Black Friday 2025 ปีนี้ยังคงเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่วงการช้อปปิ้งจับตามองมากที่สุด ซึ่งในบทความนี้เราจะเล่าผ่านประสบการณ์ตรง มุมมองส่วนตัว และการวิเคราะห์ดีลแบบที่คนชอบช้อปจริง ๆ จะเข้าใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพูดถึง black friday 2025 ที่ตอนนี้ไม่ได้เหมือนยุคก่อนอีกต่อไป ทั้งรูปแบบดีล แพลตฟอร์มที่แข่งขันกัน และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนเร็วชนิดไล่ไม่ทัน ก่อนเล่า ขอเท้าความนิดนึงว่า ตอนที่เคยอยู่อเมริกา เราต้องตื่นตี 4 เพื่อไปต่อคิวขึ้นห้างช่วง Black Friday อากาศหนาวจนมือชาแต่คนก็ไม่ถอย ภาพคนวิ่งเข้าร้านตอนเปิดไฟครั้งแรกยังติดตาอยู่จนวันนี้ แต่ยุคนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปแทบหมดแล้ว ทั้งประสบการณ์ วิธีกดของ และดีลที่บางทีในไทยยังแรงกว่าอเมริกาด้วยซ้ำ และนี่คือมุมมองของเราต่อ black friday 2025 ปีนี้ ว่ามันน่าจับตาตรงไหน อะไรน่าซื้อ อะไรควรเลื่อน และอะไรที่คนไทยได้ประโยชน์มากกว่าที่คิด Black Friday ปีนี้ไม่ใช่แค่ “วันลดราคา” แต่เป็น “ซีซันช้อปปิ้งแบบต่อเนื่อง” ประสบการณ์ที่เห็นชัดที่สุดคือ ปี 2025 ไม่มีร้านไหนรอถึงวันศุกร์อีกแล้ว ทุกแพลตฟอร์มเริ่มดีลตั้งแต่ต้นพฤศจิกายน ทั้ง Amazon, Target, Best Buy รวมถึงแพลตฟอร์มไทยอย่าง Lazada และ Shopee ก็ขยับไวกว่าทุกปี จากมุมผู้บริโภค มันดีตรงที่เราไม่ต้องตื่นตี 4 ไปต่อคิวแบบยุคก่อน แต่ข้อเสียก็มีเหมือนกันคือดีลเยอะจนมึน ไม่รู้ว่าอะไรถูกจริงหรือถูกปลอม ทำให้คนต้องใช้สกิล เทียบราคามากขึ้น อย่างเราเองกว่าจะซื้ออะไรสักอย่าง ต้องเทียบมันทุกแพลตฟอร์ม ประสบการณ์ล่าดีล Black Friday ของเราในยุคก่อน vs วันนี้ ตอนที่เคยอยู่อเมริกา การไปช้อป Black Friday คืออีเวนต์ประจำปีที่ต้องมีเพื่อนร่วมทีม ทุกคนเตรียม list เตรียมรองเท้าผ้าใบ เตรียมแผนวิ่งเหมือนแข่งกีฬา แต่วันนี้เราเปลี่ยนจากวิ่งเข้าห้าง มาเป็นกดของในมือถือแทน ซึ่งสะดวกขึ้นมาก แต่ก็ต้องทำการบ้านอย่างหนักกว่าก่อน ข้อสังเกตปี 2025: ดีลทิพย์ยังมีเยอะ ราคาไม่ต่างจากช่วง mid-year sale ดีลแท้ส่วนใหญ่ซ่อนอยู่ในหมวดเทคโนโลยี เครื่องใช้ไฟฟ้า และสินค้าเฉพาะกลุ่ม ของแฟชั่นราคาหน้าสนใจ แต่ไม่ใช่ “ดีที่สุดของปี” ดีลไทยบางอย่างถูกกว่าอเมริกา เช่น เครื่องสำอาง สกินแคร์ และอุปกรณ์ครัว พูดตรง ๆ คือเราไม่ค่อยตื่นเต้นเหมือนเมื่อก่อนแล้ว แต่ยังสนุกกับการช้อป เพราะมันกลายเป็นเกมวัดไหวพริบมากกว่าแค่ลดราคา Black Friday 2025 ควรช้อปอะไร ควรข้ามอะไร แม้จะไม่ได้ลงรายละเอียดเป็นลิสต์แบบ "ดีลนี้ดี ดีลนั้นปัง" แต่จากประสบการณ์ล่าดีลหลายปี ขอสรุปเป็นมุมมองพอให้วางแผนในปีนี้ น่าช้อป อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รุ่นเก่า 1 generation สมาร์ทโฮม เช่น หลอดไฟอัจฉริยะ อุปกรณ์ปลั๊กไฟ อุปกรณ์ออกกำลังกายแบบ home workout ของเฉพาะกลุ่ม เช่น กล้อง, เลนส์, อุปกรณ์ตั้งไฟ ควรระวัง สกินแคร์ที่เอามาเป็น "set" เพราะราคาจริงอาจไม่ได้ต่างจากโปรปกติ เสื้อผ้าที่ติดป้าย Black Friday แต่ความจริงลดนิดเดียว ดีลที่บอก “จำนวนจำกัด” แต่มีทั้งวัน (อันนี้เคยโดนหลอกมาแล้ว) ประสบการณ์แบบมือเก่าที่อยากแชร์ให้มือใหม่ ในฐานะคนที่เคยทั้งวิ่งเข้าห้างตี 4 และตอนนี้มาเป็นสายช้อปออนไลน์เต็มตัว อยากสรุปเทคนิคที่ใช้แล้วได้ผลจริงในยุคนี้ 1. เช็กราคาก่อนหน้าอย่างน้อย 7 วัน บางดีลแอบเล่นราคาขึ้นก่อนลด เช็คให้ดีว่า “ราคาต่ำสุดจริงไหม” 2. ของชิ้นใหญ่ให้เช็กค่าส่งก่อนตัดสินใจ บางทีราคาถูกมาก แต่ค่าส่งเรียกสติกลับมาทันที 3. อย่าซื้อเพราะกลัวหมด ยุคนี้ดีลเด้งวนทั้งซีซัน ถ้าพลาดวันนี้ อาทิตย์หน้าอาจมีอีกรอบ D-Day Mid-Month Payday วนมาทุกเดือน 4. เลือกแพลตฟอร์มที่เคยมีปัญหาน้อยที่สุดกับเรา ประสบการณ์ตรง บางเว็บคืนเงินเร็ว บางเว็บตามเรื่องเป็นเดือน ใครที่พร้อมช้อปแล้วก็สามารถนำทริค และประสบการณ์ตรงเหล่านี้ไปใช้ได้เลยนะ สนุกมากกว่าเคยแน่นอนค่ะ เครดิตภาพ ภาพปก canva.com ภาพประกอบทั้งหมดโดยครีเอเตอร์ เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !