รีเซต

ญี่ปุ่นเทงบ1.55 ล้านล.ซื้ออาวุธทันสมัย

ญี่ปุ่นเทงบ1.55 ล้านล.ซื้ออาวุธทันสมัย
มติชน
21 ธันวาคม 2563 ( 17:44 )
44

เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม รัฐบาลญี่ปุ่นของนายกรัฐมนตรี โยชิฮิเดะ สึงะ แถลงว่ารัฐบาลได้ให้ความเห็นชอบการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายด้านกลาโหมเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 9 สำหรับใช้เป็นงบประมาณในการพัฒนาฝูงบินรบแบบสเตลธ์ และจรวดพิสัยไกลต่อต้านเรือผิวน้ำ ของกองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่น เพื่อวัตถุประสงค์ในการรับมือกับพลานุภาพทางทหารที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ของจีน

 

ทั้งนี้ งบประมาณกลาโหมสำหรับปีงบประมาณใหม่ซึ่งจะเริ่มต้นในเดือนเมษายนปี 2564 นั้นจะสูงมากเป็นประวัติการณ์ถึง 5.43 ล้านล้านเยน หรือราว 1.55 ล้านล้านบาท นับเป็นการจัดสรรงบประมาณเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 1.1 เปอร์เซ็นต์และเป็นการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 9 ติดต่อกัน และแม้ว่า งบประมาณใหม่นี้ยังจำเป็นต้องผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา แต่การที่พรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) ครองเสียงข้างมากอยู่ในรัฐสภาทำให้เชื่อว่าร่างงบประมาณดังกล่าวสามารถผ่านความเห็นชอบออกมาใช้บังคับได้อย่างแน่นอน

 

รัฐบาลนายกรัฐมนตรีสึงะ ยังคงดำเนินการขยายอานุภาพทางทหารต่อเนื่องจากรัฐบาลภายใต้การนำของนายชินโสะ อาเบะ ซึ่งลาออกเพราะปัญหาสุขภาพไปก่อนหน้านี้ เพื่อจัดหาเครื่องบินรบ, จรวด และ เรือบรรทุกเครื่องบินใหม่ๆ พิสัยทำการไกลขึ้นและมีศักยภาพสูงขึ้นเพียงพอต่อการรับมือกับชาติที่อาจเป็นศัตรูในอนาคตซึ่งรวมถึงเพื่อนบ้านในเอเชียด้วยกันอย่างประเทศจีนที่เตรียมจัดสรรงบประมาณทางทหารเพิ่มขึ้นในปีนี้ถึง 6.6 เปอร์เซ็นต์ แต่นับเป็นการเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดในรอบ 3 ทศวรรษที่ผ่านมา

 

ญี่ปุ่นกำลังจัดซื้อขีปนาวุธพิสัยไกล และกำลังเตรียมติดอาวุธและจัดการฝึกอบรมกองกำลังทางทหารของตนเองให้มีขีดความสามารถในการโจมตีเป้าหมายในดินแดนที่อยู่ห่างไกลออกไปในจีน, เกาหลีเหนือ และพื้นที่ส่วนอื่นๆ ในหลายๆ ส่วนของเอเชีย

 

ภายใต้งบประมาณใหม่นี้ ญี่ปุ่นวางแผนพัฒนาเครื่องบินประจันบานขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ทศวรรษ โครงการดังกล่าวนี้มีบริษัท มิตซูบิชิ เฮฟวี อินดัสตรี เป็นหัวหอกดำเนินไปภายใต้ความร่วมมือของบริษัท ล็อคฮีดมาร์ติน ของสหรัฐอเมริกา โดยรัฐบาลจัดสรรงบประมาณใหม่ให้ 706 ล้านดอลลาร์

 

งบฯอีกส่วนราว 323 ล้านดอลลาร์ จะถูกนำไปใช้ในโครงการพัฒนาจรวดพิสัยไกลต่อต้านเรือผิวน้ำ (แอลอาร์เอเอสเอ็ม) สำหรับใช้ในการป้องกันน่านน้ำและหมู่เกาะด้านตะวันตกเฉียงใต้ของจังหวัดโอกินาวา อีกส่วนหนึ่งราว 628 ล้านดอลลาร์ นำไปใช้เพื่อจัดซื้อเครื่องบินขับไล่เอฟ-35 สเตลธ์ ซึ่งผลิตโดยล็อคฮีดมาร์ตินจำนวน 6 ลำ ซึ่งรวมถึงเครื่องบินขับไล่ประเภททางขึ้นบินสั้นและลงจอดในแนวดิ่ง (เอสทีโอวีแอล) หรือ เอฟ-35บี สเตลธ์ที่ซึ่งปรับปรุงจากเอฟ-35 อยู่ด้วย 2 ลำ สำหรับใช้ปฏิบัติการจากเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์

 

กองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่นยังกำหนดใช้งบประมาณอีก 912 ล้านดอลลาร์เพื่อสร้างเรือรบขนาดกระทัดรัดอีก 2 ลำ เป็นเรือรบคอมแพคท์ที่ใช้เจ้าหน้าที่ประจำน้อยกว่าเรือพิฆาตทั่วไป เพื่อลดแรงกดดันจากการขาดแคลนทหารเกณฑ์ใหม่ๆ เมื่อประเทศอยู่ในสังคมสูงอายุ และเรือรบอีก 2 ลำหรับติดตั้งระบบเรดาร์เอจิสเพื่อต่อต้านขีปนาวุธวิถีโค้งรุ่นใหม่ ที่จะมีพิสัยทำการไกลกว่ารุ่นเก่าถึง 3 เท่าตัวอีกด้วย ทั้งนี้เพื่อทดแทนระบบเอจิสภาคพื้นดินที่ตกเลิกไปเมื่อเดือนมิถุนายน (รอยเตอร์)