บาทจ่อ 31 บ.หวัง ธปท. สู้ BGRIM-GPSC-GULF รับ

#ค่าเงินบาท #ทันหุ้น - คลังรับคุยผู้ว่าธปท. กรณีบาทแข็ง หวั่นโครงสร้างเศรษฐกิจไทยรับไม่ได้ ด้านนักวิชาการมองลดดอกเบี้ยแก้เกม ขีดเส้นระดับ 31 บาท เป็นจุดต้องแทรกแซง เชื่อปลายปีอยู่ที่ 31.50 บาท นักวิเคราะห์มองบาทแข็งได้อีก BGRIM, GPSC, และ GULF เด่น
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่า ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นมาก เป็นเพราะสหรัฐปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลง ซึ่งประเด็นนี้ได้หารือกับผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แล้ว โดยบอกว่า เงินบาทที่แข็งค่ามากเกินไปนั้น โครงสร้างเศรษฐกิจไทยรับไม่ได้ เพราะไทยเป็นประเทศที่มียอดการส่งออกสุทธิ
“ได้คุยกับผู้ว่า ธปท. เข้าใจว่า จะคุยในการประชุมนโยบายการเงิน เราทำงานประสานกัน สภาพเศรษฐกิจเป็นแบบนี้ ค่าเงินบาทที่แข็งเกินไปจะกระทบแบบรับไม่ได้ เนื่องจากเราเป็น Net Export การที่ค่าเงินผันผวนเศรษฐกิจไทยเราไม่พร้อม”
ในส่วนคลังได้มอบนโยบายข้าราชการไปดูว่าช่วยอะไรได้บ้าง เช่น เร่งให้รัฐวิสาหกิจและส่วนราชการนำเข้าสินค้า และให้สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะเร่งคืนหนี้ต่างประเทศ ซึ่งไทยไม่ได้มีหนี้ต่างประเทศเยอะ แต่ก็ให้ไปช่วยดูเพื่อเป็นกลไกช่วยเสริม
@ ต้นเหตุบาทแข็ง
ดร.จิติพล พฤกษาเมธานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่ผลิตภัณฑ์ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจและการลงทุน เปิดเผยกับ "ทันหุ้น" ว่า สถานการณ์ค่าเงินบาทในปัจจุบันกำลังแข็งค่ามากกว่าที่เคยประเมินไว้เล็กน้อยจาก 3 ตัวแปร ประกอบด้วย 1.การลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ หรือ Fed ซึ่งจะส่งต่อมายังแนวโน้มโอกาสลดดอกเบี้ยนโยบายของไทยด้วย 2. การเมืองภายในประเทศ โดยเฉพาะการยุบสภาที่นำไปสู่การเลือกตั้งที่เร็วขึ้น และ 3.การเข้าลงทุนทองคำกลับมาได้รับความนิยมอีกรอบ สะท้อนจากราคาปรับตัวสูงขึ้นตามทิศทางดอกเบี้ยที่ลดลงและเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่า
ผลจากการที่ค่าเงินบาทแข็งนอกจากจะเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะใช้เป็นเหตุผลในการพิจารณาลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในสัปดาห์นี้ สำหรับค่าเงินบาทคาดว่าปลายปีนี้ประเมินจะไปอยู่ที่ 31.50 บาทต่อดอลลาร์
แต่หากบาทยังแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องอีกระดับหนึ่ง นอกเหนือจากความจำเป็นที่ธนาคารแห่งประเทศไทยต้องส่งสัญญาณว่าจะช่วยบรรเทาสถานการณ์ได้หรือไม่ ยังจะต้องเข้ามาต่อสู้กับสถานการณ์เพื่อป้องกันไม่ให้แข็งค่าไปมากกว่านี้ คือ ระดับ 31 บาท
@ หยุดเงินไหลออก
ผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการค้ายังไม่นับว่ารุนแรงนักเพราะ 1. ภาคการส่งออกในปัจจุบันส่วนใหญ่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับค่าเงินมากนัก และ 2. ในทางกลับกันมูลค่าการนำเข้ามีอัตราการเติบโตสูงกว่าการส่งออก ดังนั้นในภาพรวมผลเชิงลบจึงถูกหักล้างด้วยผลเชิงบวกไปพอสมควร
ในมุมตลาดทุนการแข็งค่าของเงินบาทอาจทำให้การไหลออกของเงินทุนที่เกิดจากการขายหุ้นลดลงได้ อย่างไรก็ตาม การที่จะดึงดูดเงินทุนไหลเข้าให้โดดเด่นนั้นอาจเป็นเรื่องยาก เนื่องจากแนวโน้มผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนต่างๆ ไม่ค่อยดีนัก เงินทุนอาจไหลเข้าจะไปหาในฝั่งของตราสารหนี้ก่อน
@ กลยุทธ์ลุยหุ้น
นายกรรณ์ หทัยศรัทธา หัวหน้ากลยุทธ์การลงทุนและนักเศรษฐศาสตร์ สายงานวิจัยลูกค้ารายย่อย บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด หรือ CGSI เปิดเผยกับ "ทันหุ้น" ว่า น่าสังเกตที่หลังจากค่าเงินบาทหลุดบริเวณ 32 บาทต่อดอลลาร์ ก็ร่วงลงมารวดเร็วมาก จึงตั้งสมมุติฐานความเป็นไปได้ว่า ระยะนี้ธนาคารแห่งประเทศไทยกำลังเฝ้าระวัง และพร้อมแทรกแซงต่อสู้ค่าเงินอีกครั้งบริเวณ 31 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่ CGSI คาดการณ์เงินบาทประเมินทิศทางเงินบาทจะแข็งขึ้นอีกได้ทั้งในช่วงสิ้นปีนี้และปีหน้า
การแข็งค่าของเงินบาทนี้จะเกิดขึ้นท่ามกลางเศรษฐกิจไทยในปีหน้าจะยังอยู่ในภาวะย่ำแย่ ซึ่งเป็นความท้าทายเนื่องจากจะส่งผลกระทบในเชิงลบต่อทั้งภาคการส่งออกและภาคการท่องเที่ยว ซึ่งในมุมกลยุทธ์การลงทุนสำหรับผู้ที่ยังต้องการลงทุนในหุ้นไทยแนะนำกลุ่มโรงไฟฟ้าโดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทที่มี หนี้ต่างประเทศจำนวนมาก การที่เงินบาทแข็งค่าขึ้นจะทำให้ภาระหนี้สกุลเงินต่างประเทศลดลง ตัวอย่างหุ้นที่ได้รับประโยชน์ได้แก่ BGRIM, GPSC, และ GULF
ทว่าในหุ้นที่ควรต้องเฝ้าระวังคือ กลุ่มส่งออก เช่น TU, ITC, DELTA, HANA และ KCE เหล่านี้เสี่ยงการขาดทุนค่าเงิน
แต่ยังมีนักลงทุนไทยอีกกลุ่มที่นิยมออกไปลงทุนหุ้นต่างประเทศตอนนี้กำลังได้เปรียบเนื่องจากเงินบาทสามารถแลกเป็นเงินดอลลาร์ได้ในจำนวนที่มากขึ้น แต่หุ้นที่ถือครองอยู่แล้วหากต้องการทำกำไรดึงกลับมายังประเทศไทยจำเป็นต้องเผชิญกับการขาดทุนค่าเงินในระดับที่สูงเช่นกัน
@กรอบสัปดาห์นี้
ด้านกรุงศรีโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เปิดสัปดาห์นี้เงินบาทซื้อขายใกล้ระดับแข็งค่าสุดในรอบกว่า 4 ปี โดยทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 31.40-32.00 บาทต่อดอลลาร์
โดยเงินบาทเพิ่งแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 3 เดือน จากเงินดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับทุกสกุลเงินสำคัญยกเว้นเงินเยน หลังเฟดปรับลดดอกเบี้ยลง พร้อมประกาศมาตรการ Reserve Management Purchases ผ่านการซื้อตราสารระยะสั้น
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
