รู้จัก "โยชิฮิเดะ สึกะ" ว่าที่นายกฯคนใหม่ของญี่ปุ่น

วันนี้( 14 ก.ย.63) ผลการเลือกตั้งประธานพรรคเสรีประชาธิปไตย หรือ แอลดีพีวันนี้ ปรากฏว่า นาย "โยชิฮิเดะ สึกะ" เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น มีชัยเหนือคู่แข่ง 2 คน คือ นายชิเกรุ อิชิบะ อดีตรัฐมนตรีกลาโหม และนายฟูมิโอะ คิชิดะ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ 

โดยนายโยชิฮิเดะ สึกะ กวาดคะแนนเสียง 377 เสียง จากจำนวนทั้งหมด 534 เสียง ชัยชนะครั้งนี้ ยังส่งผลให้นายโยชิฮิเดะ สึกะ ได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นคนใหม่โดยอัตโนมัติต่อไป จนครบวาระของนายชินโซ อาเบะ ที่ประกาศลาออก เนื่องจากปัญหาสุขภาพ ก่อนจะมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรปลายปีหน้า

นายโยชิฮิเดะ สึกะ วัย 71 ปี ซึ่งดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นในรัฐบาลนายอาเบะมานานเกือบ 8 ปี ถูกจับตาจากนักวิเคราะห์การเมืองทันทีว่าคือตัวเต็ง ที่จะได้ขึ้นมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่น เนื่องจากนายโยชิฮิเดะ สึกะถือเป็น มือขวาของนายกรัฐมนตรีอาเบะ ซึ่งมอบความไว้วางใจและทำงานในตำแหน่งเลขาธิการคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลมาตั้งแต่ปี 2555 

นอกจากจะได้รับการสนับสนุนจากนายอาเบะเต็มที่แล้ว นายโยชิฮิเดะ สึกะ ยังได้การหนุนหลังจากทั้งนายทาโร อาโซ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีคลัง, นายโทชิฮิโร นิเคอิ เลขาธิการพรรคแอลดีพี รวมทั้งกลุ่มการเมืองใหญ่สุดในพรรคแอลดีพีอีกถึงสองกลุ่มด้วย

นายโยชิฮิเดะ สึกะ เริ่มต้นชีวิตการเมือง ด้วยการทำหน้าที่สมาชิกสภาเมืองโยกาฮามา เมื่อเมษายน 2530 ถือเป็นนักการเมืองคนแรกของญี่ปุ่นที่บุกเบิกริเริ่มการปราศรัยหาเสียงบริเวณหน้าสถานีรถไฟ ซึ่งมีประชาชนสัญจรไปมาคับคั่ง จนได้กลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติในการหาเสียงของผู้สมัครลงเลือกตั้งในญี่ปุ่นมาจนถึงปัจจุบัน จากนั้นคว้าชัยชนะได้เป็น ส.ส.ในเขตคานากาวะที่ 2 ของเมืองโยโกฮามาในปี 2539 ตามด้วยการเลือกตั้งในปี 2546 และ 2548 ที่เขารักษาเก้าอี้ส.ส. ได้เหมือนเดิม 

จากนั้น นายโยชิฮิเดะ สึกะ ได้รับความไว้วางใจให้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมาต่อเนื่อง จนกระทั่งในเดือนตุลาคม 2554 ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นประธานองค์กรพรรคแอลดีพีและการเลือกตั้งของพรรค โดยในเดือนกันยายน 2555 นายโยชิฮิเดะ สึกะ จึงรับการแต่งตั้งให้นั่งเก้าอี้รักษาการเลขาธิการพรรคแอลดีพี

เกือบ 8 ปีที่ผ่านมา นายโยชิฮิเดะ สึกะ ทำหน้าที่เป็นโฆษกประจำตัวของนายอาเบะ ในการส่งสารไปถึงชาวญี่ปุ่นและชาวโลกในทุกๆเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นนโยบายทั้งในประเทศหรือต่างประเทศ ไปจนถึงนโยบายเศรษฐกิจ การทดสอบขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ และการจัดการรับมือกับการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโควิด-19

นอกจากนั้น นายโยชิฮิเดะ สึกะ ยังได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ประกาศชื่อรัชสมัยใหม่ 'เรวะ' ที่เริ่มต้นในวันที่ 1 พฤษภาคม 2562 เมื่อสมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะขึ้นครองราชย์สืบต่อจากพระราชบิดา อดีตสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะที่ทรงสละราชบัลลังก์

อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์และผู้สันทัดกรณีด้านการเมืองญี่ปุ่นมองว่า นายโยชิฮิเดะ สึกะ ยังไม่มีความโดดเด่นมากพอหรือแสดงให้เห็นว่าพร้อมจะเป็นตัวของตัวเอง เพราะแม้เขาจะทำงานใกล้ชิดนายอาเบะมานาน แต่ทั้งคู่มีภูมิหลังต่างกันมาก นายอาเบะอยู่ในตระกูลนักการเมืองระดับประเทศ ขณะที่นายโยชิฮิเดะ สึกะ เป็นลูกเกษตรกร หาเลี้ยงตัวเองก่อนตัดสินใจลงสนามการเมืองท้องถิ่นเมืองโยโกฮามาในปี 2530 ตระเวนเคาะประตูขอคะแนนจนรองเท้าพังไป 6 คู่

ศาสตราจารย์คัตซูโอะ ซูซุกิ อาจารย์การเมืองระหว่างประเทศมหาวิทยาลัยฮอกไกโดชี้ว่า นายโยชิฮิเดะ สึกะ ถูกมองว่าเป็นเพียงตัวแทนของนายอาเบะที่ประกาศเมื่อเดือนก่อนว่าจะลาออกเพราะมีปัญหาสุขภาพ 

ขณะที่นายแบรด กลอสเซอร์แมน ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองญี่ปุ่นมองว่า นายโยชิฮิเดะ สึกะ ยังไม่แสดงให้เห็นว่าเป็นตัวของตัวเอง ไม่อยู่ภายใต้อิทธิพลของอาเบะหรือกระแสหลักในพรรค ประวัติการสร้างเนื้อสร้างตัวด้วยตัวเองเป็นเรื่องดี แต่อาจไม่มากพอที่จะทำให้เขามีความโดดเด่นในฐานะผู้นำประเทศ 

นายโยชิฮิเดะ สึกะ ประสบความสำเร็จในฐานะโฆษกรัฐบาลที่สื่อสารกับประชาชนโดยไม่เกินหน้าเกินตานายกรัฐมนตรี แต่การเป็นผู้นำประเทศต้องมีเสน่ห์และวาทศิลป์มากกว่านั้น จึงยังไม่มีภาพลักษณ์ผู้นำที่ชาวญี่ปุ่นพร้อมให้การสนับสนุน

ด้านสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นระบุว่า ระบุว่า นายโยชิฮิเดะ สึกะ มีภารกิจหนักหลายอย่างรออยู่หลังก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่น ทั้งเรื่องการควบคุมโรคโควิด-19 วิกฤตเศรษฐกิจ หนี้สินรัฐบาลมหาศาล ประชากรสูงวัย ความไม่เสมอภาคทางเพศในการทำงาน ญี่ปุ่นจะต้องเลือกตั้งทั่วไปครั้งใหม่ภายในเดือนตุลาคมปีหน้า แต่คนในรัฐบาลเผยว่าอาจมีการเลือกตั้งก่อนกำหนดอย่างเร็วที่สุดในเดือนหน้า

เกาะติดข่าวที่นี่