(เครดิตภาพปก rawpixel.com - Freepik) ทุกวันนี้ข่าวสารนั้นเร็วปานติดจรวด ขนาดนอนตีพุงอยู่ที่บ้านไม่ออกไปไหน ไม่ได้เปิดทีวี ไม่ได้คุยกับเพื่อนบ้าน ไม่ได้โทรศัพท์คุยกับใคร แต่แค่เปิดมือถือดู เลื่อนแค่หน้าจอในเฟสบุ๊กก็เจอพาดหัวข่าวไม่หวาดไม่ไหวแล้ว นั่นเป็นเพราะเรามีการติดต่อสื่อสารกับคนอื่นอยู่ตลอดเวลาไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ดังนั้นเราจึงหลีกเลี่ยงข้อเท็จจริงเหล่านี้ไม่ได้นั่นเอง การรับรู้ข่าวสารนั้นถือเป็นเรื่องดี เพราะมันทำให้เรารู้ทันเหตุการณ์ สามารถเตรียมตัวรับมือให้พร้อมกับบางสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่นเหตุการณ์ไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ COVID-19 ที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้ หรือการติดตามการรายงานทางวิทยุเกี่ยวกับสภาพการจราจรในเขตที่เราอาศัยอยู่ จะได้รู้ว่าควรหลีกเลี่ยงเส้นทางใด เป็นต้น แต่หลายถึงแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องดี แต่การรับรู้ข่าวสารมากไปจนเกินพอดีนั้นก็ทำให้เรารู้สึกแย่ได้เหมือนกัน ซึ่งสภาวะที่กำลังบ่งบอกว่าเราอาจกำลังตกหลุมพรางของข่าวมีดังนี้ 1. เกิดความรู้สึกอารมณ์ร่วม เช่น หดหู่ จิตตก โศกเศร้า เสียใจ สะใจ ฯลฯ จนเกินไป บางครั้งการเสพข่าวมากจนเกินไปนั่งไถทวิตเตอร์ เลื่อนอ่านเฟสบุ๊กไทม์ไลน์ทั้งวันทั้งคืน โดยเฉพาะข่าวด้านอาชญากรรม ข่าวการเสียชีวิตของผู้บริสุทธิ์ ข่าวในด้านลบต่าง ๆ ก็ทำให้เกิดอาการนี้ได้ไม่ยากเลย ที่เรารู้สึกแบบนั้นก็เพราะว่ามนุษย์เรามักจะชอบจินตนาการถึงสิ่งที่เกิดขึ้น และบางครั้งก็จินตนาการให้มาเกี่ยวโยงกับตัวเอง ทำให้เกิดสภาวะหดหู่ จิตตก วิตกกังวลหรือหลอนภายในจิตใจ ดังนั้นถ้ารู้ตัวว่าเป็นคนที่รับกับเรื่องรุนแรงได้ยากหรือสภาพจิตใจอ่อนแอก็เลิกอ่านข่าวด้านนี้ไปดีกว่า แล้วดูแลตัวเองดี ๆ ใช้ชีวิตอยู่ในความไม่ประมาทก็เพียงพอแล้ว (เครดิตภาพ bearfotos - Freepik) 2. ตามข่าวไม่ยอมเลิกรา ข้อนี้มักจะเกี่ยวข้องกับข่าวซุบซิบ กอสซิปดารา นินทากาเลต่าง ๆ ปกติแล้วคนทั่วไปมักจะอ่านข่าว รับทราบ แล้วก็จบที่ตรงนั้น แต่เชื่อไหมว่ายังมีอีกหลายคนชอบเรื่องแบบนี้ อยากรู้อยากเห็นเรื่องชาวบ้านเสียเหลือเกิน โดยเฉพาะเรื่องฉาว ๆ ยิ่งอ่านก็ยิ่งตามไปขุดคุ้ยสืบหาที่มาหรือต้นตอของข่าว บางคนไม่สนว่าจริงหรือเท็จด้วยซ้ำ เพียงแค่อยากสนองความรู้สึกสะใจของตัวเอง ดังนั้นใครที่กำลังเป็นแบบนี้อยู่ ขอให้รู้ไว้ว่า คุณกำลังตกหลุมพรางกับดักของข่าวเข้าอย่างจัง ลองถามตัวเองก่อนว่ารู้แล้วได้อะไร หรือมีความจำเป็นต่อชีวิตอย่างไร เพราะการทำแบบนี้หมายความว่าคุณกำลังคาดหวังอะไรอยู่ และหากมันไม่เป็นไปตามหวังคุณอาจจะเสียใจ หรือเกิดความอิจฉาริษยา หรือเซ็งไปเลยก็ได้ ลองหาอะไรอะไรที่มีประโยชน์หรือสร้างสรรค์กว่านี้ฆ่าเวลาไม่ดีกว่าหรือ (เครดิตภาพ pressfoto - Freepik) 3. ตามหาต้นตอ หลายเนื้อหาในข่าวมีการชี้เป้า ชี้ราคา เช่นบอกพิกัดร้านขายของ บอกชื่อบุคคล บอกรายละเอียดต่าง ๆ หากเป็นเรื่องการขายของ คนก็มักจะแห่ไปจับจอง แห่ซื้อจนของหมดสต็อกภายในเวลาไม่เท่าไหร่ ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องปกติที่คนต้องตามเทรนด์กันอยู่แล้ว แต่หากเป็นเรื่องของการล่าแม่มดล่ะ ? มันอาจจะเป็นการชักนำให้คนบูลลี่กันหรือนำหายนะไปสู่เป้าหมายเหล่านั้นก็ได้ เราไม่จำเป็นต้องทำตัวเป็นนักสืบออนไลน์หรือต้องเป็นผู้นำเทรนด์ขนาดนั้น ลองปล่อยตัวสบาย ๆ เอาตัวเองออกมาจากโลกแห่งความวุ่นวายบ้างก็อาจจะดีไม่น้อยนะ (เครดิตภาพ Freepik) การรับรู้ข่าวสารแต่พอดีเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะมันอาจจะเป็นการรักษาสุขภาพจิตของเราไปในตัวด้วย ดังนั้นใครที่รู้ตัวว่าทำ 3 สิ่งนี้อยู่ ควรตระหนักให้มาก ๆ ว่านี้อาจจะเป็นสาเหตุสำคัญที่บั่นทอนความคิด การทำงานหรือการใช้ชีวิตประจำวันของเราก็ได้นะคะ