การทำงาน การใช้ชีวิต เป็นสิ่งที่ต้องมีหลักประจำใจเพื่อเตือนตัวเราเองว่าเรากำลังเป็นอะไร ทำเพื่ออะไร ชีวิตจะมุ่งหน้าไปทางไหน และนั่นคือหลักของการใช้ชีวิตเพื่อพาตัวเราไปสู่จุดหมายที่ต้องการ หลายคนอาจจะมีเป้าหมายชีวิตที่แตกต่างกัน แต่ส่วนใหญ่แล้วก็ล้วนต้องการประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจและหน้าที่การงานของตนให้สมบูรณ์พร้อม คาถาชีวิต เล่มที่ 3 โดยผู้เขียนวิกรม กรมดิษฐ์ จะมาถ่ายทอดหลักการชีวิตจากประสบการณ์ส่วนตัวทั้งในด้านของการทำงาน การทำธุรกิจ และการทำคุณงามความดีให้สังคม ความรู้ความประทับใจที่ได้ปรับใช้จากครีเอเตอร์ได้เรียนรู้ว่าการทำจิตใจให้เป็นสุข คือการพักผ่อนที่ดีที่สุด ระหว่างที่เราทำงานหนัก จิตใจอ่อนล้า เครียด เป็นทุกข์ ถ้าหนักขึ้นก็อาจทำให้เกลียดตัวเองที่รับมือกับสถานการณ์ได้ไม่ดี ฉะนั้น การทำจิตใจให้เป็นสุขได้ไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็เป็นสุข ไม่ต้องเสียเงินบำรุงกิเลสให้สิ้นเปลือง ได้เรียนรู้ว่าเรื่องมักจะเกิดกับคนที่ชอบมีเรื่อง คุณวิกรมเคยเจอคนที่มีนิสัยก้าวร้าว ชอบคิดหาข้อเสียของผู้อื่น แล้วก็แสดงออกทางคำพูด กิริยา ท่าทางในลักษณะที่ไม่เป็นมิตรต่อคนรอบข้าง หากแสดงออกมามากจนคนอื่นยอมรับไม่ได้ ย่อมเกิดความขัดแย้งจนนำไปสู่ความเสียหายตามมา ได้เรียนรู้ว่าอย่าโทษผู้อื่น เพราะทุกอย่างเริ่มจากตัวเราเอง สิ่งที่เกิดจากตัวเราเป็นปัจจัยที่ควบคุมได้ การตัดสินใจที่จะกระทำเรื่องใดก็ตามต้องมีความรอบคอบ เพื่อลดปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น หากเกิดความผิดพลาดก็ควรรับผิดชอบด้วยตัวเองก่อน ไม่ใช่โยนความผิดไปให้คนอื่นเสียหมด ได้เรียนรู้ว่าน้อยคนที่จะยอมรับว่าตนเองไม่ดี อาจเกิดจากความเห็นแก่ตัวอย่างร้ายกาจในการปกป้องตัวเอง การยอมรับว่าตนเองทำอะไรผิดนั้นจึงไม่ค่อยมีให้พบเห็นมากนัก ส่วนตัวครีเอเตอร์เคยเจอว่าการยอมรับว่าความผิดพลาดจากงานนั้นเกิดจากเราจะทำให้คนอื่นๆในแผนกมีอคติคิดว่าความผิดครั้งใหม่ที่เกิดขึ้นมักมาจากคนที่เคยทำผิดมาก่อน เป็นสาเหตุหนึ่งที่คนเราเลือกหนีความผิดดีกว่า ได้เรียนรู้ว่าอดีตมีไว้ให้เรียนรู้ ไม่ใช่มีไว้ให้บ่นด่าหรือเสียใจ โดยเฉพาะความเสียหายที่เกิดขึ้น ถือเสียว่าเป็นบทเรียน ดีกว่าการมานั่งบ่นหรือคิดย้อนกลับไปโกรธแค้นหรือจมกับความเสียใจ มันก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรได้เลย ได้เรียนรู้ว่าการศึกษาสามารถเปลี่ยนชีวิตคนได้ ถึงแม้ผู้คนจะมองว่าการศึกษาล้มเหลว แต่ถ้าเราได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างแท้จริง มันช่วยขัดเกล่าให้มีความสามารถกับการทำงานและความสำเร็จได้ในที่สุด ได้เรียนรู้ว่าคนเราเห็นต่างได้ แต่ไม่ควรแตกแยก เราทุกคนต่างมีความคิดเป็นของตนเองนับว่าเป็นเรื่องปกติ แต่ก็ไม่ควรนำพาไปสู่ความขัดแย้ง ความรุนแรง และความแตกแยก ได้เรียนรู้ว่าการเป็นผู้นำต้องรู้จักรับผิดชอบทุกอย่าง หากผู้ใต้บังคับบัญชาคนใดสร้างความเสียหายให้กับผู้อื่นต้องอบรมสั่งสอน เพราะความคิดและการกระทำของเขาถือว่าอย่างไรเสียก็ต้องได้รับอิทธิพลมาจากผู้นำ ได้เรียนรู้ว่าการหันหน้าเข้าพูดคุยคือการหาทางออกของปัญหา เพราะปัญหาส่วนใหญ่เกิดจากความไม่เข้าใจกันของมนุษย์ ถ้านั่งคุยกันได้อย่างสร้างสรรค์ย่อมพบทางออกในการแก้ปัญหาเสมอ ทั้งนี้ ส่วนตัวครีเอเตอร์เคยพยายามตกลงให้เกิดความลงตัวทั้งสองฝ่ายแล้ว แต่ไม่เป็นผล เพราะเขาจะไม่ยอมเสียอะไรเลย ดังนั้น การตกลงให้ลงตัวบางครั้งก็ไม่ได้ผล หรือตัวครีเอเตอร์ไม่มีวาทศิลป์ในการเจรจาดีพอก็เป็นได้ ได้เรียนรู้ถ้าเขาไม่รู้ จะให้เขาทำตามที่เราต้องการได้อย่างไร ....ความไม่เข้าใจนั้น การสื่อสารจะช่วยประสานให้ทุกฝ่ายเข้าใจกันอย่างถ่องแท้ ว่าเราต้องการอะไร อีกฝ่ายต้องทำอย่างไร แล้วจะนำไปสู่การร่วมมือกันทำงานอย่างราบรื่นได้ ได้เรียนรู้ว่าคนเราควร Active แต่ไม่ Aggressive มุ่งมั่น แต่ไม่แข็งกร้าว Active คือความกระตือรือร้นในการทำงาน แต่เราก็มักเผลอแสดงความแข็งกร้าว หยาบคายออกมาด้วย ดังนั้น เป็นการดีกว่าที่เราทำงานดีและยังดำรงความสุภาพไว้ด้วย ได้เรียนรู้ว่าอย่าใช้อารมณ์สอนผู้คน การสอนคนต้องดูผู้ถูกสอนเปิดใจรับการสอนจากเราแล้ว ถ้าอยากให้เขาเปิดใจ เราก็อย่าใช้อารมณ์สอนคนด้วยความหยาบคายหรือเสียดแทงจิตใจ ไม่อย่างนั้นจะไม่มีใครยินดีฟังเราเลย แถมมีคนเกลียดเราเพิ่มขึ้นด้วย ได้เรียนรู้ว่าความสำเร็จ ไม่มีสูตรสำเร็จ ทุกอย่างล้วนขึ้นอยู่กับความสามารถและสติปัญญาของแต่ละคนในการที่จะเรียนรู้จากสถานการณ์จริงที่เกิดขึ้นและปรับตัวได้อย่างเหมาะสม เหมือนอย่างคุณวิกรมที่รู้จักทำธุรกิจเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ได้สำเร็จ ได้เรียนรู้ว่าการทำบุญด้วยความรู้ ด้วยความดีจากใจจริงเป็นสิ่งสำคัญ คือรู้จักว่าทำบุญแบบไหนแล้วช่วยแก้ปัญหาของสังคมได้ นอกจากนี้ต้องรู้จักทำบุญแบบไม่หวังผลตอบแทน ไม่หวังผลบุญ เพราะการทำบุญแบบหวังผลบุญนั้นหากว่าสิ่งที่อธิษฐานไว้ไม่เป็นจริง ต่อไปเราคงไม่อยากทำบุญอีกเลย ดังนั้น การทำบุญโดยไม่หวังผลตอบแทนน่าจะดีกว่า เราจะได้ทำสิ่งที่คาดหวังด้วยความสามารถแทนการอธิษฐานขอพร ทั้งหมดนี้คือประเด็นของผู้ประกอบการไทยที่น่ายกย่องในคุณงามความดีที่มีความตั้งใจมั่น...ในการเผยแพร่หลักการชีวิตส่วนตัว เพื่อหวังว่าคนรุ่นหลังจะสามารถนำเทคนิคไปปรับใช้ในการยกระดับคุณภาพชีวิตให้เป็นไปในทิศทางที่ต้องการได้ สุดท้ายนี้ครีเอเตอร์ก็จะได้นำความรู้ไปปรับใช้ในสถานการณ์ต่างๆเพื่อให้มีชีวิตที่ดีกว่าเดิม โดยยึดหลักการเพิ่มพูนความสามารถและคุณงามความดีไปพร้อมกัน เครดิตภาพภาพปก โดย lifeforstock จาก freepik.comภาพที่ 1 และ 2 โดยผู้เขียนภาพที่ 3 โดย Lifestylememory จาก freepik.comภาพที่ 4 โดย katemangostar จาก freepik.com บทความอื่นๆที่น่าสนใจรีวิวหนังสือ พ่อผม โดยวิกรม กรมดิษฐ์รีวิวหนังสือ คาถาวิกรม โดย วิกรม กรมดิษฐ์รีวิวหนังสือ คิดรวยแบบวิกรมรีวิวหนังสือ GOOD VIBES, GOOD LIFE ใช้คลื่นพลังบวกดึงดูดพลังสุขรีวิวหนังสือ ทำธุรกิจแบบผู้ชนะในทุกสถานการณ์7-11 Community ห้องลับเมาท์มอยของกินของใช้ในเซเว่น อะไรดีอะไรใหม่ ต้องรู้ ต้องคุย ต้องแชร์