รีเซต

PKN ยื่นไฟลิ่ง ก.ล.ต. ขายไอพีโอ 25.4 ล.หุ้น เตรียมเข้าเอ็มเอไอ

PKN ยื่นไฟลิ่ง ก.ล.ต. ขายไอพีโอ 25.4 ล.หุ้น เตรียมเข้าเอ็มเอไอ
ทันหุ้น
30 พฤษภาคม 2567 ( 19:12 )
32

#PKN #ทันหุ้น - PKN ยื่นแบบไฟลิ่งต่อสำนักงานก.ล.ต. เตรียมเสนอขายหุ้น IPO ไม่เกิน 25.4 ล้านหุ้น เล็งเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ภายในปีนี้ รองรับแผนก้าวสู่ผู้นำด้านสินค้าลิขสิทธิ์สำหรับลูกค้ากลุ่มธุรกิจและผู้บริโภคในอาเซียน

 

นางดาริน  กาญจนะ  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออพท์เอเชีย แคปิตอล จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท พีเคเอ็น อินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PKN เปิดเผยว่า ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 25,400,000 หุ้น คิดเป็น 25.30% ของจำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดหลัง IPO มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท และมีแผนจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ภายในปีนี้

 

สำหรับ PKN ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายสินค้าไลฟ์สไตล์ สินค้าเพื่อการสะสม สินค้าลิมิเต็ด สินค้าพรีเมียม และสินค้าลิขสิทธิ์

 

** นำเงินต่อยอดธุรกิจ

นายนพพล  มิลินทางกูร  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีเคเอ็น อินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PKN เปิดเผยว่า บริษัทมีวัตถุประสงค์การใช้เงินจากการระดมทุน เพื่อนำไปเป็นเงินลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องและมีศักยภาพในอนาคต เช่น การเข้าซื้อกิจการ (M&A) และเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ

 

ปัจจุบันบริษัทผลิตสินค้าลิขสิทธิ์มานานกว่า 6 ปี ทั้งสำหรับลูกค้ากลุ่มธุรกิจที่นำไปจัดจำหน่ายต่อหรือเป็นสินค้าส่งเสริมการขาย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ในหลายอุตสาหกรรมที่มีความสัมพันธ์ที่ดีและมีการเติบโตของยอดขายอย่างต่อเนื่อง และสำหรับลูกค้าผู้บริโภคภายใต้เครื่องหมายการค้า IGNITE ที่พัฒนาและจำหน่ายภายใต้บริษัทเอง

 

สำหรับภาพรวมธุรกิจลิขสิทธิ์ทั่วโลกจากบทวิเคราะห์ Global and Thailand Brand Licensing Market Research 2023 (Arsta Research) พบว่า ธุรกิจลิขสิทธิ์มีมูลค่าตลาด 290.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราวๆ 10.3 ล้านล้านบาท ในปี 2565ที่ผ่านมา และคาดว่าอุตสาหกรรมลิขสิทธิ์จะมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 4.2% ต่อปี นับตั้งแต่ปี 2566 - 2572คิดเป็นอัตราการเติบโตต่อปีทบต้น (CAGR) ตั้งแต่ปี 2561-2572F เท่ากับ 3.6% โดยยอดขายปลีกทั่วโลกของสินค้าลิขสิทธิ์จะมีมูลค่าสูงถึง 389.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2572

 

** เป้าหมายระยะยาว

บริษัทมีเป้าหมายระยะยาวที่จะเป็นผู้นำด้านสินค้าลิขสิทธิ์สำหรับลูกค้ากลุ่มธุรกิจและผู้บริโภคในอาเซียน โดยมีสัดส่วนรายได้จากการขายสินค้าลิขสิทธิ์ให้กับลูกค้ากลุ่มธุรกิจเดิมและขยายตัวไปยังลูกค้าที่มีศักยภาพใหม่ในประเทศไทยประมาณ 50% และมีสัดส่วนรายได้สินค้าลิขสิทธิ์จากการขยายไปยังลูกค้าธุรกิจต่างประเทศ 10% และมีสัดส่วนรายได้จากการขายสินค้าภายใต้แบรนด์ IGNITE ผ่านช่องทางการขายแบบออฟไลน์ (ร้านค้าตัวแทนและเปิดสาขาของบริษัท) 10% และช่องทางออนไลน์ 10% และอีก 20% จะเป็นรายได้จากการขยายธุรกิจโดยการซื้อกิจการหรือร่วมทุน (M&A)

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง