แม่น้ำแยงซีระดับน้ำสูงสุดในประวัติศาสตร์ ฉงชิ่งเผชิญมหาอุทกภัย
แม่น้ำแยงซีระดับน้ำสูงสุดในประวัติศาสตร์ ฉงชิ่งเผชิญมหาอุทกภัย
ซินหัว รายงานว่า เมื่อ ช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ 20 ส.ค. ระดับน้ำของแม่น้ำแยงซีในเขตเทศบาลนครฉงชิ่งสูงจนทะลุระดับสูงสุดในประวัติศาสตร์ ซึ่งก่อให้เกิดภัยคุกคามต่อมหานครทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีนแห่งนี้อย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน
เมื่อเวลาประมาณ 8.00 น. ของวันพฤหัสบดี ระดับน้ำที่สถานีอุทกวิทยาชุ่นทาน ในนครฉงชิ่งสูงถึง 191.55 เมตร โดยสูงกว่าสถิติในปี 1981 (พ.ศ.2524) ที่ 0.14 เมตรและยังคงเพิ่มสูงขึ้น
ฉงชิ่ง ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนบนของแม่น้ำที่ใหญ่ที่สุดของจีนได้ยกระดับการรับมือภาวะฉุกเฉินเพื่อควบคุมอุทกภัยสู่ระดับ 1 เมื่อวันอังคาร (18 ส.ค.) อันเป็นระดับสูงสุดในระบบรับมือภาวะฉุกเฉินควบคุมอุทกภัยของจีนทั้ง 4 ระดับ
ขณะนี้ มีชาวเมืองฉงชิ่งอย่างน้อย 250,000 คนถูกอพยพไปยังที่ปลอดภัยแล้ว
ด้านมณฑลกานซู่ ภาคตะวันตกเฉียงเหนือ ระดับน้ำในแม่น้ำสาขาของแม่น้ำแยงซีเพิ่มสูงเกินขีดอันตรายเช่นกัน หลังฝนเทกระหน่ำอย่างต่เนื่อง เกิดภัยพิบัติจากฝนหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นน้ำหลากจากภูเขา ดินถล่ม และโคลนถล่ม
แม่น้ำไป๋สุ่ยซึ่งไหลลงแม่น้ำไป๋หลงที่เชื่อมกับแม่น้ำแยงซี กำลังเผชิญกับอุทกภัยครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 200 ปี
สถานีอุทกวิทยาซ่างเต๋อของแม่น้ำไป๋สุ่ยวัดปริมาณน้ำหลากสูงสุดได้ 2,250 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เมื่อเวลา 17.00 น. ของวันจันทร์ (17 ส.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น
สำนักทรัพยากรน้ำกานซู่ระบุว่าระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำไป๋โข่วในลุ่มแม่น้ำไป๋หลงสูงเกิน 702 เมตร ซึ่งสูงกว่าขีดของระดับน้ำท่วมอยู่ 7 เมตร โดยขณะนี้อ่างเก็บน้ำยังคงปล่อยมวลน้ำอย่างต่อเนื่อง
เมื่อวันจันทร์ มวลน้ำที่ไหลเข้าสู่อ่างเก็บน้ำไป๋โข่วยังมีอัตราสูงเกิน 4,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ขณะที่อ่างเก็บน้ำปล่อยน้ำด้วยอัตรา 3,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เนื่องจากยังต้องลดระดับแรงดันของน้ำท่วมในพื้นที่ท้ายน้ำ
นอกจากนี้ฝนที่ตกหนักยังส่งผลกระทบต่อประชาชนถึง 402,000 คน ในเมืองต่างๆ 6 แห่งในกานซู่ และสร้างความเสียหายต่อสาธารณูปโภคเพื่อการอนุรักษ์น้ำ โดยสร้างความสูญเสียทางเศรษฐกิจโดยตรงถึง 1.55 พันล้านหยวน (ราว 6.97 พันล้านบาท)
เมื่อนับถึงวันจันทร์ที่ผ่านมา ฝนที่ตกหนักได้สร้างความเสียหายให้กับถนนหลายสายในเมืองหล่งหนานระยะทางรวม 3,303 กิโลเมตร ส่งผลให้การจราจรบนถนนจำนวน 497 สายหยุดชะงัก
จนถึงขณะนี้ ทางการได้ส่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยจำนวน 22,000 คน และชุดเครื่องจักร 2,720 ชุด ไปซ่อมแซมถนนที่เสียหายแล้ว 291 สาย