รีเซต

อสส.ห่วงคนแจกของผู้เดือดร้อนโควิด แจ้งอัยการใช้ดุลพินิจรอบคอบสั่งไม่ฟ้องถ้าไร้เจตนาทำผิด

อสส.ห่วงคนแจกของผู้เดือดร้อนโควิด แจ้งอัยการใช้ดุลพินิจรอบคอบสั่งไม่ฟ้องถ้าไร้เจตนาทำผิด
มติชน
24 เมษายน 2563 ( 16:02 )
50
อสส.ห่วงคนแจกของผู้เดือดร้อนโควิด แจ้งอัยการใช้ดุลพินิจรอบคอบสั่งไม่ฟ้องถ้าไร้เจตนาทำผิด

“อสส.”เป็นห่วงคนเจตนาดีเเจกของผู้ได้รับผลกระทบโควิด-19ออกหนังสือถึงอัยการทั่วประเทศใช้ดุลพินิจรอบคอบสั่งไม่ฟ้องคดีที่ไม่มีเจตนาทำผิดกฎหมาย ให้อัยการสคช.ให้ความรู้เเจกของยังไงไม่ผิดกฎหมาย ส่วนจงใจฝ่าฝืนยันลงโทษสถานหนัก

เมื่อวันที่ 24 เมษายน นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดเปิดเผยว่า นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุด (อสส.)ได้มีหนังสือ อส0001/ว188 ลงวันที่วันเดียวกันนี้ เเจ้งพนักงานอัยการทั่วประเทศเพื่อซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติการดำเนินคดีที่มีผลกระทบต่อการแก้ปัญหาสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยหนังสือดังกล่าวมีสาระสำคัญคือ

สำหรับแนวทางการดำเนินคดีผู้ฝ่าฝืนพ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานะการณ์ฉุกเฉินยังคงให้พนักงานถือปฎิบัติตามหนังสือสำนักงานอัยการสูงสุดที่อส0001/ว140 ลงวันที่ 31 มีนาคม 2563 โดยให้พนักงานอัยการทั่วประเทศดำเนินคดีผู้ที่ฝ่าฝืนพ.ร.ก.โดยรอบคอบ รวดเร็ว และเฉียบขาด เพื่อให้ผู้กระทำความผิดได้รับโทษตามกฎหมาย สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล จากการดำเนินการตามแนวทางดังกล่าวในช่วงที่ผ่านมาทำให้จำนวนผู้ฝ่าฝืนพ.ร.ก.ลดลง และสอดคล้องกับจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ก็ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ จึงขอให้พนักงานอัยการปฏิบัติตามแนวทางดังกล่าวโดยเคร่งครัดต่อไป

นายประยุทธ กล่าวว่า อัยการสูงสุด ได้เน้นย้ำว่า ตามปรากฏเป็นข่าวในสังคมว่ามีประชาชนผู้ประสงค์ดีได้นำปัจจัยต่างๆที่สำคัญในการดำรงชีวิตเช่นยา อาหาร เครื่องอุปโภคบริโภค อุปกรณ์ป้องกันการแพร่ระบาด เป็นต้น ไปมอบแจกจ่ายให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ จนบางครั้งอาจมีการรวมตัวและแก่งแย่งสิ่งของกัน การกระทำดังกล่าวหากมีการจับกุมดำเนินคดี อัยการสูงสุดได้ให้พนักงานอัยการใช้ดุลยพินิจพิจารณาพยานหลักฐานประกอบพฤติการณ์แห่งการกระทำโดยรอบคอบว่าการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดในทางอาญาเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉินดังกล่าวหรือไม่ จึงจะมีความเห็นคำสั่งว่าสามารถสั่งฟ้องได้หรือไม่เพียงใด ทั้งนี้ให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย และในกรณีที่มีการกระทำในลักษณะการมอบและการแจกจ่ายสิ่งของต่างๆดังกล่าวนั้น อัยการสูงสุดให้สำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชนและสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดประชาสัมพันธ์และให้ความรู้ทางกฎหมายแก่ประชาชนว่าต้องดำเนินการให้เป็นไปตามมาตรการของทางรัฐบาลในการยับยั้งการแพร่ระบาดของการติดเชื้อและไม่เป็นการฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

นายประยุทธ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันสำนักงานอัยการสูงสุดมีสำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน ครอบคลุมอยู่ทุกจังหวัด มีพนักงานอัยการและบุคลากร สามารถขับเคลื่อนในการรณรงค์เพื่อให้ความรู้ทางกฎหมายกับประชาชนและเร่งประชาสัมพันธ์ตามนโยบายและหนังสือสั่งการของอัยการสูงสุดได้ทันที