"แล้วเมื่อไหร่เราจะได้อยู่ด้วยกันสักที…?" เป็นประโยคคำถามยอดฮิตของคู่รักทางไกลเพื่อนำเข้าเส้นทางไปสู่บทสรุปในความสัมพันธ์ว่าจะครองคู่กันไปตลอดจนถือไม้เท้ายอดทอง กระบองยอดเพชรจริงหรือไม่? "อีกไม่นานหรอก รอหน่อยนะ เก็บเงินก่อน…", "ทนหน่อยนะ เดี๋ยวก็ต้องมีวันนั้น…", "ก็ต้องทำงาน ทำยังไงได้ ไว้จะกลับไปหา… (ตามด้วยวันเวลาที่ตกลงกัน)" ก็เป็นฟากฝั่งของคำตอบที่กระอักกระอ่วนอยู่ในช่องท้องของผู้ที่โดนยิงคำถามโดยส่วนใหญ่ การห่างกันไกลเนื่องด้วยตำแหน่งการงาน ภาระหน้าที่และความจำเป็นอะไรก็ตามแต่! มันเป็นแค่บทพิสูจน์บทหนึ่งของความรัก จริงหรือไม่? แล้วคู่รักที่ห่างกันไกลเค้าใช้ชีวิตกันยังไง? เรียกว่าคู่รักได้เหรอ? ไม่เหงาแย่เหรอ ทนได้ยังไง? ถ้าเค้ามีใหม่จะทำยังไง? แม้ความสงสัยด้วยคำถามเหล่านี้มันจะออกไปในทาง “ชาวเผือก” สักหน่อย แต่ผมกลับมองว่าเรื่องรักทางไกลอาจจะมีข้อคิด ปรัชญาความรักอะไรแฝงอยู่บ้างให้นำมาปรับใช้ในแบบของเราเอง มาลองวิเคราะห์กันสักหน่อยดีกว่า ยุคเทคโนโลยีการสื่อสารที่ไร้พรมแดนขนาดนี้ แทบไม่น่าเชื่อว่ายังคงมีคำว่าห่างกันไกลอยู่ซะอย่างนั้น ทั้งที่สมัยนี้ติดต่อสื่อสารหากันง่ายหลายช่องทางเพียงปลายนิ้ว แต่สิ่งที่เทคโนโลยีให้ไม่ได้คือ “Physical contact” หรือการสัมผัสทางกาย เช่น โอบไหล่ กุมมือ กอด หยุมหัวก็ใช่นะ ฮ่า ๆ และกิจกรรมร่วมกันอีกหลายอย่างที่ทุกคนน่าจะทราบ นี่คือตัวการสำคัญที่ทำให้รักทางไกลมักจะไปไม่ค่อยรอด เป็นสิ่งที่เทคโนโลยีปิดช่องโหว่ตรงนี้ไม่มิด แล้วอะไรล่ะที่สามารถทดแทนความทรงพลังของ Physical contact ในความสัมพันธ์ได้จากรักระยะทางไกล คำตอบคือ ไม่มีครับ!! เสียใจด้วยครับ ชีวิตมนุษย์มันก็แบบนี้แหละ สิ่งที่ทำได้คงมีแค่ทำเท่าที่มีอยู่ให้มันดีขึ้น อินไปยิ่งขึ้นกว่าเดิมเพื่อชดเชย เอาคืน ล้างแค้นไอ้ตัวการ Physical contact นี่ จะมีอะไรบ้างนั้น ลองมาดูกันเลยครับ รับฟังและช่วยแก้ปัญหาให้อีกฝ่ายแม้เพียงเรื่องเล็กน้อย อย่าทิ้งกันไว้กลางทาง รับฟังปัญหาของอีกฝ่ายให้จบถึงแม้จะตัวอยู่ไกลแต่สามารถให้คำแนะนำหรือคำปรึกษาที่ดีๆ ให้กันได้ พยายามบอกความรู้สึกลึกๆภายในใจกันบ่อยๆ อย่าเก็บไว้ ไม่ว่าจะเป็นบอกรัก คิดถึงจะบ้าตายอะไรประมาณเหล่านี้ อี๋ แหวะ! อาจจะฟังดูเลี่ยน ใช่ครับ แต่คนอื่นไม่ได้มาฟังเรานี่ มีแค่คุณกับเขาเพียงสองคนเท่านั้น หรือแม้แต่อารมณ์ความรู้สึกอื่นๆ ก็สามารถบอกได้เช่นกัน เวลาว่างไม่ว่าของใครอย่าปล่อยให้มันว่าง สำรวจกิจวัตรประจำวันของกันและกันอยู่เสมอ เช่น ทำอะไรอยู่ ไหนดูซิ อยู่นี่เราไม่ได้ทำอะไรเลย ฮ่า ๆ (ตัวอย่างขำๆนะครับ) ไม่ใช่การมีเจตนาตรวจสอบจับผิดอะไร แต่ทำให้มันเหมือนเป็นอีกกิจวัตรหนึ่งของเรา หมั่นถามไถ่กิจกรรมหรือสารทุกข์สุขดิบกันและกัน อย่าลืมนะครับ เวลาว่างแม้เพียงเล็กน้อยก็อัดความอินเข้าไปได้ เรื่องราวที่พบเจอแต่ละวันหากเป็นเรื่องที่คิดว่าสนุก ขำขันรีบบอกกันไปซะ ถ้าแล้วคุณมีความสุข อมยิ้มให้กับเรื่องเหล่านี้ คุณจะใจจืดใจดำไม่แบ่งปันให้อีกฝ่ายได้ยิ้มบ้างเลยเหรอ? หากมีเรื่องไม่เข้าใจกัน อย่าปล่อยให้ยืดยาวข้ามวันข้ามคืน พยายามเคลียร์ให้จบ ทำความเข้าใจกันให้เร็วที่สุด ยิ่งไกลกันด้วยแล้วปล่อยไว้นานก็จะพาลใหญ่โตเปล่าๆ ความจริงใจเป็นเรื่องของความเชื่อมั่น ยึดถือสิ่งที่ตนยึดถือ ความภูมิใจ และความนับถือในตัวเอง ซึ่งจะจำเป็นสำหรับความสัมพันธ์ของคุณหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับจิตสำนึกของแต่ละบุคคล ความอดทนเป็นเครื่องหมายของคนจริง รักทางไกลจำเป็นต้องอดทนสูง อดทนกับความรู้สึกตัวเอง อดทนกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่ สมัยนี้หาเครื่องหมายความอดทนได้ยาก เก็บความเหงา ความคิดถึง ความโหยหาไว้เป็นพลังในการตั้งใจทำเป้าหมายข้างหน้าให้เป็นจริง คู่กันแล้วก็ไม่แคล้วกันหรอก แต่ไม่รู้ว่าจะใช่คู่นี้รึป่าวนี่สิ ฮ่า ๆ หากได้มีเวลาเจอกัน อยู่ด้วยกัน ใช้มันซะให้คุ้ม และอย่าลืม!! Physical contact ที่ไอ้เทคโนโลยีมันก็ช่วยคุณไม่ได้ หวังว่าคู่รักที่เป็นความสัมพันธ์ในช่วงรักทางไกลจะไม่ท้อ เลิกอินไปซะก่อนนะครับ หากลองทำตามวิธีเหล่านี้ดูก็น่าจะช่วยในความสัมพันธ์คู่ของคุณได้ หากมันช่วยไม่ได้ก็โทษอย่างอื่นนะครับ อย่าโทษผม ฮ่า ๆ เครดิตภาพ : ภาพปก โดย SinghaEsaiVariety (ผู้เขียน) ภาพประกอบ 1 โดย Christian Lue จาก Unsplash ภาพประกอบ 2 โดย Christopher Sardegna จาก Unsplash ภาพประกอบ 3 โดย Bernard Hermant จาก Unsplash ภาพประกอบ 4 โดย Dmitriy K. จาก Unsplash เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !