รีเซต

NCH ปี65 เดินแผนโตต่อ ไฮซีซัน-LTVหนุนQ4แจ๋ว

NCH ปี65 เดินแผนโตต่อ ไฮซีซัน-LTVหนุนQ4แจ๋ว
ทันหุ้น
1 ธันวาคม 2564 ( 18:31 )
152
NCH ปี65 เดินแผนโตต่อ ไฮซีซัน-LTVหนุนQ4แจ๋ว

ทันหุ้น - NCH เตรียมแผนปี 2565 เดินหน้าสร้างผลงานโตต่อเนื่อง หลังปั้นของใหม่เพิ่ม ฟุ้งรายได้ปี64 ทะลุเป้า 2 พันล้านบาท โครงการเรียงคิวบุ๊กเพียบ ประเมินโค้งท้ายฟอร์มสวย ตลาดฟื้น อานิสงส์ไฮซีซัน-LTV หนุน

 

นายสมนึก ตันฑเทอดธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ NCH เปิดเผยว่า เบื้องต้นในปี 2565 ผลงานบริษัทน่าจะเติบโตต่อเนื่องจากปี 2564 จากการที่ธุรกิจมีการพัฒนาโครงการใหม่ๆ ต่อเนื่อง โดยยังมุ่งให้ความสำคัญกับโครงการแนวราบเป็นหลัก และน่าจะมีจำนวนโครงการที่ใกล้เคียงกับปีนี้ ส่วนรายละเอียดที่ชัดเจนคาดได้สรุปได้ต้นปี 2565

 

ปีหน้าโตต่อ

ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) ในมือจำนวน 200 ยูนิต คิดเป็ฯมูลค่ารวม 709 ล้านบาท ซึ่งคาดน่าจะสามารถทยอยโอนและส่งมอบให้กับลูกค้าได้ในช่วงที่เหลือปีนี้ประมาณ 600 ล้านบาท และที่เหลือจะทยอยโอนในปี 2565รวมทั้งธุรกิจยังมีแนวทางพัฒนาโครงการและมองหาโอกาสในการเข้าซื้อทีดินใหม่เพิ่มเติมด้วย

 

“ในแง่แผนงานและเป้าหมายปี 2565 ตอนนี้อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล แต่เชื่อรายได้จากการโอนและยอดขายคงดีขึ้นจากปีนี้ เพราะมีการเปิดโครงการใหม่เพิ่มเติมประกอบกับมีสต็อกที่รอขายอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งล้วนสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจ”

 

ขณะที่ปี 2564บริษัทคาดรายได้น่าจะเติบโตมากกว่าเป้าหมายที่วางไว้ราว 2 พันล้านบาท หลังช่วง 9 เดือนแรกปีนี้บริษัทมีรายได้แล้ว 1.88 พันล้านบาท ประกอบกับในช่วงที่เหลือยังมีรับรู้รายได้จาก Backlog รวมถึงโครงการพร้อมโอน (สต็อก) เข้าเสริม ซึ่งล่าสุดมีตัวเลขสต็อกอยู่ที่มากกว่า 2 พันล้านบาท

 

ไฮซีซันดันQ4แจ่ม

ส่วนทิศทางผลงานในไตรมาส 4/2564 ทประเมินว่ารายได้น่าจะเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 3/2564เพราะเป็นช่วงเข้าสู่ฤดูกาล (ไฮซีซัน) ของอุตสาหกรรม ประกอบกับได้รับปัจจัยบวกจากมาตรผ่อนคลายเกณฑ์กำหนดเพดานการปล่อยสินเชื่อเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย (LTV) ของธนาคารแห่งประเทศ ซค่งน่าจะเป็นแรงหนุนให้ภาพรวมธุรกิจปรับตัวดีขึ้น

 

ขณะที่แนวทางการบริหารในโค้งท้ายปี 2564 บริษัทยังคงให้ความสำคัญกับการเปิดตลาดเชิงรุก เจาะ Segment กลุ่มใหญ่แนวราบ ทาวน์เฮาส์, บ้านแฝด, บ้านเดี่ยว ระดับราคา 3-5ล้านบาทต่อยูนิต ด้วยราคาที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดบ้านแนวราบ โดยขยายทำเลเพิ่มครอบคลุมพื้นที่ 4 ทำเลศักยภาพ อีกทั้ง ยังเพิ่มกำลังการผลิตบ้านด้วยระบบเทคโนโลยีการก่อสร้างทันสมัย ให้ความสำคัญในการวางกลยุทธ์ด้าน Segment ของบริษัทที่มีอัตราการเติบโตที่ดี และสอดคล้องกับลูกค้าเป้าหมายที่ต้องการบ้านในยุคโควิค-19

 

พร้อมกันนี้ ยังคงเดินหน้าพัฒนากลุ่มฐานลูกค้าภายใต้แบรนด์ “บ้านฟ้ากรีนเนอร์รี่” และ “บ้านฟ้ากรีนพาร์ค” เป็นเรือธงเพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิม รวมถึงการรุกขยายหาฐานลูกค้าใหม่ ตลาดใหม่เพื่อเพิ่ม Market Share ของบริษัท ควบคู่การพัฒนาคุณภาพการผลิตบ้านด้วยระบบเทคโนโลยีก่อสร้างทันสมัยให้สอดคล้องกับความต้องการที่อยู่อาศัยที่เพิ่มขึ้น หวังสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจในอนาคต

 

อนึ่ง ผลการดำเนินงานช่วง 9 เดือน ปี 2564 มีรายได้จากการขาย 1, 886 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วง 9 เดือนของ ปี 2563 ซึ่งมีรายได้จากการขาย 1,179.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 706.66 ล้านบาท หรือคิดเป็น 59.89% บริษัทมีรายได้รวม 1,911.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้น715.94 ล้านบาท คิดเป็น 59.86% ทำให้ผลประกอบการ 9 เดือน มีกำไรสุทธิ 171.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 152.66% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

 

สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส3/2564 มีกำไรสุทธิ 39.23 ล้านบาท ด้วยบริษัทฯ มีปัจจัยบวกมีความสามารถด้านการโอนกรรมสิทธ์ส่งมอบบ้านให้กับลูกค้าเพิ่มขึ้น ซึ่งมีรายได้รวมไตรมาส3/2564 ที่เพิ่มขึ้น 492.22 ล้านบาท และมีรายได้การขายที่เพิ่มขึ้น 484.84 ล้านบาท

ข่าวที่เกี่ยวข้อง