ว่าด้วยเรื่องของการลงทุนหุ้นสายเทคนิคแล้ว ใครที่เคยหาอ่านจากหนังสือหลายเล่มมาก่อนก็จะรู้ว่าทฤษฎีการลงทุนในเทคนิคนั้นมีมากมายหลายประการ และหนังสือเล่มนี้ก็คือหนึ่งในนั้น เพื่อให้เข้าใจถึงหัวใจของการวิเคราะห์หุ้นทางเทคนิค หนังสือเล่มนี้ได้อธิบายความเป็นมาเป็นไปและการนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์เป็นผลกำไรในระยะยาว ทฤษฎีตัวไหนที่ใช้ได้และไม่ควรใช้ ก็จะมีการอธิบายพร้อมภาพกราฟหุ้นประกอบสี่สีทั้งเล่มหนังสือเล่มนี้เขียนโดย คุณสนธิ อังสนากุล จุดประสงค์ของหนังสือเล่มนี้ก็คือ ถ้าเราซื้อหุ้นแล้วราคาตก แต่พอขายแล้วราคาหุ้นกลับขึ้น แสดงว่าต้องมีอะไรสักอย่างที่เรากำลังเข้าใจผิดว่าเมื่อไหร่ควรซื้อ เมื่อไหร่ควรขายหุ้น หรือต้องรอดูภาวะตลาดหุ้นสักพักก่อน เนื้อหาภายในเล่ม1.บทนำ2.ทฤษฎีดาว3.เส้นแนวโน้ม4.ค่าเฉลี่ยราคา5.รูปแบบราคา6.แผนภูมิแท่งเทียน7.Point and Figure8.ดัชนีบ่งชี้9.เครื่องมือทางเทคนิคอื่นๆ10.บทสรุปแนวปฏิบัติภาคผนวก ก.แนวทางวิเคราะห์ทางเทคนิคภาคผนวก ข.การศึกษาต่อขั้นมหาวิทยาลัยภาคผนวก ค.คำอธิบายความหมายตารางทางเทคนิค ข้อควรระวังที่ทำให้การลงทุนไม่ประสบความสำเร็จ1.เรียนรู้การวิเคราะห์ด้านเทคนิคมาแล้ว แต่ไม่ได้นำเอามาใช้ ยังทำสิ่งต่างๆเหมือนเดิม2.ขาดการฝึกฝนเพิ่มเติม เป็นสาเหตุทำให้ไม่มั่นใจในทิศทางของแนวโน้มที่เห็น3.การหลงผิด ด้วยเพราะมีความเชื่อที่ผิด ไม่ยอมรับว่าตนเองผิดจึงไม่สามารถแก้ไขอะไรได้เลย เพราะคิดว่าตนศึกษามาดีแล้วหัวใจของการวิเคราะห์ทางเทคนิค คือ1.หาจังหวะเวลาที่ควรจะซื้อหรือขายหุ้น2.หาราคาซื้อหรือขายที่เหมาะสมองค์ประกอบการลงทุนที่เหมาะสม 3 ประการ ได้แก่Mind คือจิตวิทยาในการเตรียมการซื้อขายอย่างมีระเบียบวินัยภายใต้ความโลภและความกลัวMethod คือหาวิธีการวิเคราะห์ให้เหมาะสมกับแต่ละคนMoney คือการจัดการทางการเงินให้ผลตอบแทนที่คาดไว้คุ้มกับความเสี่ยง การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis)1.ตั้งจุดขายหยุดการขาดทุน (stop loss)2.ปล่อยให้หุ้นที่มีอยู่ทำกำไร (let profit run)3.การปกป้องผลกำไร (protect your profit)4.มีความคิดสวนทาง (contrarian opinion)5.การเรียนรู้และการฝึกฝน (learn and practice)6.การมีระเบียบวินัยในการลงทุน (investment discipline)7.การซื้อขายถูกเวลาด้วยราคาที่เหมาะสม (right time / right price) ดัชนีบ่งชี้ (Indicators) เกิดจากการนำค่าของราคาและปริมาณหลักทรัพย์ที่ซื้อขายในอดีตมาคำนวณ โดยใช้หลักวิชาทางคณิตศาสตร์และสถิติ อาจแบ่งได้หลายแบบ เช่น1.Trend Following เช่น ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ ดัชนี้ตัวนี้ชี้ถึงการเปลี่ยนแนวโน้มตัวหนึ่ง ถ้าแนวโน้มมีการเปลี่ยนอย่างมีนัยสำคัญมันก็จะทำหน้าที่ได้ดี2.Oscillators ดัชนีบ่งชี้ใช้ประโยชน์เมื่อราคาหุ้นไม่ได้เคลื่อนที่ไปตามแนวโน้มอย่างเด่นชัดอย่างช่วง Sideway นอกจากนี้ยังสามารถบอกถึงขอบเขต OverBought, OverSold ได้เป็นอย่างดี Volume Indicators เกิดจากการนำเอาปริมาณซื้อขายมาทำเป็นดัชนีบ่งชี้โดยไม่ใช้ราคา เช่น Volume Oscillator เกิดจากการนำค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ของ Volume 2 เส้นมาตัดกัน แล้วจึงนำมาทำเป็นสัญญาณซื้อขาย วิธีนี้ไม่เป็นที่นิยมนัก แต่มักใช้ประกอบกับเครื่องมือทางเทคนิคอื่นๆได้ Divergence เป็นสภาพที่มีความขัดแย้งกันระหว่างราคาหลักทรัพย์และดัชนีบ่งชี้ (Indicators) เช่น ราคาหลักทรัพย์ ทำ New High แต่ดัชนีบ่งชี้ไม่ทำ New High หรือในทางกลับกัน ถ้าราคาหลักทรัพย์และดัชนีบ่งชี้ เคลื่อนที่ในทิศทางเดียวกัน เราจะเรียกว่า Convergence ซึ่งเป็นการเสริมแนวโน้มว่าทิศทางยังต่อเนื่องกัน Bullish Divergence เป็นสภาพที่ราคาหลักทรัพย์ทำ New Low แต่ดัชนีบ่งชี้ไม่ทำ New Low ซึ่งจะทำให้มีทางเป็นไปได้ที่การทำ New Low ของราคาหลักทรัพย์อาจจบลงและกลับทิศขึ้นไปได้ Bearish Divergence เป็นสภาพการณ์ที่ราคาหลักทรัพย์ทำ New High แต่ดัชนีบ่งชี้ไม่ทำ New High ซึ่งจะทำให้มีทางเป็นไปได้ที่การทำ New High ของราคาหลักทรัพย์อาจจบลงและกลับทิศลงได้ ขั้นตอนการวิเคราะห์หุ้นทางเทคนิค มี 2 วิธีด้วยกัน1.Top Down Approach เป็นการวิเคราะห์ตลาดก่อนดัชนีกลุ่ม แล้วจึงวิเคราะห์หุ้นรายตัว2.Bottom up Approach วิเคราะห์หุ้นรายตัวก่อนจึงวิเคราะห์กลุ่มของมัน แล้วจึงดูตลาดรวมวิธีวิเคราะห์หุ้นอย่างสะดวกและรวดเร็ว1.หาระบบ Trading ที่เหมาะสมกับสภาพตลาดในขณะนั้น โดยการทำ System Test หรือที่เรียกว่า Back Test2.กรองหาหลักทรัพย์ตามเงื่อนไขที่ต้องการด้วยวิธี scanning หรือ explore โดยกรองหุ้นที่ไม่อยู่ในเงื่อนไข เหลือเพียงแต่หุ้นที่เราสนใจ เช่นหุ้นที่แข็งกว่าตลาดรวม (outperform)หุ้นที่พร้อมจะวิ่งหุ้นราคาถูกที่เริ่มมีแนวโน้มที่เปลี่ยนไปในทางที่ดี ก่อนการซื้อหุ้นควรวิเคราะห์ด้วยว่าแนวโน้มของหุ้นนั้นเป็นอย่างไร หาจังหวะเข้าซื้อ หาราคาที่เหมาะสมในการเข้าซื้อ หาจุดที่ควรตั้งเป็นจุด Stop Loss และหาจุดที่ควรขายออก นี่คือแนวคิดบางส่วนที่ได้จากหนังสือเล่มนี้ เนื่องจากการรีวิวไม่สามารถขยายความได้ทั้งหมด เนื้อหาบางเรื่องจำเป็นต้องดูภาพประกอบจากในเล่ม ด้วยภาพสี่สีตลอดทั้งเล่มก็นับว่าช่วยให้หนังสือน่าสนใจขึ้นมาไม่น้อย แต่...ต้องขอบอกก่อนว่าเนื้อหาค่อนข้างหนักและยากพอสมควร ซึ่งต่างจากหนังสือวิเคราะห์หุ้นทางเทคนิคทั่วไปที่มีมุมมองง่ายกว่า ใครที่สนใจการวิเคราะห์หุ้นทางเทคนิคแบบผู้รู้ตัวจริง อ้างอิงจากตำราต่างประเทศพร้อมสูตรคำนวณทางคณิตศาสตร์มากมายก็นับว่าหนังสือเล่มนี้น่าสนใจยิ่ง แต่สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเข้ามาในโลกการลงทุนหุ้นโดยเน้นปัจจัยทางเทคนิคนั้น หนังสือเล่มนี้ก็อาจจะยากสักหน่อยครับ.... เครดิตภาพภาพปก โดย freepik จาก freepik.comภาพที่ 1 และ 2 โดยผู้เขียนภาพที่ 3 โดย rawpixel.com จาก freepik.comภาพที่ 4 โดย diki_pt จาก freepik.com ภาพที่ 5 โดย nicedream30 จาก freepik.com บทความอื่นๆที่น่าสนใจรีวิวหนังสือ 5 STEPS เทรดหุ้นจากเริ่มต้นจนเทรดเป็นรีวิวหนังสือ คู่มือเทรด FUTURES ในตลาด TFEXรีวิวหนังสือ เทรดหุ้นด้วยกราฟรีวิวหนังสือ รู้เทคนิคพลิกกำไร คู่มือเทรดหุ้นสายกราฟ ฉบับมือใหม่รีวิวหนังสือ เพาะหุ้นเป็นเห็นผลยั่งยืนเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !