อย่ามองข้ามสายพานหน้าเครื่อง สายพานทำหน้าที่เป็นตัวขับเคลื่อนให้ทุกส่วนทำงานซึ่งในสมัยก่อนมีสายพานหลายเส้น เช่น สายพานคอมเพรสเซอร์แอร์ , สายพานไดชาร์จ , สายพานพวงมาลัยเพาเวอร์ เป็นต้น ซึ่งใช้สายพานหลายเส้น แต่พอมาในสมัยใหม่จะใช้สายพานแบบเส้นเดียวทั้งระบบโดยจะควบคุมทุกอย่างสายพานแบบนี้จะเรียกว่า สายพานเซอร์เพนไทน์ หรือชื่อภาษาอังกฤษเรียกว่า SERPENTINE BELT DRIVE ส่วนข้อดีของสายพานเส้นเดียว คือ จะประหยัดค่าใช้จ่ายแต่ถ้าสายพานขาดอุปกรณ์อื่น ๆ ที่ใช้สายพานเป็นตัวขับเคลื่อนก็จะหยุดทำงานทันที ต่างกับ แบบรุ่นเก่าที่ใช้สายพานหลายเส้นราคาในการเปลี่ยนก็จะสูงกว่าแต่ถ้าขาด 1 เส้น สมมุติว่าสายพานพวงมาลัยเพาเวอร์ขาดแต่ก็ยังสามารถขับไปต่อได้แต่พวงมาลัยเวลาขับจะหนักมากและนี่คือข้อดีของสายพานแบบหลายเส้น ต่อมาถ้าสายพานคอมแอร์ขาดรถก็ยังสามารถขับต่อไปได้เช่นกันเพียงแค่ว่าเวลาขับระบบแอร์ไม่ทำงานเท่านั้นเอง1. ดูสภาพสายพานใต้ฝากระโปรงรถยนต์ สามารถมองด้วยตาเปล่าได้คือดับเครื่องเปิดฝากระโปรงหน้ารถและมองดูสายพานถ้าเสื่อมสภาพจะมีลักษณะ มีรอยแตกบริเวณหลังสายพานนั้นก็เป็นสัญญาณเตือนให้เปลี่ยนได้แล้ว โดยสายพานนี้จะมีอายุการใช้งานประมาณ 50,000 กิโลเมตร หรือประมาณ 2 – 3 ปี2. ลักษณะของสายพานหน้าเครื่อง สายพานทุกเส้นจะมี รหัสบอกที่สายพาน ซึ่งดูได้จากของเดิมได้จากสายพานติดรถหรือถ้าจางมากหาข้อมูลใน Internet ได้ค้นหาชื่อยี่ห้อ ชื่อรุ่น ปี ค.ศ. หรือมีทางเลือกอีกหนึ่งก็จดหมายเลขตัวถังรถยนต์ไปที่ร้านอะไหล่แล้วทางร้านจะมีข้อมูลเกี่ยวกับอะไหล่รถยนต์ทั้งหมด สายพานแต่ละเส้นก็จะแตกต่างกันไปเพราะมีหลายเบอร์มากมายเช่น 6PK1850 หมายถึง สายพานแบบ 6 ร่อง ความยาว 1850 มิลลิเมตร , 5PK890 หมายถึง สายพานแบบ 5 ร่อง ความยาว 890 มิลลิเมตร เป็นต้น2.1. สายพานที่มีลักษณะการเสื่อมสภาพ2.2 สายพานเทียบกับของใหม่และของเก่า2.3. หลังจากเปลี่ยนควรจดเลขไมล์รถยนต์และวันที่เปลี่ยนด้วยจะได้ทราบถึงข้อมูลว่าเราทำอะไรกับรถยนต์แล้วบ้างสุดท้ายนี้ เราอย่ามองข้ามเรื่องสายพานหน้าเครื่องถึงเวลาเปลี่ยนก็ต้องเปลี่ยนเพราะถ้าเราใช้ไปแล้วขาดกลางทางแทนที่จะเสียเงินไม่กี่ร้อยบาท อาจจะเสียงานเป็นพันกว่าบาทได้นะครับ และที่สำคัญมาก ๆ เวลาเราขับรถยนต์ตั้งแต่สตาร์จรถยนต์ครั้งแรกเราควรจะสังเกตุเสียงของรถยนต์ว่ามีความผิดปกติหรือไม่ ส่วนชื่อเรียกของสายพานบางร้านก็จะเรียกว่า สายพานหน้าเครื่อง , สายพานไดชาร์จ เป็นต้นขอบคุณสำหรับการรับชมนะครับ**ภาพทั้งหมดจากนักเขียน**