ไต้ฝุ่นโคนี เคลื่อนตัวออกจากฟิลิปปินส์ มุ่งหน้าสู่เวียดนาม

วันนี้ (2 พ.ย.63) ไต้ฝุ่นโคนีซึ่งได้รับการจัดอันดับเป็น “ซูเปอร์ไต้ฝุ่น” มีความเร็วลมราว 200-220 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งนับเป็นพายุลูกที่รุนแรงที่สุดในปีนี้ พัดถล่มทางตอนกลางและตอนใต้ของประเทศฟิลิปปินส์เมื่อช่วงเช้ามืดวันจันทร์  ก่อนที่จะอ่อนกำลังลงเล็กน้อยเป็พายุไต้ฝุ่นที่มีความเร็วลมราว 165-185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จนทำให้ทางการท้องถิ่นต้องอพยพประชาชนเกือบ 1 ล้านคนออกจากพื้นที่เสี่ยงบริเวณชายฝั่งตะวันออก 

อิทธิพลของพายุทำให้เกิดน้ำท่วมอย่างรุนแรงในหลายจังหวัดบนเกาะลูซอน เกาะใหญ่ทางตอนใต้ของประทเศ และเนื่องจากน้ำในแม่น้ำเอ่อท่วมบ้านเรือนได้รับความเสียหาย และมีรายงานว่าบ้านเรือนในจังหวัดอัลเบ บนเกาะลูซอน มากกว่า 300 หลัง ถูกก้อนหินและดินจากภูเขามายอนถล่มใส่จนจมอยู่ใต้ซาก  ซึ่งเชื่อว่าอาจมีประชาชนจำนวนหนึ่งถูกฝังทั้งเป็นอยู่ข้างใต้  

ล่าสุดพบผู้เสียชีวิตจากพายุลูกนี้แล้วอย่างน้อย 10 คน โดยทั้งหมดอยู่ในเขตบิคอล บนเกาะลูซอน

หลังพัดถล่มในฟิลิปปินส์แล้ว ไต้ฝุ่นโคนี ได้เคลื่อนตัวไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ และเตรียมเข้าสู่ประเทศเวียดนามต่อไป โดยรายงานเมื่อช่วง 7 โมงเช้าที่ผ่านมา พบว่าไต้ฝุ่นโคนี อยู่ห่างจากหมู่เกาะฮองซา หรือ หมู่เกาะพาราเซลในทะเลจีนใต้ ราว 600 กิโลเมตร และเตรียมจะเข้าสู่เวียดนามในช่วงเช้าวันพุธนี้ โดยคาดว่า ไต้ฝุ่นจะอยู่ห่างจากเมืองดานัง เมืองท่องเที่ยวสำคัญของเวียดนามราว 200 กิโลเมตร ด้วยความเร็วลม 90-100กิโลเมตรต่อชั่วโมง 

ด้านหน่วยควบคุมและป้องกันภัยพิบัติแห่งชาติของเวียดนามได้เรียกร้องให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากพายุโมลาเบก่อนหน้านี้ พร้อมกับเตรียมความพร้อมป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นจากไต้ฝุ่นโคนี  โดยพายุโมลาเบที่พัดถล่มเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นับเป็นลูกที่ 9 ที่ถล่มเวียดนามในปีนี้ ทำให้มีชาวเวียดนามเสียชีวิต 23 คน สูญหาย 47 คน และทำให้บ้านเรือนหลายพันหลังทางตอนกลางของประเทศพังเสียหาย