Castlevania: Portrait of Ruin เป็นเกมแอ็คชั่น RPG ภาคต่อในซีรีส์ Castlevania อันโด่งดัง พัฒนาโดย Konami และวางจำหน่ายในปี 2006 สำหรับเครื่อง Nintendo DS เกมนี้นำเสนอการผจญภัยที่น่าตื่นเต้นและระบบการเล่นที่ลึกซึ้ง ซึ่งทำให้มันเป็นหนึ่งในเกม Castlevania ที่ดีที่สุดบนเครื่องพกพา เนื้อเรื่อง: เกมนี้ตั้งอยู่ในปี 1944 ระหว่างช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 ผู้เล่นจะได้ควบคุมตัวละครหลักสองตัว คือ Jonathan Morris ทายาทของตระกูลนักล่าแวมไพร์ และ Charlotte Aulin จอมเวทสาวผู้เชี่ยวชาญด้านเวทมนตร์ พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับ Brauner จิตรกรแวมไพร์ผู้ต้องการชุบชีวิต Dracula ขึ้นมาใหม่ โดยใช้พลังจากภาพวาดวิเศษ จุดเด่นของเนื้อเรื่องคือการผสมผสานระหว่างยุคประวัติศาสตร์และแฟนตาซี ทำให้เกิดบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์ ตัวละครมีพัฒนาการทางอารมณ์ที่น่าสนใจ โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่าง Jonathan และ Charlotte ที่เติบโตขึ้นตลอดการผจญภัย ระบบการเล่น: Portrait of Ruin นำเสนอระบบการเล่นแบบ 2D side-scrolling ที่คุ้นเคย แต่เพิ่มความสดใหม่ด้วยระบบการสลับตัวละครแบบทันที ผู้เล่นสามารถสลับระหว่าง Jonathan และ Charlotte ได้ตลอดเวลา ทำให้เกิดกลยุทธ์การต่อสู้ที่หลากหลาย Jonathan เชี่ยวชาญการต่อสู้ระยะประชิดด้วยอาวุธหลากหลายชนิด ในขณะที่ Charlotte เน้นการโจมตีด้วยเวทมนตร์ระยะไกล การผสมผสานความสามารถของทั้งคู่เป็นกุญแจสำคัญในการเอาชนะศัตรูและแก้ปริศนาต่างๆ นอกจากนี้ ยังมีระบบ "Dual Crush" ที่ให้ผู้เล่นใช้พลังพิเศษร่วมกันของทั้งสองตัวละคร สร้างการโจมตีที่ทรงพลังมาก ระบบนี้เพิ่มมิติให้กับการต่อสู้และทำให้ผู้เล่นต้องวางแผนการใช้งานอย่างชาญฉลาด กราฟิกและเสียง: กราฟิกของ Portrait of Ruin นั้นสวยงามและมีรายละเอียดสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงข้อจำกัดของฮาร์ดแวร์ Nintendo DS ฉากหลังแต่ละด่านมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่ว่าจะเป็นปราสาทโกธิค หมู่บ้านยุโรปโบราณ หรือทะเลทรายอียิปต์ ตัวละครและศัตรูถูกออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน สร้างบรรยากาศที่น่าหลงใหลแบบ Castlevania ได้อย่างสมบูรณ์ ดนตรีประกอบก็เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของเกม เพลงแต่ละบทมีความไพเราะและเข้ากับบรรยากาศของแต่ละฉาก ตั้งแต่เพลงร็อคที่เร้าใจในฉากต่อสู้ ไปจนถึงเพลงคลาสสิคที่ชวนให้นึกถึงยุคกลาง เสียงประกอบต่างๆ ก็มีคุณภาพสูง ช่วยเสริมอรรถรสในการเล่นได้เป็นอย่างดี ความยากและความท้าทาย: Portrait of Ruin มีระดับความยากที่สมดุล เหมาะสำหรับทั้งผู้เล่นใหม่และแฟนเก่าของซีรีส์ ในช่วงแรกของเกม ผู้เล่นจะได้เรียนรู้ระบบการเล่นและกลไกต่างๆ อย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่เมื่อเข้าสู่ช่วงกลางและปลายเกม ความท้าทายจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ บอสแต่ละตัวมีรูปแบบการโจมตีที่แตกต่างกัน ทำให้ผู้เล่นต้องปรับกลยุทธ์และใช้ความสามารถของทั้ง Jonathan และ Charlotte อย่างชาญฉลาด การเก็บไอเทมและอัพเกรดอุปกรณ์เป็นสิ่งสำคัญ ช่วยให้ผู้เล่นมีทางเลือกในการเผชิญหน้ากับความท้าทายต่างๆ เนื้อหาเสริมและความคุ้มค่า: นอกเหนือจากโหมดเนื้อเรื่องหลักแล้ว Portrait of Ruin ยังมีโหมดเสริมที่เพิ่มความคุ้มค่าให้กับเกม เช่น โหมด Boss Rush ที่ให้ผู้เล่นต่อสู้กับบอสทั้งหมดอย่างต่อเนื่อง และโหมด Sisters Mode ที่ให้ผู้เล่นควบคุมตัวละครใหม่สองคนที่มีเรื่องราวแยกออกไป นอกจากนี้ ยังมีระบบ Wi-Fi ที่ช่วยให้ผู้เล่นสามารถแลกเปลี่ยนไอเทมหรือต่อสู้กับเพื่อนได้ แม้ว่าในปัจจุบันระบบนี้จะไม่สามารถใช้งานได้แล้ว แต่ก็แสดงให้เห็นถึงความพยายามของผู้พัฒนาในการเพิ่มคุณค่าให้กับเกม ประสบการณ์ส่วนตัว: ในฐานะผู้เล่น ผมรู้สึกประทับใจกับ Portrait of Ruin ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้สัมผัส การควบคุมตัวละครทำได้อย่างลื่นไหลและตอบสนองดี ระบบการสลับตัวละครทำให้การต่อสู้มีความหลากหลายและสนุกสนาน ผมชอบที่สามารถทดลองใช้อาวุธและเวทมนตร์ต่างๆ เพื่อหาวิธีที่เหมาะสมที่สุดในการเอาชนะศัตรูแต่ละประเภท การสำรวจปราสาทและภาพวาดต่างๆ เป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น แต่ละพื้นที่มีเอกลักษณ์และปริศนาที่ท้าทาย การค้นหาทางลับและไอเทมซ่อนเร้นทำให้ผมรู้สึกเหมือนเป็นนักสำรวจตัวจริง บรรยากาศของเกมช่างน่าหลงใหล โดยเฉพาะเมื่อได้ฟังเพลงประกอบที่ไพเราะไปด้วย จุดที่ประทับใจเป็นพิเศษคือการออกแบบบอส แต่ละตัวมีรูปแบบการโจมตีที่แตกต่างกัน และต้องใช้กลยุทธ์ที่แตกต่างกันในการเอาชนะ การต่อสู้กับบอสให้ความรู้สึกท้าทายแต่ไม่ถึงกับหงุดหงิด เมื่อเอาชนะได้จึงรู้สึกพึงพอใจอย่างมาก อย่างไรก็ตาม มีบางจุดที่อาจทำให้ผู้เล่นบางคนรู้สึกหงุดหงิดได้ เช่น การต้องวิ่งกลับไปกลับมาในบางพื้นที่เพื่อทำภารกิจ หรือความจำเป็นในการ "grinding" เพื่อเพิ่มเลเวลในบางช่วงของเกม แต่โดยรวมแล้ว ข้อดีของเกมมีมากกว่าข้อเสียอย่างชัดเจน สรุป: Castlevania: Portrait of Ruin เป็นเกมที่โดดเด่นในซีรีส์ Castlevania และเป็นหนึ่งในเกมที่ดีที่สุดบน Nintendo DS ด้วยระบบการเล่นที่ลึกซึ้ง เนื้อเรื่องที่น่าสนใจ และการนำเสนอที่ยอดเยี่ยม เกมนี้สามารถสร้างความประทับใจให้กับทั้งแฟนเก่าของซีรีส์และผู้เล่นใหม่ได้อย่างไม่ยาก แม้ว่าจะผ่านมากว่า 15 ปีแล้ว แต่ Portrait of Ruin ยังคงเป็นเกมที่น่าเล่นและสนุกสนานอยู่เสมอ มันเป็นตัวอย่างที่ดีของการพัฒนาเกม 2D ที่มีคุณภาพสูง และเป็นการพิสูจน์ว่าเกมแนว Metroidvania ยังคงมีที่ยืนในวงการเกมสมัยใหม่ หากคุณเป็นแฟนของเกมแอ็คชั่น RPG แบบ 2D หรือชื่นชอบธีมแวมไพร์และแฟนตาซีกอธิค Castlevania: Portrait of Ruin เป็นเกมที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง มันเป็นการผจญภัยที่จะทำให้คุณหลงใหลและกลับมาเล่นซ้ำอีกครั้งแน่นอน เครดิตภาพ ทางผู้เขียนได้ซื้อเกมนี้มาเล่นเองถ่ายรูปลงเอง เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !