ญี่ปุ่นเผชิญโควิดระบาดรุนแรง วันเดียวติดเชื้อทะลุ 41,000 คน
วันนี้ (20ม.ค.65) รัฐบาลญี่ปุ่นตัดสินใจประกาศให้กรุงโตเกียวและพื้นที่อื่นๆ อีก 12 แห่ง คือจังหวัดไซตามะ, ชิบะ, คานางาวะ, กุมมะ, นีงาตะ, ไอจิ, กิฟุ, มิเอะ, คางาวะ, นางาซากิ, คูมาโมโตะ และมิยาซากิ อยู่ภายใต้มาตรการเกือบเท่าภาวะฉุกเฉินนับตั้งแต่วันศุกร์ที่ 21 มกราคม ไปจนถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ หลังยอดผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ทั่วประเทศพุ่งทะยานขึ้นไปถึง 41,487 รายในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา เฉพาะในกรุงโตเกียวพบผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็นสถิติใหม่กว่า 8,600 ราย ในขณะที่เชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่โอมิครอนกำลังแพร่ระบาดติดเชื้ออย่างรวดเร็วไปทั่วประเทศ
การตัดสินใจประกาศใช้มาตรการเกือบเท่าภาวะฉุกเฉิน จะเปิดทางให้สำนักงานบริหารมหานครโตเกียวและสำนักงานบริหารในพื้นที่อีก 12 จังหวัดสามารถสั่งปิดร้านอาหาร ผับบาร์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดรอบใหม่ของโรคโควิด-19 ซึ่งนับเป็นการระบาดระลอกที่ 6 ในญี่ปุ่น ขณะที่นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ กล่าวระหว่างการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ของรัฐบาลว่า การประกาศให้กรุงโตเกียวและอีก 12 จังหวัดอยู่ภายใต้มาตรการเกือบเท่าภาวะฉุกเฉินเพื่อต่อสู้กับเชื้อการระบาดของโควิด-19 รัฐบาลหวังว่าจะเอาชนะการระบาดครั้งนี้ได้ด้วยการเตรียมพร้อม และการใช้มาตรการที่เหมาะสมโดยไม่หวั่นวิตกเกินไป
ส่วน โอมิ ชิเงรุ หัวหน้าคณะที่ปรึกษาด้านไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ของรัฐบาลญี่ปุ่นระบุว่า มาตรการควบคุมต่างๆ จำเป็นต้องได้รับการกำหนดให้สามารถรับมือสายพันธุ์โอมิครอนได้ และว่าความพยายามจำกัดจำนวนคนที่มารวมตัวกัน จะเป็นหัวใจในการป้องกันไม่ให้ไวรัสแพร่ระบาดมากยิ่งขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากผลการวิเคราะห์เส้นทางการติดเชื้อไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์โอมิครอนแสดงให้เห็นว่า การติดเชื้อส่วนใหญ่เกิดขึ้นเมื่อผู้คนจำนวนมากมารวมตัวกัน รับประทานอาหารร่วมกัน และพูดคุยกันเสียงดังในสถานที่ที่อากาศถ่ายเทไม่ดี พร้อมกล่าวชี้ว่ามาตรการต้านไวรัสควรมุ่งเน้นที่สถานการณ์ที่มีความเสี่ยงสูงลักษณะนี้
ภาพจาก AFP