ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ภาษา เป็นสิ่งสำคัญมากในปัจจุบัน การรู้ภาษาต่างประเทศจะเพิ่มโอกาสทั้งด้านการเรียนและการทำงานให้กับเราอย่างมาก แต่คนส่วนใหญ่มักจะพูดได้เพียง 1-2 ภาษาเท่านั้น และส่วนมากมักเรียนภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สอง แต่บางครั้งการรู้เพียงภาษาแม่กับภาษาอังกฤษอาจจะยังไม่เพียงพอ การเรียนภาษาที่สามจะทำให้เราได้เปรียบคนรอบข้างมากขึ้นกว่าเดิม และอาจจะทำให้เราได้รับโอกาสดี ๆ ที่เราคาดไม่ถึงก็ได้ แต่จะเรียนภาษาไหนดีล่ะ วันนี้ผู้เรียนขอแนะนำ 10 ภาษาน่าเรียนไว้สำหรับเป็นภาษาที่สาม มีภาษาไหนบ้าง ไปดูกันเลย 1.ภาษาจีนกลางประเทศจีนถือได้ว่าเป็นประเทศมหาอำนาจรองจากสหรัฐอเมริกา และในอนาคตอาจจะแซงขึ้นไปเป็นประเทศมหาอำนาจอันดับหนึ่งในอีกไม่กี่สิบปีจากการพัฒนาทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ภาษาจีนกลางเป็นภาษาที่มีคนใช้มากกว่าพันล้านคนกระจายอยู่ทั่วโลก ถ้าพูดภาษาจีนได้จะเพิ่มโอกาสได้อย่างมากโดยเฉพาะด้านธุรกิจ นอกจากนี้ภาษาจีนกลางยังเป็น 1 ใน 6 ภาษาที่ใช้ในองค์การสหประชาชาติ2.ภาษาสเปนหลายประเทศในแถบละตินอเมริกาใช้ภาษาสเปนเป็นภาษาราชการ แม้ในประเทศไทยจะไม่ค่อยได้ใช้ภาษาสเปนนัก แต่ถ้าได้ไปทำงานในต่างประเทศ ภาษาสเปนจะเพิ่มความโดดเด่นให้กับโปรไฟล์ของเราได้มากเลยทีเดียว ภาษาสเปนเป็นภาษาที่มีคนใช้มากกว่า 500 ล้านคน นอกจากนี้ภาษาสเปนเป็น 1 ใน 6 ภาษาที่ใช้ในองค์การสหประชาชาติ3.ภาษาฝรั่งเศสภาษาฝรั่งเศสถูกใช้เป็นภาษาราชการในหลายประเทศทั่วโลก ถึงประเทศฝรั่งเศสจะไม่ได้เป็นประเทศใหญ่มาก แต่ก็มีขนาดเศรษฐกิจขนาดใหญ่ แบรนด์หรู ๆ หลายแบรนด์อย่าง louis vuitton ก็มาจากฝรั่งเศสทั้งนั้น และถ้าเราพูดภาษาฝรั่งเศสกับคนฝรั่งเศสจะทำให้เราได้การปฏิบัติที่ดีกว่าพูดภาษาอื่นด้วย นอกจากนี้ภาษาฝรั่งเศสยังเป็น 1 ใน 6 ภาษาที่ใช้ในองค์การสหประชาชาติ4.ภาษาฮินดีถึงคนอินเดียจะใช้ภาษาอังกฤษได้ดี แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะพูดภาษาอังกฤษได้ ถึงพูดภาษาอังกฤษได้แต่ก็อาจจะฟังยากเพราะสำเนียงของคนอินเดีย การเรียนภาษาฮินดีที่เป็นภาษาราชการของดินเดียด้วยจะทำให้สามารถสื่อสารกับคนอินเดียได้มากขึ้น จำนวนผู้ที่ใช้ภาษาฮินดีมีมากกว่า 500 ล้านคน 5.ภาษาเกาหลีประเทศเกาหลีใต้มีความเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง แบรนด์สินค้าดัง ๆ อย่าง Samsung LG หรือสื่อบันเทิงทั้งซีรี่ส์ เพลง หรือแฟชั่นก็ได้รับความนิยมสูงโดยเฉพาะในประเทศไทย หลาย ๆ บริษัทก็มีบริษัลูกในประเทศไทย คนที่สามารถพูดภาษาเกาหลีจึงเป็นที่ต้องการของบริษัทต่าง ๆ เพื่อให้ติดต่อกับบริษัทแม่ที่ประเทศเกาหลี 6.ภาษาเวียดนามเชื่อว่าหลาย ๆ คนมองข้ามประเทศเวียดนามไป แต่ที่จริงเวียดนามเป็นประเทศที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจอันดับ 1 ของอาเซียน การลงทุนต่าง ๆ ในธุรกิจก็เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เรียกได้ว่าเป็นจุดหมายการลงทุนแห่งใหม่ของอาเซียนเลยก็ว่าได้ การพูดภาษาเวียดนามได้ช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจและการทำงานอย่างมาก7.ภาษาอาหรับภาษาอาหรับเป็นภาษาที่นิยมใช้ในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาตอนเหนือ ภาษาอาหรับมีจำนวนผู้ใช้ประมาณ 400 ล้านคน สำหรับคนไทยอาจจะไม่ค่อยนิยมเรียนภาษาอาหรับนัก แต่ถ้าหากพูดภาษาอาหรับได้ จะสามารถหางานได้อีกเยอะ เพราะการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศภูมิภาคตะวันออกกลางและมีนักท่องเที่ยวจากอาหรับจำนวนมากที่เข้ามาเที่ยวในไทยในแต่ละปีทำให้ต้องการแรงงานที่ใช้ภาษาอาหรับได้มากขึ้น นอกจากนี้ภาษาอาหรับเป็น 1 ใน 6 ภาษาที่ใช้ในองค์การสหประชาชาติ8.ภาษาญี่ปุ่นสำหรับหลายคน ๆ ญี่ปุ่นถือเป็นประเทศในฝัน ทั้งเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า เศรษฐกิจเติบโตต่อเนื่อง ประชากรมีระเบียบ และวัฒนธรรมที่โด่นเด่น การได้ไปญี่ปุ่นก็อาจจะเป็นความฝันของหลาย ๆ คน ประเทศไทยเองก็มีบริษัทลูกจากญี่ปุ่นจำนวนมาก ถ้าหากพูดภาษาญี่ปุ่นได้อย่างคล่องแคล่ว รับรองได้ว่าโอกาสดี ๆ ต้องเข้ามาหาแน่นอน หรืออาจจะได้ไปทำงานในประเทศญี่ปุ่นเลยด้วยซ้ำ9.ภาษารัสเซียรัสเซียถือเป็นหนึ่งในประเทศมหาอำนาจของโลก นอกจากรัสเซียที่ใช้ภาษารัสเซียแล้ว ยังมีอีกหลายประเทศที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียตก็ใช้ภาษารัสเซียเช่นกัน รวม ๆ แล้วมีคนพูดมากกว่า 270 ล้านคน และที่สำคัญคือคนรัสเซียไม่ค่อยชอบพูดภาษาอังกฤษนัก ดังนั้นใครต้องทำธุรกิจ เรียนต่อ หรือทำอะไรที่เกี่ยวข้องกับคนรัสเซียก็ควรที่จะต้องเรียนภาษารัสเซียไว้ด้วย นอกจากนี้ภาษารัสเซียเป็น 1 ใน 6 ภาษาที่ใช้ในองค์การสหประชาชาติ10.ภาษาเยอรมันปัจจุบันประเทศเยอรมันมีบทบาทสำคัญในยุโรปอย่างมากทั้งด้านด้านเศรษฐกิจ การศึกษา การเมือง นอกจากเยอรมันแล้วยังมีอีกหลายประเทศในยุโรปใช้ภาษาเยอรมันในการสื่อสาร ถ้าหากพูดภาษาเยอรมันได้รับประกันได้เลยว่าโอกาสการทำงานกับบริษัทต่างชาติต้องเข้ามาหาแน่นอน ส่วนตัวของผู้เขียนเองก็กำลังเรียนภาษาญี่ปุ่นภาษาที่สามเหมือนกัน ถึงตอนแรกอยากจะเรียนภาษาสเปนเพราะว่าสามารถเอาไปใช้ได้หลายประเทศ และก็ชอบวิธีการออกเสียงของภาษาสเปนด้วย แต่พอเรียนแล้วก็รู้สึกว่าภาษาสเปนไม่ค่อยเหมาะกับตัวเองเท่าไร ก็เลยเปลี่ยนมาเรียนภาษาญี่ปุ่นแทน เพราะผู้เขียนชอบประเทศญี่ปุ่นเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว ตอนแรกที่เรียนภาษาญี่ปุ่นก็แอบรู้สึกท้อเหมือนกัน เพราะไวยากรณ์ของภาษาญี่ปุ่นต่างจากภาษาไทยพอสมควร ตัวคันจิที่แสนจะจำยาก แล้วที่สำคัญคือวัฒนธรรมของญี่ปุ่นกับไทยที่เหมือนจะคล้ายกัน แต่จริงๆแล้วก็มีข้อแตกต่างกันทำให้รูปภาษาที่ใช้ต่างกันด้วย เช่น เรื่องของความสุภาพ ในภาษาไทยส่วนมากจะใช้คำว่า ครับ/ค่ะ เพื่อเพิ่มความสุภาพ แต่ในภาษาญี่ปุ่นจะมีกริยารูปสุภาพกับแบบกันเอง บางรูปประโยคจะใช้กับเพื่อน บางรูปประโยคจะใช้กับคนที่อาวุโสกว่า เล่นเอาหัวหมุนหลายรอบไปเลย แต่พอเรียนไปสักพักก็จะเริ่มชินแล้วก็เรียนไปได้เรื่อย ๆ แบบไม่รู้สึกเหนื่อยสำหรับใครที่อ่านมาจนจบแล้วยังไม่รู้ว่าจะเรียนภาษาไหนดี ลองเลือกจากความชอบของตัวเองดูก่อนว่า เราชอบอะไร หรือเราอยากทำอะไร พอหาสิ่งที่ชอบได้แล้วค่อยหาภาษาที่เหมาะกับตัวเอง อาจจะเป็นภาษาอื่นนอกเหนือจากที่ผู้เขียนรวบรวมมาให้ก็ได้ เพราะโลกของเรามีภาษามากกว่าร้อยภาษา ต้องมีภาษาที่เข้ากับผู้อ่านแต่ละคนแน่นอนสุดท้าย สำหรับใครหลายคนที่กำลังรู้สึกว่าการเรียนภาษาใหม่ทำให้รู้สึกเหนื่อย รู้สึกท้อ รู้สึกว่าภาษาใหม่มันยากเกินไป จนบางครั้งถึงขั้นเลิกเรียนไปเลย ผู้เขียนอยากจะบอกว่าอย่าเพิ่งรู้สึกท้อไปเลย เพราะเวลาที่เราเริ่มเรียนภาษาใหม่ก็มักจะเกิดความรู้สึกแบบนี้เกือบแทบทุกคนเพราะไม่ใช่ภาษาที่เราใช้มาตั้งแต่เกิด วิธีที่จะช่วยลดความรู้สึกแบบนี้คือการใช้ภาษาอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการฟัง พูด อ่าน เขียน ถ้าหากใช้บ่อย ๆ พยายามให้ภาษาใหม่เข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้น ความรู้สึกเหนื่อยหรือท้อก็จะหายไปเอง แล้วเราก็จะสามารถเรียนภาษาได้สนุกมากขึ้นภาพปก โดย canvaภาพประกอบจาก unsplash.com ภาพที่ 1 โดย Ezreal Zhang / ภาพที่ 2 โดย Daniel Prado / ภาพที่ 3 โดย Anthony Choren /ภาพที่ 4 โดย Naveed Ahmed / ภาพที่ 5 โดย Daniel Bernard / ภาพที่ 6 โดย Sam Williams / ภาพที่ 7 โดย Maryam B / ภาพที่ 8 โดย Colton Jones / ภาพที่ 9 โดย François DALLAY /ภาพที่ 10 โดย Maheshkumar Painam🌟อ่านจบแล้วเข้าไปพูดคุยในคอมมูนิตี้ที่นำเทรนด์ที่สุดในปีนี้ที่ TrueID Community 🪄✨เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !