ความคืบหน้าคลื่นความร้อนรุนแรงกระหน่ำแคนาดาและสหรัฐฯ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วเกือบ 500 คน
Canada: ความคืบหน้าคลื่นความร้อนรุนแรงกระหน่ำแคนาดาและสหรัฐฯ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วเกือบ 500 คน แม้จะลดความรุนแรงลง แต่อุณหภูมิจะยังสูงต่อเนื่องตลอดสัปดาห์
นักภูมิอากาศของรัฐบาลแคนาดา แถลงในวานนี้ (30 มิถุนายน) ว่า คลื่นความร้อนรุนแรงในแคนาดา ซึ่งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์เท่าที่มีการบันทึก ลดลงบ้างเล็กน้อย แต่ก็มองว่าตลอดสัปดาห์นี้ น่าจะยังคงทำลายสถิติอุณหภูมิสูงในช่วงหลายสิบปีก่อนได้
ล่าสุด ระหว่างวันที่ 25-29 มิถุนายน มีผู้เสียชีวิตกะทันหันและไม่คาดคิดแล้ว 486 คน ในรัฐบริติชโคลัมเบีย ชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก มากกว่าค่าเฉลี่ยในช่วง 5 วัน อยู่ที่ประมาณ 320 คน
คลื่นความร้อนได้เผาทำลายพืชผลทางการเกษตรในทุ่งหญ้าแพร์รี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เกษตรกรปลูกข้าวสาลีและคาโนลามากที่สุดในโลก
นอกจากนี้ คลื่นความร้อนยังดันราคาก๊าซธรรมชาติในแคนาดา ประเทศผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติรายใหญ่สุดอันดับสี่ของโลกเพิ่มสูงขึ้น และยังเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดไฟป่าด้วย
เมืองลิตตัน ภาคกลางของรัฐบริติชโคลัมเบีย ทำลายสถิติอุณหภูมิความร้อนที่สุดตลอดกาลของแคนาดา โดยอุณหภูมิพุ่งสูงขึ้นทำสถิติใหม่ถึง 3 ครั้งในสัปดาห์นี้ จนถึงเมื่อวันอังคาร (29 มิถุนายน) ที่ผ่านมา อยู่ที่ 49.6 องศาเซลเซียส ส่วนอุณหภูมิสูงสุดในแคนาดา อยู่ที่ 45 องศาเซลเซียส ในรัฐซัสแคตเชวัน เมื่อปี 1937
อย่างไรก็ตาม เดวิด ฟิลิปส์ นักภูมิอากาศระดับสูงของสำนักงานสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแคนาดา (Environment and Climate Change Canada) ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐ กล่าวว่า คลื่นความร้อนที่ทอดยาวจากรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ จนถึงหลายพื้นที่ทางภาคเหนือของแคนาดา กำลังก่อนกำลังลง ขณะมันเคลื่อนตัวไปทางตะวันออก แต่ก็ยังรุนแรงเพียงพอที่จะทำสถิติใหม่
ฟิลิปส์ กล่าวว่า ยังไม่มีความชัดเจนว่า อะไรเป็นสาเหตุหลักของการเกิดคลื่นความร้อนรุนแรงครั้งนี้ แต่การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ดูเหมือนจะมีส่วนสนับสนุน ทำให้คลื่นความร้อนกินระยะเวลานาน รุนแรงผิดปกติและกำลังทำให้อุณหภูมิสูงขึ้นเป็นสถิติใหม่เร็วกว่าหนึ่งเดือน จากช่วงเวลาที่ร้อนที่สุดของปีตามปกติ