ล่าสุด ธนาคารกสิกรไทยแจ้งผลการเติบโตของแอพ K PLUS ในเดือนเมษายนดันปริมาณการทำธุรกรรมเพิ่มขึ้นมาที่ 227 ล้านรายการ เพิ่มขึ้นถึง 68% เมื่อเทียบกับปีก่อน หลังจากที่โควิดมีการระบาดทำให้คนทั่วไปเกิดความหวาดกลัวในการจับเหรียญ ธนบัตร หรือการใช้จ่ายเงินแบบเดิม ๆ ช่องทางเดิม ๆ ลูกค้าของทางธนาคารจึงเปลี่ยนพฤติกรรมมาใช้จ่ายผ่านแอพมากยิ่งขึ้น แต่รู้หรือไม่ว่าบริการโอนจ่ายบนระบบอิเล็กทรอนิกส์ไม่ได้มีแค่ของฝั่งบุคคลธรรมดาเท่านั้น ฝั่งของนิติบุคคล ไม่ว่าจะเป็น ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด หรือแม้กระทั่งบริษัทจำกัดมหาชน ก็มีระบบโอนจ่ายอิเล็กทรอนิกส์เช่นกัน วันนี้เราจะพามารู้จักระบบการโอนจ่ายอิเล็กทรอนิกส์ของธนาคารกสิกรไทย ที่บริษัทต่างๆ ใช้กัน ที่ชื่อว่า K-Cash Connect Plus ครับ K-Cash Connect Plus เป็นระบบการโอนจ่ายอิเล็กทรอนิกส์ ไม่ว่าจะเป็นการโอนจ่ายเงินเดือนให้กับพนักงาน การโอนจ่ายเงินให้กับคู่ค้า ไม่ว่าจะปริมาณเงินเล็ก ๆ อย่าง 2 ล้านบาทต่อรายการ หรือกระทั่ง 10 ล้านบาทต่อรายการ ระบบนี้ก็จะสามารถโอนได้ทั้งภายในธนาคารเดียวกัน หรือข้ามธนาคาร แล้วมันแตกต่างกับแอพ K PLUS ของบุคคลธรรมดาอย่างไร ในเมื่อแอพ K PLUS ปกติก็โอนได้ ถ้าข้ามเรื่องบัญชีบุคคลธรรมดาสามารถเปิด K PLUS ได้อย่างเดียว กับบัญชีนิติบุคคลธรรมดาที่เปิดได้ทั้ง K PLUS นิติบุคคล กับ K-Cash Connect Plus ไป สิ่งแรกที่เห็นชัดเลยคือจำนวนเงินสูงสุดในการโอนจะแตกต่างกัน โดย K PLUS จะโอนได้สูงสุดไม่เกิน 2 ล้านบาทต่อวัน ซึ่งสำหรับนักธุรกิจหลายคนเห็นแล้วก็แทบจะร้องไห้ เพราะสำหรับธุรกิจใหญ่ ๆ จำนวนแค่นี้ไม่พอ ดังนั้นจึงต้องใช้ระบบพิเศษอย่าง K-Cash Connect Plus ในการโอนจ่ายให้กับคู่ค้าที่ไม่ได้กำหนดยอดการโอนเงินต่อวัน ต่อมาในเรื่องความปลอดภัยบนระบบ K-Cash Connect Plus ใช้ระบบความปลอดภัยขั้นสูง รวมถึงมีการแบ่งหน้าที่ของผู้ใช้งาน ออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ๆ ไม่ว่าจะ Maker หรือผู้ทำรายการ ที่มีหน้าที่แค่ทำรายการว่าจะโอนเงินไปให้บริษัทใด จำนวนเท่าไร ซึ่งมีหน้าที่เท่านั้นจริง ๆ ซึ่งก็จะช่วยในการป้องกันการทุจริตได้ คนที่จะเป็นMaker ส่วนใหญ่จะเป็นฝ่ายการเงิน หรือฝ่ายบัญชี เมื่อ Maker ทำรายการเสร็จเรียบร้อย ระบบก็จะส่งข้อมูลการทำรายการไปให้ Authorizer หรือผู้อนุมัติ เป็นผู้อนุมัติการทำรายการ โดยผู้อนุมัติส่วนใหญ่ก็จะเป็นผู้มีอำนาจในบริษัท ซึ่งการทำรายการต้องใช้เครื่อง Secure Pass (ถ้าใครไม่เคยเห็นลอง Search Google ดูครับ) ในการใส่รหัสและนำไปกรอกบนระบบ หลังจากนั้นหากรหัสถูกต้อง ระบบก็จะทำรายการให้เสร็จสมบูรณ์ และกลุ่มคนสุดท้ายคือผู้ดูแล หรือ Admin จะมีหน้าที่คอย Reset Password ให้กับ Maker และ Authorizer ในกรณีที่ลืมรหัสผ่าน เพราะทุกคนต้องมี Username Password ในการ Login เข้าไปในระบบ ซึ่ง Admin จะมี 2 ท่าน ท่านแรกเป็นคน Reset อีกท่านเป็นคน Approve ซึ่งรหัสก็จะเข้าไปที่เบอร์โทรศัพท์ของบุคคลนั้นที่ต้องการ Reset Passwordเห็นไหมครับว่าฝั่งธุรกิจก็มีระบบการโอนจ่ายอิเล็กทรอนิกส์คล้าย ๆ กับฝั่งบุคคลธรรมดาเช่นกัน แต่ความยุ่งยากก็จะแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานครับ ซึ่งตัวระบบโอนจ่ายอิเล็กทรอนิกส์ K-Cash Connect Plus ก็จะช่วยให้การโอนจ่ายสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น จากเดิมที่คนสมัยก่อนเวลาจะจ่ายเงินให้กับคู่ค้าก็ต้องไปถอนเงินมาเป็นก้อน ๆ แล้วเดินไปจ่ายให้กับมือ มาถึงยุคเปลี่ยนผ่านที่สามารถโอนเงินผ่านทางเคาน์เตอร์ธนาคารได้ แต่ก็ต้องลงเอยด้วยการจ่ายค่าธรรมเนียมแพงหูฉี่ รวมถึงกว่าจะโอนเงินได้ก็ใช้เวลานาน จึงเกิดระบบเช็คขึ้นมาโดยการเอาเช็คไปให้กับคู่ค้าแต่ก็มีปัญหาทั้งเสียเวลาไปขึ้นเช็ค เสียค่าธรรมเนียมการขึ้นเช็ค คนออกเช็คก็เสียค่าธรรมเนียม กว่าจะเช็คจะขึ้นได้ก็ต้องใช้เวลา clearing อีกหลายวันแถมเสี่ยงเช็คเด้งอีก สรุปสุดท้ายจึงเกิดระบบโอนจ่ายแบบอิเล็กทรอนิกส์ขึ้นมา เรียกได้ว่าเป็นระบบที่รวดเร็ว ค่าใช้จ่ายน้อย และไม่ต้องเสียเวลา เสียค่าน้ำมันอีกต่อไป แถมในยุคนี้ก็ไม่ต้องเสี่ยงเรื่องโควิดจากการไปต่อแถวโอนเงิน การไปสัมผัสเชื้อโรคผ่านเช็ค หรือธนบัตร บอกเลยว่าถ้านักธุรกิจเจ้าไหน มองหาระบบในการโอนจ่ายดี ๆ ในช่วงโควิดแบบนี้อยู่ละก็ มาใช้เถอะครับ K-Cash Connect Plus ของธนาคารกสิกรไทย ภาพปกโดยผู้เขียน ภาพที่1และ 2 จากธนาคารกสิกรไทย / ภาพที่3 จาก pixabay / ภาพที่4 จาก pixabay