ในปัจจุบันการใช้ภาษาในการสื่อสารในชีวิตประจำวันของมนุษย์นั้นมีทั้งถูกและผิด ยังมีคนสับสนและใช้ผิดกันเป็นจำนวนมาก วันนี้จึงมีเทคนิคการจำคำที่ที่ถูกต้องๆ มาแบ่งปันกัน ก่อนอื่นมาดู 10 คำที่มักใช้ผิดกันก่อนถ่ายเองโดยนักเขียน 1. คะ/ค่ะมีคนใช้ผิดกันเยอะมากในปัจจุบัน เทคนิคการใช้ให้ถูกต้องมีง่าย ๆ ดังนี้ ขั้นแรกสุดเลย อยากให้ทุกคนลองเขียนคำว่า “โยคะ” กันก่อน ซึ่งหลาย ๆ คนน่าจะรู้จักโยคะกันอยู่แล้ว หมายถึงการออกกำลังกายอย่างหนึ่งนั่นเอง มาลองสะกดคำว่า โยคะ กันก่อนยอ-โอ-โย คอ-อะ-คะอ่านว่า โย-คะ หากทุกคนเขียนคำว่าโยคะได้ถูกต้องแล้ว เราจะเข้าสู่ขั้นที่สอง คือ ทุกคนต้องจำเสียง “คะ” จากคำว่า โยคะ มาใช้กัน สมมุติสถานการณ์ขึ้นมาว่า วันนี้เราต้องการซื้อสินค้าออนไลน์ แล้วต้องการทราบราคาสินค้านั้น เวลาจะถามใช้ คะ/ค่ะ ยังไงดี เทคนิคง่าย ๆ คือเอาคำว่า โยคะ ของเรามาใช้นั่นเอง เช่นเราจะถามราคาสินค้า- ราคาเท่าไหร่(โย)คะ ✔️แบบนี้ถูกต้อง แต่หากว่าแม่ค้าจะตอบราคาสินค้ากับเรา จะใช้ คะ/ค่ะ ยังไงดี งั้นลองเอาโยคะไปใส่ในประโยคดูเลย(1) สองร้อยบาทคะ (เสียง คะ ตรงกับคำว่า โยคะ)(2) สองร้อยบาทค่ะ มาพิจารณากันว่า ประโยคไหนถูกต้อง แน่นอนว่าต้องเป็นประโยค (2) ถ้าหากยังสงสัยว่าประโยค (1) ออกเสียงถูกหรือไม่ ลองนำเสียงโยคะไปใส่เช่นเดิม ตัวอย่างประโยค สองร้อยบาท(โย)คะ จะยิ่งเห็นชัดเลยว่าประโยคนี้ผิดถ่ายเองโดยนักเขียน 2. ผัดไท/ผัดไทย คำว่า “ผัดไทย” มีเทคนิคการจำง่าย ๆ เลยคือ ผัดไทยเป็นอาหารของไทย เพราะฉะนั้น ต้องใช้ว่า “ผัดไทย” ไม่ใช่ “ผัดไท”3. กระเทย/กะเทย คำว่า กะเทย มักเขียนผิดเป็น กระเทย4. แกงกระหรี่/แกงกะหรี่ คำว่า แกงกะหรี่ มักเขียนผิดเป็น แกงกระหรี่5. กระเพรา/กะเพรา คำว่า กะเพรา มักเขียนผิดเป็น กระเพรา6. กระพริบ/กะพริบ คำว่า กะพริบ มักเขียนผิดเป็น กระพริบ7. กระทันหัน/กะทันหัน คำว่า กะทันหัน มักเขียนผิดเป็น กระทันหัน เทคนิคการจำตั้งแต่คำที่ 3-7 ให้ท่องไว้ว่า “ใช้ได้เลยไม่ต้องรอ” ซึ่งหมายถึง ไม่ต้องใส่ตัว ร.เรือ ในพยางค์ “กะ” นั่นเองถ่ายเองโดยนักเขียน8. ปรากฎ/ปรากฏ คำว่า “ปรากฏ” มีผู้ใช้ส่วนใหญ่ยังสับสนว่าใช้พยัญชนะ ฎ หรือ ฏ กันแน่ เทคนิคอย่างง่ายคือ ให้นึกถึงคำว่า ปรากฏการณ์ (ปรา-กด-ตะ-กาน) สังเกตที่เสียง “ตะ” ใช้เสียง “ตะ” ได้นั่นก็หมายความว่า ใช้พยัญชนะ ฏ ไม่ใช่ ฎ อย่างแน่นอน 9. น้ำแข็งใส/น้ำแข็งไส คำว่า “น้ำแข็งไส” หลายคนมักเขียนผิดเป็น “น้ำแข็งใส” จริง ๆ แล้วไสในที่นี้เป็นคำกริยา หมายถึง การทำให้เคลื่อนที่ไปข้างหน้า ซึ่งการทำน้ำแข็งไสในสมัยก่อนนั้น ต้องไสน้ำแข็งให้เป็นเกล็ด เป็นที่มาของคำว่า “น้ำแข็งไส” เทคนิคคือจำไว้เลยว่า ไสเป็นการกระทำที่ทำกับน้ำแข็ง แต่มักใช้ผิดเป็น น้ำแข็งใส “ใส” แบบนี้นั้นหมายถึง แจ่มกระจ่าง, ไม่ขุ่นมัว ซึ่งไม่ใช่ความหมายของน้ำแข็งไส 10. ข้าวเหนียวมูล/ข้าวเหนียวมูน คำว่า “ข้าวเหนียวมูน” มูนในที่นี้หมายถึง การทำให้กะทิคลุกเคล้ากับข้าวเพื่อให้มัน แต่คนมักใช้ผิดเป็น “ข้าวเหนียวมูล” ซึ่ง “มูล” นี้มีความหมายว่า อุจจาระสัตว์, ขี้หรือเศษของสิ่งต่าง ๆ ไม่น่าจะนำมาตั้งเป็นชื่ออาหารได้ เทคนิคคือจำไว้ว่า “มูลหมายถึงอุจจาระ” เมื่อจำเทคนิคนี้ได้เราจะนึกได้ว่าคำนี้ไม่น่าจะอยู่ในชื่ออาหารได้ ทั้งหมดนี้คือเทคนิคง่าย ๆ ในการจำคำศัพท์ที่ถูกต้อง ยากให้ลองนำเทคนิคนี้ไปใช้กันดู และหวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อทุกคน