง ทั้งๆที่การสร้างฝุ่นในพื้นที่เมือง เช่น จากการจราจรนั้น ไม่ได้ลดน้อยลง ดังนั้น ถ้าจะต้องออกกำลังกายช่วงนี้แนะนำให้อยู่ในอาคารที่มีเครื่องฟอกอากาศ แต่ถ้าจำเป็นต้องออกกำลังกายกลางแจ้ง แนะนำว่า ช่วงสายๆ ช่วงกลางวัน ถึงช่วงเย็น ก็ยังมีฝุ่นน้อยกว่าช่วงรุ่งเช้า
ปัญหาที่มีต่อสุขภาพของฝุ่น PM 2.5 มักจะเกิดกับกลุ่มคนที่มีความเปราะบางทางสุขภาพ เช่น เด็กเล็ก คนชรา สตรีมีครรภ์ ผู้ที่มีโรคทางเดินหายใจและโรคหัวใจ ฯลฯ ส่วนคนทั่วไปมักจะเป็นผลที่เรื้อรัง ไม่ได้ทำให้เกิดอาการเฉียบพลันทันที เลยทำให้สร้างความตระหนักได้ค่อนข้างยากครับ
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
