ทุกวันนี้ก็ได้เข้าสู่หน้าฝนแล้ว หลายๆพื้นที่ฝนก็จะตกบ่อย บางพื้นที่ก็จะตกบ้างไม่ตกบ้าง ทำให้มีปริมาณน้ำฝนค่อนข้างมาก ซึ่งทุกคนจะสามารถรองน้ำฝนไว้ใช้อุปโภคบริโภคได้ ผู้เขียนเองก็ได้รองน้ำฝนเพื่อไว้ใช้อุปโภคบริโภคเช่นกัน การรองน้ำฝนใช้เองนี่ดีนะคะ เพราะจะช่วยในเรื่องของการประหยัดน้ำ ซึ่งเมื่อก่อนผู้เขียนเองก็จ่ายค่าน้ำ 400-500 บาทต่อเดือน แต่พอหน้าฝนได้มีการรองน้ำก็จะประหยัดไป 200 บาทเลย แต่ก่อนทางผู้เขียนจะรองน้ำฝนนั้น ผู้เขียนได้ลงโอ่งไว้ 4-5 ใบ ขนาดของโอ่งก็ไม่ใหญ่มาก และได้ทำความสะอาดบนหลังคาที่รองน้ำฝนและโอ่ง ทั้งข้างนอกและข้างใน โดยการทำความสะอาดข้างนอกก็จะล้างน้ำตามปกติ ส่วนข้างในก็จะมีการล้างน้ำแล้วก็จะมีการพ่นฆ่าเชื้อ หลังจากนั้นก็จะใส่น้ำใว้ประมาณ 1 อาทิตย์ ถึง 2 อาทิตย์ เพื่อให้ปูนมันคายกรดปูนออกมา หากเราต้องการเก็บน้ำฝนไว้บริโภคอุปโภค อาจจะใช้วิธีการล้างภาชนะรองน้ำอย่างของผู้เขียนก็ได้ ส่วนของการรองผู้เขียนจะปล่อยให้น้ำฝนไหลทำความสะอาดหลังคาและรางรองรับน้ำฝนก่อนในช่วงแรก หลังจากนั้นค่อยรองน้ำฝนได้ เมื่อรองน้ำฝนเต็มแล้ว ก่อนจะปิดฝา ผู้เขียนจะใช้ตาข่ายมาปิดแล้วมัดให้แน่นเพื่อป้องกันฝุ่นใบไม้และสัตว์เล็กๆเข้าไป เช่น จิ้งจก แมลงสาป เป็นต้น ต้องดูแลที่ตั้งภาชนะไม่ให้มีน้ำขัง แฉะ ผู้เขียนจะวางโอ่งบนพื้นปูนจะได้ดูแลง่าย การอุปโภคผู้เขียนจะใช้น้ำตามปกติ ใช้ล้างจานล้างผัก ซักผ้า ส่วนการอุปโภคผู้เขียนจะใช้เพียงแค่ต้มกาแฟ เพราะผู้เขียนอ่านเจอว่าต้องต้มน้ำก่อนเพื่อลดความเสี่ยงจากโรคระบบทางเดินอาหารที่เกิดจากน้ำ สองขั้นตอนที่สามารถทำความสะอาดน้ำฝนได้ง่ายๆเลย คือ ต้มและกรองน้ำ การต้มจะช่วยในการฆ่าเชื้อโรค การกรองจะช่วยในเรื่องของการดักจับสารเคมี ฝุ่น ละอองเกสร เชื้อราและสิ่งปนเปื้อนต่างๆ ซึ่งปัจจุบันจะไม่ค่อยมีการรองน้ำเพื่อบริโภคบ้างแล้ว แต่การรองน้ำเพื่ออุปโภคก็ยังคงมีให้เห็นอยู่ เครดิตภาพหน้าปกโดยผู้เขียน ตกแต่งโดย canvaภาพประกอบโดย ผู้เขียน ขอบคุณข้อมูลจาก กรมอนามัยเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !