มนุษย์กับสังคมเป็นของคู่กัน ตั้งแต่วินาทีแล้วที่คนเราเกิดมาก็มีเส้นสายความสัมพันธ์ต่าง ๆ โยงใยอยู่เต็มไปหมด ทั้งความสัมพันธ์ที่ดีและความสัมพันธ์ที่ให้โทษหากเป็นคนรู้จัก เพื่อน เราอาจจะพอทำใจตัดมันลงได้ แต่หากเป็นสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งกว่าอย่างพี่น้อง เพื่อนสนิท ครอบครัว หรือคนรัก มนุษย์เรามักเข้มแข็งไม่มากพอเสมอToxic Relationship คือ ความสัมพันธ์ที่เป็นพิษ ทั้งสองฝ่ายหรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมักมุ่งทำร้ายกันตลอดเวลา ไม่ว่าจะด้วยร่างกายหรือจิตใจ ตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ แต่มักบั่นทอนความรู้สึก เป็นเหมือนความสัมพันธ์ที่แม้จะอยู่ด้วยกันแต่กลับทำให้อีกฝ่ายต้องเจ็บช้ำอยู่ตลอด"เพราะรักมากจึงยอมทน"หลาย ๆ คู่รักก็มักเป็นแบบนี้ เพราะรักเขามากจึงยอมให้อภัย ไม่ใช่ไม่เจ็บ แต่คิดว่าถ้าไม่มีเขามันจะเจ็บยิ่งกว่า เราจึงอยากถามคุณว่า ถ้าคุณจะรักเขามากขนาดนั้น แล้วตัวคุณล่ะ? คุณได้ให้ความรักกับตัวเองมากพอแล้วเหรอ ทั้งจากประสบการณ์ของตัวเองและคนรอบตัว เราเลยอยากจะเอาแนวคิด และวิธีที่จะทำให้ตัวเองก้าวเดินออกจากความสัมพันธ์ Toxic หรือแก้ไขปรับปรุงสิ่งที่เป็นพิษต่อชีวิตมาแชร์ บางข้ออาจจะรู้สึกว่าทำตามไม่ได้ หรือบางข้ออาจใช้ไม่ได้จริง แต่เราหวังว่าเมื่ออ่านบทความเหล่านี้จบ คุณจะมองเห็นอะไร ๆ ชัดเจนขึ้นมาได้บ้าง 1) เปิดใจคุยกันให้มากขึ้นวิธีง่าย ๆ ที่ถ้าทำได้ล้วนทำให้ความสัมพันธ์ในทุก ๆ คู่ และทุกรูปแบบมั่งคงขึ้น หลายคนมักจะชอบเก็บงำสิ่งที่คิดไว้คนเดียว บ้างกลัวการที่จะพูดออกไป กลัวจะทำให้อีกฝ่ายโกรธ กลัวว่าจะต้องทะเลาะกัน ซึ่งเราไม่อยากให้คุณกังวลไปก่อนที่มันจะเกิดขึ้น "รู้ไหมว่า การสื่อสารนี่แหละคือหัวใจหลักของความสัมพันธ์"คุยกันให้มาก มีอะไรรู้สึกอย่างไรให้บอกกันเสมอ อย่าเก็บเอาทุกสิ่งไว้กับตัวเอง ไม่อย่างนั้นสักวันสิ่งที่คุณอัดมันไว้จะย้อนกลับมาทำร้ายตัวคุณ "ฉันไม่ชอบเวลาที่คุณทำเหมือนฉันไม่มีตัวตนเวลาอยู่กับกลุ่มเพื่อนเลย รู้ไหมฉันอึดอัด ฉันรักคุณมากพอที่จะยอมรับเพื่อนฝูงและสิ่งที่คุณเป็น ก็อยากให้คุณให้เกียรติและยอมรับฉันเข้าไปในชีวิตของคุณด้วย""ฉันแค่อยากให้เรามีเวลาทำเรื่องพิเศษด้วยกันมากกว่านี้ ตอนนี้ทุก ๆ อย่างมันกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปเสียหมด ไปเที่ยวกันไหม ทำกิจกรรมกัน ฉันอยากให้เรามีความทรงจำร่วมกันมากกว่านี้นะ""เพราะรักฉันถึงไม่ชอบเวลาคุณไปทำตัวเกินเลยกับใคร เพราะรักฉันถึงยอมให้คุณทุกอย่าง ถ้าคุณรักฉันเหมือนกันช่วยเข้าใจหน่อยได้ไหม เราเป็นแฟนกันนะ ฉันไม่อยากมานั่งระแวงว่าสักวันความสัมพันธ์ของเราต้องจบลงเพราะใครคนอื่น"ในการเปิดใจคุยกัน อาจจบลงที่ทั้งสองฝ่ายหาจุดร่วมตรงกลางได้ หรืออาจจบลงด้วยการทะเลาะก็ได้ ซึ่งไม่ต้องกลัวนะ มันเป็นสิ่งที่ธรรมดาสามัญ เพราะมนุษย์เราต่างมีความคิดเป็นของตัวเอง และมองทุกอย่างด้วยคนละมุมมองกันอยู่แล้ว ถ้าไม่ทะเลาะกันวันนี้เราอาจจะไม่มีวันเข้าใจกันเลยก็ได้เพราะงั้นการคุยกันจึงต้องตั้งอยู่บนหลักของข้อถัดไป 2) ใช้เหตุผลให้มากกว่าอารมณ์มนุษย์มักเต็มไปด้วยอารมณ์ รัก โลภ โกรธ หลง ติดตัวมาตั้งแต่ไหนแต่ไร แต่เรามีวิธีแก้ง่าย ๆ ที่ทำให้ทุกอารมณ์ที่กำลังพลุ่งพล่านเบาบางลงได้ นั่นคือการ"ลองมองทุกอย่างในมุมคนนอก" ลองคิดว่าถ้าเรื่องที่เผชิญเป็นเรื่องของเพื่อนเรา เราจะให้คำแนะนำเพื่อนอย่างไร คุณอยากให้เพื่อนทนเจ็บช้ำแบบนั้นมั้ย หรืออยากให้เพื่อนตั้งสติแล้วดึงตัวเองขึ้นมาเช่นกันเมื่อเราสามารถทำให้อารมณ์ตัวเองเบาลงได้ คิดและพูดกันด้วยเหตุผลมากขึ้น การทะเลาะจนใหญ่โต เกี้ยวกราด ตะคอก ก็จะเกิดขึ้นน้อยลงเวลาคุณพูดคุยกัน แสดงความคิดความรู้สึกอะไรของตัวเองออกไป ลองหยิบยกเหตุผลมาประกอบดูเมื่อต้องทะเลาะ เมื่อต้องพูดคุยกัน อย่าจบลงด้วยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นฝ่ายชนะ คุณต้องบอกเหตุผลของคุณโดยเว้นให้อีกฝ่ายได้แสดงมุมมองของเขาด้วยเสมอ เพราะความสัมพันธ์ไม่ใช่การแข่งขัน มันคือเรื่องของการเข้าใจกันระหว่างคนสองคนหลักการเดียวกับการสลับมุมมอง ลองให้เขาคิดตามว่าถ้าเขาเป็นเราจะรู้สึกอย่างไร และลองพูดในเชิงว่าถ้าเราเป็นเขาเราจะรู้สึกอย่างไรออกไป ให้อีกฝ่ายได้คิดตามดูจงใช้เหตุผลให้มาก ตระหนักอยู่เสมอว่าเราไม่ใช่เขา เขาไม่ใช่เรา ไม่มีทางที่คนสองคนจะเข้ากันได้ 100% แต่ขอแค่ 50% ที่ต่างฝ่ายต่างรับและเข้าใจกันได้ก็พอ 3) หาคนกลางที่พร้อมจะเป็นที่ปรึกษาให้กับคุณอีกหนึ่งวิธีที่จะทำให้ความสัมพันธ์มั่นคงขึ้นได้ คือการหาเพื่อน พี่น้อง ครอบครัว หรือใครสักคนที่พร้อมรับฟังเรื่องราวจากทั้งคุณและเขา เพื่อที่จะช่วยเป็นตัวกลางในการแปลความและสื่อสารสิ่งที่คู่รักมักจะไม่ยอมบอกกันออกไปแทน อาจจะด้วยความกลัว ความเกรงใจ มีหลายคู่เลยทีเดียวนะคะ ที่พอเปิดใจคุณกันกลับไม่ยอมซื่อสัตย์ต่อตัวเองว่าไม่ชอบไม่โอเคกับอะไร จนวันหนึ่งมันสะสมออกมาเป็นความรู้สึกแย่ ๆ "เราที่จมอยู่ในความสัมพันธ์ไม่มีวันมองทุกอย่างได้กระจ่างชัดเท่าคนนอกที่มองเข้ามาหรอก"ผู้เขียนเองก็เป็นใครคนนั้นที่เป็นตัวกลางให้กับเพื่อนของตัวเองค่ะ ด้วยความที่เพื่อนของเราทั้งสองฝ่ายต่างคิดว่าตัวเองก็มีส่วนผิด เวลาคุยกันก็ชอบเก็บงำแล้วโยนความผิดให้ตัวเองแต่พอเวลาที่ทั้งคู่แยกมานั่งปรึกษากับเรา กลับยอมพูดระบายออกมาอย่างหมดเปลือก นี่จึงทำให้เราเข้าใจว่าการมีที่ปรึกษาที่ดี พร้อมมองทุกอย่างด้วยความเป็นจริง เท่าเทียม เข้าใจทั้งสองฝ่าย และพร้อมช่วยให้ความสัมพันธ์มันดีขึ้น ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยแก้ไขเรื่องราวที่ผิดใจกันได้นั่นเอง 4) หากิจกรรมทำและใช้เวลาเพื่อมีความสุขลองหากิจกรรมทำดูค่ะ อะไรที่ยังไม่เคยลองทำก็หยิบมาลองเสียซะตอนนี้ ใช้เวลาว่างแทนที่จะคิดฟุ้งซ่านไปทำอย่างอื่นให้ร่างกายได้กระปรี้กระเปร่าแทน "ถ้าคุณหาความสุขให้ตัวเอง หาเรื่องใหม่ ๆ ที่ทำร่วมกันแล้วยิ้มขึ้นมาได้ ประสบการณ์และความทรงจำดี ๆ ที่มีร่วมกันจะช่วยดึงสติคุณขึ้นมา"คุณอาจจะออกไปทำกิจกรรมให้กับตัวเองก็ได้ ไปช้อปปิ้ง เดินเล่น ตีแบต ออกกำลังกาย ระบายสี เล่นเกม หรือลองอะไรใหม่ ๆ อาจจะชวนเพื่อนออกไปสังสรรค์ ผจญภัยด้วยกัน เพื่อผ่อนคลายตัวเองออกมาจากหลุมดำของความเครียดหรือคุณอาจจะชวนคู่ของคุณเอง ออกไปใช้เวลาร่วมกัน ทำในสิ่งที่อีกฝ่ายต่างมีความสนใจและถ้าเขาและคุณ รักกันมากพอ อยากมีกันมากพอ ทุก ๆ ความทรงจำที่ร่วมสร้างมันขึ้นมาใหม่ด้วยกันจะทำให้พวกคุณพร้อมที่จะเปิดใจเพื่อปรับเข้าหากันใหม่อีกครั้งเอง แต่ถ้าเกิดว่าไม่ การที่คุณสามารถออกไปหาความสุขให้กับตัวเองได้ มันก็จะเป็นแรงผลักดัน สร้างความเข้มแข็งให้คุณกล้าที่จะเดินออกมา 5) อย่าลืมรักตัวเองข้อนี้ที่สำคัญที่สุด เพราะในชีวิตคุณทั้งชีวิต คนที่อยู่กับคุณมาตั้งแต่เกิด ผ่านทุกเรื่องราวไม่ว่าจะสุขหรือเศร้า เป็นคนเดียวที่พร้อมเข้าใจและอยู่ข้างคุณเสมอ ก็คือตัวคุณเอง ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่คุณปล่อยให้ใครคนหนึ่งเข้ามาทำลายความสุขแสนเรียบง่ายของคุณไป ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่คุณเห็นค่าตัวเองน้อยลง "ทั้งชีวิตมีอีกหลายพันหลายหมื่นคนที่จะผ่านเข้ามา ความสัมพันธ์จะเกิดขึ้นอีกกี่ครั้งก็ได้ แต่ถ้าวันนี้คุณยังไม่รักตัวคุณเอง แล้วทำไมถึงไปมอบความรักให้กับใครไม่รู้ ที่พร้อมจะทำลายหัวใจดวงนั้นของคุณตลอดเวลา"ถ้าความสัมพันธ์มันเจ็บปวดเกินกว่าจะไปต่อ ถ้าเขาทำผิดต่อคุณจนเกินจะแก้ไข ได้โปรดก้าวออกมาค่ะ เรารู้ว่ามันยากแต่คุณจะทำมันได้ จบแต่เจ็บนะเปลี่ยนความบอบช้ำเป็นความโกรธซะดีกว่า เขาเป็นใครถึงกล้าเข้ามาทำลายชีวิตคุณ ความรัก 1 ปี หรือต่อให้ 10 ปี แล้วมันเท่ากับที่คุณถนอมตัวเองจนเติบใหญ่ขึ้นมาถึงทุกวันนี้ไหม ชีวิตนี้มันช่างแสนสั้น และยาวนานในเวลาเดียวกัน เพราะงั้นไม่ว่าจะทางไหน เวลาก็จะทำให้ทุกอย่างมันดีขึ้นมาได้เอง สุดท้ายก็หวังว่าทั้ง 5 ข้อวิธีก้าวออกมาจากความสัมพันธ์ที่แสนเจ็บช้ำนี้ จะทำให้ทุกคนฮึดสู้และพร้อมเดินต่อไปได้นะคะ! แคร์ตัวเองมาก ๆ เข้าไว้น้าทุกคน ภาพหน้าปกโดย BUMBLEBEAR / ผู้เขียนขอบคุณภาพประกอบจาก Pixabay : ภาพที่ 1 โดย birgl / ภาพที่ 2 โดย geralt / ภาพที่ 3 โดย pasja1000 / ภาพที่ 4 JillWellington โดย / ภาพที่ 5 silviarita โดย และกราฟฟิกจาก Canva.com เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !