หลังจากตกเป็นข่าวเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาเกี่ยวกับปัญหาเรื่องความปลอดภัยของแอพลิเคชั่นสำหรับการประชุมออนไลน์ที่กำลังมาแรงที่ชื่อว่า Zoom ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคมที่ผ่านมา ทางซูมประกาศว่าได้เข้าซื้อกิจการ Keybase บริษัท Startup ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านความปลอดภัยเรียบร้อยแล้ว แม้จะไม่มีการเปิดเผยมูลค่าของการซื้อขาย และภายใต้เงื่อนไขของข้อตกลงนี้ Keybase จะกลายเป็นบริษัทย่อยของ Zoom และ Max Krohn ซึ่งเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง Keybase จะเป็นผู้นำทีมวิศวกรรมด้านความปลอดภัยให้กับ Zoom ต่อจากนี้ และนี่ก็เป็นความพยายามครั้งล่าสุดของ Zoom หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ทาง Zoom ได้ว่าจ้าง Alex Stamos อดีตหัวหน้าผู้ปฏิบัติงานด้านความปลอดภัย หรือ Chief Security Officer (CSO) ของ Facebook ในฐานะที่ปรึกษาด้านความปลอดภัย ตามมาด้วยการเพิ่มระดับความปลอดภัยเท่าที่พอจะทำได้ในระหว่างนี้ให้กับตัวแอพลิเคชั่น เช่น การเปิดฟีเจอร์ห้องรอ (Waiting Room) และการบังคับให้ใช้รหัสผ่านสำหรับ Video Call ใหม่เพื่อป้องกันปัญหา Zoom-bombing หรือการมีผู้ไม่ประสงค์ดีเข้ามาก่อกวนการประชุม แม้ว่า Keybase จะเพิ่งตั้งได้ไม่นานและมีพนักงานเพียงแค่ 25 คน แต่เมื่อพิจารณาจากความเชี่ยวชาญทางด้านการเข้ารหัสไฟล์และการเข้ารหัสแชท รวมถึงศักยภาพของทีมวิศวกรความปลอดภัยที่นำโดย Max Krohn หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง Keybase ที่มีดีกรีปริญญาเอกจากสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (Massachusetts Institute of Technology) หรือ MIT ก็อาจเป็นสิ่งที่ช่วยกู้วิกฤติศรัทธาที่ Zoom กำลังเผชิญในขณะนี้ให้กลายเป็นโอกาส แน่นอนครับว่าการที่ Zoom สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีของ Keybase ซึ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านความปลอดภัยสำหรับการแบ่งปันไฟล์ข้อมูล (File Sharing) และเครื่องมือสำหรับการทำงานร่วมกัน (Collaboration Tools) ตั้งแต่ปี 2014 จะช่วยให้ Zoom สามารถเพิ่มประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือให้กับผลิตภัณฑ์ของตน โดยที่ก่อนหน้านี้การตั้งคำถามในเรื่องความปลอดภัยโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเข้ารหัสแบบ End-to-End สำหรับโหมดการประชุม (Meeting Mode) ก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วพอ ๆ กับปริมาณความต้องการใช้งานที่สูงขึ้นหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 แม้การเข้าครอบครอง Keybase น่าจะทำให้ลูกค้าและผู้ใช้งานของ Zoom มีความปลอดภัยในการใช้งานเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะกับลูกค้าองค์กรที่พนักงานจำนวนมากต้องพึ่งพาระบบที่ช่วยในการทำงานจากที่บ้านในช่วงการระบาดของเชื้อไวรัสดังกล่าว แต่เมื่อดูจากเนื้อหาในประกาศของ Zoom ที่ออกมานั้นระบุว่า ระบบรักษาความปลอดภัยที่ทางบริษัทกำลังผนวกรวมเข้าไปในผลิตภัณฑ์ (ซึ่ง Zoom เองก็ยังไม่สามารถระบุว่าสำเร็จเมื่อไหร่) จะมีให้เฉพาะกับลูกค้าที่จ่ายค่าบริการให้กับ Zoom เท่านั้น จากมุมมองผู้ใช้ของฟรีอย่างผม ความพยายามของ Zoom เพื่อแก้ไขปัญหาในช่วงที่ผ่านมา จนมาถึงการควบรวมกิจการ Keybase ในครั้งนี้ อาจจะทำให้ความปลอดภัยในการใช้งาน รวมถึงความเชื่อมั่นในตัวผลิตภัณฑ์เพิ่มสูงขึ้นก็จริง แต่หากต้องแลกกับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นแล้ว ก็มีความเป็นไปได้สูงว่ากลุ่มผู้ใช้งานทั่วไป ซึ่งไม่ใช่กลุ่มลูกค้าองค์กรจะมองหาตัวเลือกอื่นที่เหมาะสมกว่า Zoom ในอนาคต อ้างอิงจาก Techcrunch https://techcrunch.com/2020/05/07/zoom-consultant-alex-stamos-weighs-in-on-keybase-acquisition/ Techcrunch https://techcrunch.com/2020/05/07/zoom-acquires-keybase-to-get-end-to-end-encryption-expertise/ Zoom Blog https://blog.zoom.us/wordpress/2020/04/01/a-message-to-our-users/ keybase https://keybase.io/blog/keybase-joins-zoom ขอบคุณภาพจาก ภาพปก FotoArt-Treu/Pixabay & wikipedia ภาพที่ 1 madartzgraphics/Pixabay ภาพที่ 2 Claudiu Hegedus/Unsplash ภาพที่ 3 TheDigitalArtist