10 แนวทางลดการใช้กระดาษ ที่บ้าน เพื่อลดขยะที่ต้องทิ้ง | บทความโดย ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล หลายคนยังมองไม่ออกว่า การลดการใช้กระดาษเป็นอีกหนึ่งวิธีง่ายๆ ที่เราทุกคนสามารถทำได้ เพื่อช่วยลดการตัดไม้ทำลายป่า ลดการใช้พลังงานและลดมลพิษ ที่จะว่าไปแล้วขยะจากกระดาษตามบ้าน ถือว่ามีอยู่ไม่น้อยเหมือนกันค่ะ ตั้งแต่ซองจดหมาย ใบเสร็จรับเงิน หรือกระดาษที่ห่อหุ้มสิ่งของ ที่สุดท้ายแล้วหากเราไม่คัดแยกออกไปขาย กระดาษเหล่านั้นก็ดูเหมือนว่าจะกลายมาเป็นขยะที่ต้องทิ้งลงในถังขยะ ซึ่งในปัจจุบันการหันมาลดการใช้กระดาษมีหลากหลายวิธีมากค่ะ ที่ผู้เขียนเองก็ได้มีโอกาสร่วมรณรงค์ลดการใช้กระดาษด้วย จึงเป็นโอกาสดีที่จะได้มาบอกต่อค่ะ โดยบางวิธีที่จะได้นำเสนอเอาไว้ในบทความนี้ เชื่อว่าหลายคนอาจจะยังไม่เคยรู้มาก่อนด้วยซ้ำไป ดังนั้นหากคุณผู้อ่านได้ลองอ่านให้จบแล้วและนำไปใช้ รับรองว่ากลายเป็นคนรักษ์สิ่งแวดล้อมขึ้นมาทันทีแบบมืออาชีพแน่นอนค่ะ และต่อไปนี้คือแนวทางลดการใช้กระดาษที่บ้าน เพื่อลดขยะในสิ่งแวดล้อม 1. เปลี่ยนเป็นดิจิทัล ในข้อนี้หมายความว่าให้ลดการพิมพ์เอกสารด้วยกระดาษ มาเป็นการพิมพ์เอกสารหรือทำเอกสารขึ้นในรูปแบบของดิจิทัลค่ะ เช่น บทความของผู้เขียนทั้งหมดในช่องนี้ ถือเป็นตัวอย่างของเอกสารที่เป็นดิจิทัล โดยการเปลี่ยนมาเป็นรูปแบบดิจิทัลยังมีอีกหลายลักษณะ เช่น การใช้คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรือสมาร์ทโฟนในการอ่านหนังสือ จดบันทึก ทำงาน เก็บรูปภาพและเก็บเอกสารสำคัญต่างๆ ค่ะ 2. ใช้กระดาษสองหน้า ซึ่งเหตุผลที่การใช้กระดาษให้ครบทั้งสองหน้าช่วยลดปัญหาเรื่องขยะ ก็เพราะว่าเป็นแนวทางในการประหยัดกระดาษได้ถึงครึ่งหนึ่งค่ะ โดยวิธีการนี้หลายคนรู้มาแล้วและทำประจำ ซึ่งก็ถือว่าเป็นตัวอย่างที่ดีค่ะ แต่สำหรับคนที่ยังใช้กระดาษเพียงหน้าเดียวอยู่ แนะนำว่าถ้าไม่ใช่เรื่องสำคัญๆ ควรหันมาใช้กระดาษทั้งด้านหน้าและด้านหลังค่ะ 3. นำกระดาษที่ใช้แล้วไปแปรรูปและกลับมาใช้ใหม่ การนำกระดาษที่ใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่สำหรับคนทั่วไป เราสามารถทำได้ง่ายๆ ค่ะ นั่นคือรวบรวมกระดาษทั้งหมดในบ้านที่ไม่ใช้แล้วไปขายให้กับคนรับซื้อขยะรีไซเคิล จากนั้นกระดาษเหล่านี้จะไปเข้าสู่กระบวนการแปรรูปและนำกลับมาใช้ใหม่อีกครั้ง ซึ่งการทำแบบนี้เป็นวิธีการลดปริมาณกระดาษที่ต้องทิ้งเปล่าๆ ไปในสิ่งแวดล้อมค่ะ ที่สุดท้ายแล้วก็กลายเป็นขยะที่บ่อฝังกลบขยะ การขายกระดาษจากที่บ้านสามารถทำได้ทุกอย่างเลยค่ะ เพราะผู้เขียนเคยรวบรวมขายมาแล้ว แต่ว่าเราต้องมัดรวมหรือเก็บแยกสะสมไว้ในกล่อง หรืออะไรก็ได้ให้สะดวกตอนที่เขามารับซื้อค่ะ 4. ใช้ผ้าเช็ดมือแทนกระดาษทิชชู การมีผ้าเช็ดมือสามารถช่วยลดการใช้กระดาษทิชชูได้ค่ะ ที่บางที่ก็เหมาะสมมากกว่าด้วย แต่สำคัญว่าต้องเตรียมผ้าเช็ดมือหลายผืนไว้ใช้ เช่น ในห้องน้ำหรือห้องครัว โดยในกรณีนี้แนะนำให้มีผ้าเช็ดมือผืนเล็กๆ ค่ะ เมื่อใช้แล้วก็นำไปซักตากแห้งและนำกลับมาใช้ใหม่ได้ เห็นไหมคะว่าก็ไม่จำเป็นต้องมีกระดาษทิชชูเลย จึงทำให้ลดการสร้างขยะจากกระดาษไปโดยปริยายค่ะ 5. ลดการใช้กระดาษโน้ต หลายคนอาจจะติดการจดบันทึกด้วยการมีกระดาษโน้ตสวยๆ ที่ต้องหาซื้อมาใช้ ซึ่งการหันมาลดการใช้กระดาษแผ่นเล็กๆ ในการจดบันทึกก็ทำให้เราลดการสร้างขยะทั่วไปจากที่บ้านได้ค่ะ ซึ่งถ้าจะให้ผู้เขียนแนะนำก็คือ หากต้องการจดบันทึกจริงและไม่ต้องซื้อกระดาษจดบันทึก แนะนำให้ใช้แอปพลิเคชันจดบันทึกบนสมาร์ทโฟน หรือใช้กระดานไวท์บอร์ดแทนก็ได้ค่ะ 6. เลือกซื้อสินค้าที่บรรจุภัณฑ์เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แนวทางนี้ถือเป็นวิธีการที่ช่วยลดปริมาณบรรจุภัณฑ์ที่เป็นกระดาษค่ะ เพราะเคยสังเกตไหมค่ะ สินค้าบางอย่างหีบห่อจากกระดาษเยอะมาก และนั่นคือสาเหตุที่ทำให้เรามีขยะจากกระดาษที่บ้านเยอะ ถ้าเราซื้อสินค้าชิ้นนั้น การหันมาเลือกสินค้าที่มีการห่อด้วยกระดาษเท่าที่จำเป็น เลือกซื้อสินค้าที่บรรจุในภาชนะรีไซเคิลได้ หรือสินค้าที่ไม่มีบรรจุภัณฑ์เลยก็ดี สิ่งเหล่านี้มีส่วนอย่างมากในการลดการเกิดขยะจากที่บ้านค่ะ 7. ใช้บิลอิเล็กทรอนิกส์ ตอนนี้มีหลายบริการที่เปิดให้เรากดรับใบเสร็จรับเงินแบบดิจิทัลนะคะ เช่น แอปเซเว่น เพราะผู้เขียนเองก็ได้ใช้บริการนี้เหมือนกันค่ะ ง่ายด้วย สะดวกด้วย และมีส่วนช่วยลดปริมาณใบเสร็จรับเงินแบบกระดาษค่ะ ดังนั้นอยากเชิญชวนให้คุณผู้อ่านลองไปสมัครรับบิลอิเล็กทรอนิกส์กันค่ะ หรือจะขอรับใบเสร็จรับเงินทางอีเมลก็ได้ ก็จะคล้ายๆ กันนะคะ คือปฏิเสธที่จะไม่รับใบเสร็จที่เป็นกระดาษแบบจับต้องได้ค่ะ 8. ส่งอีเมลแทนจดหมาย สมัยนี้การส่งจดหมายยังมีค่ะ ซึ่งการหันมาเลือกใช้การส่งทางอีเมล ถือว่ามีส่วนช่วยลดการใช้กระดาษนะคะ แถมการส่งเอกสารยังทำได้รวดเร็วมากขึ้นด้วย โดยบางคนก็น่าจะมีประสบการณ์บ้างแล้วในเรื่องนี้ ก็ถือว่าทำได้ดีค่ะ เพราะเอกสารอะไรก็สามารถส่งผ่านทางอีเมลได้หมดแล้วและง่ายด้วยค่ะ 9. ใช้ซองจดหมายหรือกระดาษปฏิทินหรือบิลกระดาษซ้ำ หากคุณผู้อ่านได้เคยสังเกตดีๆ นั้น จะพบว่า ซองจดหมายด้านใน กระดาษปฏิทินแต่ละเดือนด้านหลัง ยังเป็นพื้นที่ที่ขาวสะอาดและสามารถนำมาใช้ได้ค่ะ โดยการทำแบบนี้เป็นการลดการเกิดขยะจากกระดาษด้วยการนำมาใช้ซ้ำ การใช้ซ้ำก็คือเอามาใช้ทันทีด้วยแนวทางอื่น ซึ่งวิธีการที่ผู้เขียนเอากระดาษเหล่านี้มาใช้ก็คือ จะนำมาตัดเป็นแผ่นขนาดพอดีสำหรับจดบันทึกสิ่งต่างๆ ในชีวิตประจำวันค่ะ ที่สุดท้ายแล้วกระดาษหลังจดบันทึกก็ยังสามารถรวบรวมนำไปขายได้ค่ะ แต่อย่างที่บอกว่าให้รวบรวมให้ง่ายเวลาจะขาย ที่จะต้องไม่เปียกชื้นด้วย 10. สร้างจิตสำนึกให้คนรอบข้าง การบอกให้คนในบ้านมีส่วนร่วมด้วยช่วยกันลดการใช้กระดาษ มีส่วนช่วยกระตุ้นให้คนอื่นๆ ร่วมกันลดการใช้กระดาษได้ค่ะ โดยเราต้องแนะนำแนวทางที่เป็นไปได้และบอกถึงผลดีของการลดการใช้กระดาษ จากนั้นให้เริ่มจากจุดที่เป็นไปไดก่อนเสมอ ทำทุกวันและทำต่อเนื่อง สุดท้ายทุกคนในบ้านจะมีนิสัยการจัดการกระดาษในบ้านค่ะ ที่รวมทุกอย่างตั้งแต่ มีระเบียบวินัยในการใช้กระดาษมากขึ้น มองเห็นคุณค่าของกระดาษว่ายังขายได้ และมีใจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการไม่ทิ้งกระดาษเป็นขยะแบบเปล่าประโยชน์นะคะ ดังนั้นหากมีโอกาสควรแบ่งปันความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับการลดการใช้กระดาษให้กับคนครอบครัว เพื่อน หรือแม้แต่คนในชุมชนค่ะ และทั้งหมดนั้นคือตัวอย่างง่ายๆ ที่มีส่วนช่วยทำให้กระดาษถูกใช้อย่างคุ้มค่า และไม่ถูกทิ้งกลายเป็นขยะแบบที่ไปทำให้ขยะทั่วไปในถังขยะหน้าบ้านเต็มเร็วค่ะ ที่จะว่าไปวิธีการหลายข้อในนี้สามารถใช้ได้กับทุกคนบนโลกนี้นะคะ เพราะเรื่องสิ่งแวดล้อมเวลามีปัญหามักจะกลายเป็นปัญหาส่วนรวม คำนี้หมายความว่า ปัญหาจากขยะเวลาเกิดแล้วคนในชุมชนได้รับผลกระทบเหมือนกันหมด ไม่เหมือนปัญหาสุขภาพที่เวลามีคนหนึ่งปวดหัว เราจะไม่ได้รู้สึกแบบเขาด้วย ดังนั้นการหันมาใส่ใจเรื่องสิ่งแวดลอมด้วยการลดการใช้กระดาษ เป็นสิ่งที่ทุกคนควรให้ความสำคัญและมีความตระหนักค่ะ เพราะสิ่งแวดล้อมดีมีชัยไปกว่าครึ่ง เรื่องดูแลสิ่งแวดล้อมมีผลดีเสมอ ในขณะที่ถ้าสิ่งแวดล้อมมีปัญหาเราก็เดือดร้อนเหมือนกันค่ะ ที่ผู้เขียนเองก็ประยุกต์ใช้แนวทางข้างต้นทุกวัน ที่บางวันก็ได้ทำบางอย่างมาก แต่บางวันก็ไม่ได้ทำบางอย่างเลย เพราะไม่เกี่ยวข้อง แต่ตลอดเวลาในใจคิดดเรื่องการลดการใช้กระดาษตลอด และหาโอกาสลงมือทำให้มากที่สุดค่ะ ซึ่งก็อยากเชิญชวนให้ทุกคนได้ลองนำแนวทางนี้บทความนี้ไปปรับใช้กันค่ะ เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดีกว่าจากสองมือเรา และเราทุกคนทำได้ค่ะ โดยให้เริ่มจากเรื่องใกล้ตัว และเริ่มจากจุดที่เป็นไปได้ ซึ่งผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หากชอบบทความแบบนี้อีก ก็อย่าลืมกดติดตามหรือกดบุ๊กมาร์กหน้าโปรไฟล์ไว้นะคะ เพราะจะได้ไม่พลาดบทความใหม่ๆ ที่จะได้นำมาเผยแพร่ในเร็วๆ นี้ค่ะ เครดิตภาพประกอบบทความ ภาพหน้าปก โดย Tara Winstead จาก Pexels ภาพประกอบเนื้อหาโดยผู้เขียน ภาพที่ 3 จาก แอป 7-Eleven TH ออกแบบภาพหน้าปกใน Canva เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา : พยาบาลศาสตรบัณฑิต (B.N.S.) จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม); M.P.H. (Environmental Health) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ : สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การจัดการน้ำเสียและสิ่งปฏิกูล บทความอื่นที่น่าสนใจโดยผู้เขียน https://news.trueid.net/detail/Yg9y61ozbXog https://news.trueid.net/detail/oajwBkkj8qpQ https://news.trueid.net/detail/Ze6lNNmyZbjD เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !