"AAV" เข้าสู่ช่วง Turnaround โบรกฯ ชี้เด่นสุด ฟรีวีซ่าไทย-จีน
#ทันหุ้น - บล.หยวนต้า ส่องหุ้น AAV เป็นผู้เล่นที่ได้ประโยชน์สูงสุดจากประเด็นยกเว้นวีซ่าระหว่างกันของไทย-จีน เนื่องจากมี Exposure ทั้งในแง่ของนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทยและนักท่องเที่ยวไทยเข้าจีน ใน Q3/66 จำนวนเที่ยวบินระหว่างไทย-จีนของ AAV เฉลี่ยอยู่ที่ 84 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ คิดเป็น Market Share ในแง่ของ Capacity Seat เส้นทางบินไทย-จีนราว 30% สูงกว่าช่วง Pre COVID-19 ที่ 11% และบริษัทมีแผนที่จะเพิ่มจำนวนเที่ยวบินจีนกลับไปใกล้เคียงช่วง Pre COVID-19 ที่ระดับ 140 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ภายใน Q1/67
ขณะที่ผู้เล่นอื่นในกลุ่มท่องเที่ยวได้ประโยชน์จากประเด็นดังกล่าวเพียงความคาดหวังการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจีนเข้าไทยกลับสู่ระดับ Pre COVID-19 ได้เร็วขึ้นในปี 2567 อย่างไรก็ตามนักท่องเที่ยวจีนในปี 2566 รายงานที่ 3.5 ล้านคน (ปี 2562 อยู่ที่ 11 ล้านคน) สะท้อนว่าการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจีนยังเกิดขึ้นช้า แม้จะมีมาตรการฟรีวีซ่าตั้งแต่ต.ค.66 แต่การฟื้นตัวยังค่อยเป็นค่อยไป และภาวะเศรษฐกิจจีนในปัจจุบันยังมีความเสี่ยง นักลงทุนอาจเก็งกำไรหุ้นที่พึ่งพิงการท่องเที่ยวในไทยจากประเด็นดังกล่าวได้แต่ประเมินประโยชน์ที่ได้ไม่เด่นเท่า AAV และหุ้นส่วนใหญ่มี Upside จำกัด
*Q4/66 โต QoQ,YoY
แนวโน้มผลประกอบการระยะสั้น เบื้องต้นฝ่ายวิจัยคาดใน Q4/66 AAV มีโอกาสกลับมารายงานกำไรปกติได้ เติบโตทั้ง QoQ YoY ผลบวกจาก 1) การเข้า High Season หนุนให้ค่าบัตรโดยสารเฉลี่ย (Avg Fare) คาดเพิ่มขึ้นราว 15-20% QoQ ประกอบกับ Load Factor คาดสูงกว่า 90% (Q3/66 อยู่ที่ 90%) 2) ต้นทุนน้ำมันเครื่องบินลดลง ตามทิศทางราคาน้ำมันดิบและ Crack Spread ที่ปรับตัวลงอิงข้อมูลจาก Bloomberg Consensus ราคาน้ำมัน Jet Fuel ใน Q4/66 ปรับตัวลงราว 8% QoQ ขณะที่ในแง่ของกำไรสุทธิ จากค่าเงินบาท/USD ณ วันสิ้นงวด Q4/66 แข็งค่าขึ้นเทียบ Q3/66 คาดทำให้เกิดรายการพิเศษ กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนราว 1.5-2.0 พันล้านบาท หนุนให้กำไรสุทธิเติบโตเด่นใน Q4/66
*ปี 67 คาดกำไร 1.3 พันล.
ฝ่ายวิจัยคงมุมมองบวกต่อผลประกอบการปี 2567 ของ AAV คาดเห็นการฟื้นตัวเด่นตามจำนวนเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้นสอดคล้องกับการฟื้นตัวภาคการท่องเที่ยว และแรงหนุนจากแนวโน้มต้นทุนน้ำมันที่ลดลง YoY คงประมาณการ คาดกำไรปกติปี 2567 ที่ 1.3 พันล้านบาท
*แนะซื้อ เคาะเป้า 2.60 บ.
คงราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2567 ที่ 2.60 บาทต่อหุ้น ปัจจุบันหุ้นซื้อขายบน PER2567 ที่ราว 20 เท่า และบน EV/EBITDA ปี 2567 เพียง 6.4x ใกล้เคียง -2SD ของค่าเฉลี่ยช่วง Pre COVID-19 สะท้อนปัจจัยลบจากงบอ่อนแอ, ราคาน้ำมันขึ้นและนักท่องเที่ยวจีนฟื้นตัวไม่เด่นไปมากแล้ว ทั้งนี้คาดผลประกอบการที่ผ่านจุดต่ำสุดและกำลังเข้าสู่ช่วง Turnaround เป็นปัจจัยที่ช่วยจำกัด Downside ของราคาหุ้น คงคำแนะนำ “ซื้อ”
ด้านความเสี่ยง นักท่องเที่ยวต่ำคาด, เศรษฐกิจถดถอยรุนแรง, ราคาน้ำมันผันผวน และการแข่งขันด้านราคาในระยะถัดไป