เรื่องของชีวิตจิตใจสัตว์หลากหลายในโลกที่มีอารมณ์ ความรู้สึก ซึ่งมนุษย์สัมผัสได้เขียนโดย : เจฟฟรีย์ มูไซเอฟ แมสสัน / ซูซาน แมคคาธีบรรณาธิการแปล : รศ.วราพร สุรวดีแรงบันดาลใจจากผู้จัดทำก่อนที่ผู้แปลจะตัดสินใจจัดทำแปลหนังสือเล่มนี้ ผู้แปลเคยอ่านบทความเรื่องภาษา ความคิด จิตวิญญาณ ของนายแพทย์ประสาน ต่างใจ ได้กล่าวถึงความเข้าใจผิดของคนทั่วไปและนักวิทยาศาสตร์บางท่านคิดว่าภาษา ความคิด จิตวิญญาณ นั้นเป็นคุณสมบัติเฉพาะของมนุษย์เท่านั้น สัตว์ พืช สิ่งมีชีวิตอื่นไม่มีสิทธิที่จะมี แต่ในยุคของคนรุ่นใหม่แห่งคริสต์ศตวรรษที่ 21 ความคิดที่ว่าถือว่าเก่าตกยุคไปแล้ว เมื่อเห็นอย่างนี้ตัวของผู้แปลเห็นถึงความคิดที่ตรงกับตัวผู้เขียนจึงตัดสินใจแปลหนังสือเล่มนี้ในตัวของหนังสือเล่มนี้มีทั้งหมด 11 บท ด้วยกันเนื้อหาน่าสนใจ น่าอ่าน น่าติดตาม อ่านแล้วทำให้เราได้นึกซึ้งถึงความเป็นมนุษย์และรู้ถึงสัจธรรม ในตัวเรื่องราวที่ผู้เขียนได้ถ่ายทอดมาสู่ผู้อ่านนั้นทำให้เราเข้าใจในคำว่า "สิทธิสัตว์" ได้อย่างชัดเจน เข้าใจง่าย และไม่ใช่แค่เข้าใจถึงสิทธิสัตว์เท่านั้นยังมีทั้งเรื่อง ความรู้สึก นึกคิด โกรธ มีความสุข อารมณ์ทุกอย่างที่มนุษย์มี เราจะได้เข้าใจเขามากขึ้น ต่อจากนี้เราจะสรุปเนื้อหาสั้นๆกระชับเข้าใจง่ายได้ใจความให้เพื่อนๆได้ลองอ่าน 3 บทด้วยกัน ไปกันเลยบทที่ 1 ขอเป็นปากเสียงให้ "อารมณ์" ความซับซ้อนของอารมณ์ อารมณ์ต่างๆน้อยนักที่จะเกิดขึ้นเพียงทีละอารมณ์แยกออกต่างหากจากอารมณ์อื่นๆเมื่อพูดถึงมนุษย์ อารมณ์โกรธและกลัว กลัวและรัก รักและอับอาย อับอายและเสียใจ มักจะเกิดพร้อมกันได้ ประสมประสานปนเปกันไป ในสถานการณ์บางอย่างโดยเฉพาะสัตว์ก็อาจจะมีอารมณ์ปนเปกันได้หลายอารมณ์เช่นเดียวกันกับเรา อย่างเช่น ปลาโลมาที่แบกลูกน้อยที่ตายแล้วไปด้วยทุกหนทุกแห่งเป็นเวลาหลายวัน คงจะรู้สึกทั้งรักและเศร้า ส่วนในแง่ชีววิทยาเชิงสังคมยังระบุไว้อีกว่าสัตว์พันธุ์ในพันธุ์หนึ่งที่แสดงพฤติกรรมที่คนเหล่านั้นอยากจะชี้ว่าเป็นธรรมชาติของมนุษย์ แต่สัตว์ต่างพันธุ์ก็อาจมีอารมณ์ต่างๆกันไป หลักฐานที่ยืนยันว่าช้างมีความรู้สึกสงสาร เห็นอกเห็นใจ หรือรู้สึกเศร้าโศก ไม่ได้หมายความว่าช้างมีความสงสาร เห็นอกเห็นใจ หรือนกเพนกวินรู้สึกเศร้าโศก บางทีอาจจะเหมือนก็ได้ บางทีก็อาจจะไม่ใช่ผู้แปล - วราพร สุรวดี บทที่ 2 สัตว์ร้ายไร้ "อารมณ์"เดียรฉานไร้ความรู้สึก การที่สัตว์ถูกถือเอาว่าไม่มีความรู้สึกรู้สมได้ ถูกใช้มาเป็นข้อแก้ตัวสำคัญที่จะกระทำต่อมันอย่างเลวร้ายสุดโต่งที่ถือกันมานานคือว่า มันไม่รู้สึกเจ็บ ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ แต่เมื่อสัตว์ถูกทำร้ายด้วยวิธีเดียวกับการทำร้ายคน มันก็จะแสดงปฎิกิริยาโต้ตอบโดยทั่วไปได้มากเท่าๆกับมนุษย์นั่นแหละ มันร้องครวญครางหนีหัวซุกหัวซุน มันรู้จักค้นหาหรือชอบทำให้ดีด้วย หลบเลี่ยงและพักผ่อน ในเมื่อรู้แบบนี้แล้วทำไมมนุษย์ยังทำกับพวกเขาได้ลงคอกัน สัตวแพทย์ไม่มีข้อสงสัยว่าสัตว์ที่บาดเจ็บจะรู้สึกเจ็บหรือเปล่า จึงให้ยาบรรเทาความเจ็บและยาสลบในการรักษาผู้แปล - วราพร สุรวดีบทที่ 3 ความกลัว ความหวัง และฝันร้ายเดียวดายและหลงทาง สำหรับสัตว์สังคม หรือลูกอ่อนของสัตว์ส่วนมาก ความว้าเหว่นำไปสู่ความกลัว ความกลัวที่ต้องอยู่ตัวคนเดียวบางครั้งยากที่แยกออกจากความกลัว ธอมัส เบลดชู พบการหลงทางของวิงนัท ลูกหมีตัวสีน้ำตาลขี้ขลาดตัวนั้นในแม่น้ำแมคนึล เขาบอกว่ามันขี้กลัวอย่างที่พูดกันว่าแม้กระทั่งเงาของตัวเอง มันกลัวการถูกทิ้งให้อยู่ตัวเดียวมันจะร้องโหยหวน อย่างต่อเนื่องทุกครั้งที่แม่ของมันไม่อยู่ข้างกายมัน อาจเป็นไปได้เช่นกันว่าประสบการณ์เก่าก่อนอยู่เบื้องหลังปฎิกิริยา ปลาโลมาแปซิฟิกชื่อเกยกิที่เคยอาศัยอยู่ในสวนสัตว์ทะเล เมื่อถูกปล่อยลงอ่าวที่อยู่ใกล้เคียง แยกจากพรรคพวกไปสู่สถานีที่ที่มันไม่เคยรู้จัก เกยกิเต็มไปด้วยความกลัว ฟันสั่นกระทบกันและตาก็กลอกไปมา ชั่งหน้าสงสารเสียจริงๆผู้แปล - วราพร สุรวดีในแต่ละบทที่ได้นำมาเขียนให้เพื่อนๆได้อ่านเป็นเพียงเนื้อหาบางส่วนของบทนั้นๆเท่านั้นในแต่ละบทยังมีบทความหรือเรื่องราวมากมายน่าติดตามอีกมากมายให้เพื่อนๆได้อ่านกัน ส่วนอีก 8 บทเดี๋ยวเราจะลงชื่อบทแต่ละบทให้ได้อ่านกันนะคะบทที่ 4 : ความรักและมิตรภาพ (ปาริชาต สุขุม แปล)บทที่ 5 : ความเศร้า โศกสลด และโครงกระดูก (พิสิษฐ์ ณ พัทลุง แปล)บทที่ 6 : ความสามารถในการมีสุขสันต์ (พิสิษฐ์ ณ พัทลุง แปล)บทที่ 7 : การบันดาลโทสะ การวางอำนาจ และการรุณกรรมในยามสงบและในยามทำศึก (วิภาศรี สมิธพงศ์ แปล)บทที่ 8 : ความสงสาร การช่วยชีวิต และข้อถกเถียงเรื่องความเมตตา (วิภาศรี สมิธพงศ์ แปล)บทที่ 9 : ความอาย ความเขิน และความลับที่แอบซ่อน (พ.ญ. นันทิกา ทวิชาชาติ แปล)บทที่ 10 : ความสวยงาม หมี และพระอาทิตย์ตกดิน (พ.ญ. นันทิกา ทวิชาชาติ แปล)บทที่ 11 : แรงศรัทธาทางศาสนา ความเป็นธรรมและสิ่งที่ไม่สามารถแสดงออกได้ (ธนพรรณ สินธิสุนทร แปล)บทสรุป สัตว์โลกทั้งหลาย เราอยู่ร่วมกันได้ภาคที่ใฝ่ฝัน อาจจะอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมมือ แต่จะเป็นจริงหรือไม่เราต้องเป็นฝ่ายให้บางอย่างกับสัตว์ก่อน นั่นคือการไม่ข่มเหงรังแกสิ่งมีชีวิตทุกชนิด สัตว์ไม่ได้มีไว้ให้เราเจาะรู จับขึง ตัดเป็นส่วนๆ หน่วงเหนี่ยวกักขังให้ช่วยตัวเองไม่ได้และนำไปทรมานให้เจ็บปวดในการทดลอง เราเป็นหนี้พวกมัน อย่างน้อยที่สุดที่เราทำได้คือควรหยุดการทำร้ายมันต่อไป หรือไม่ก็ไม่ควรไปยุ่งกับมัน เมื่อสัตว์ทั้งหลายไม่ต้องตกเป็นทาสอาณานิคมของมนุษย์อีกต่อไป เมื่อนั้นเราจะยื่นมือไปหาญาติทางวิวัฒนาการของเรา อาจบรรลุความหวังที่จะมีความผูกพันทางอารมณ์เชื่อมโยงกับสิ่งมีชีวิตต่างชนิด มีความใกล้ชิดและร่วมความรู้สึกกันได้ไกลเหนือขอบเขตที่จะจินตนาการเครดิตภาพ ภาพหน้าปก โดยผู้เขียนภาพที่ 1 by malaibooksภาพที่ 2 / 3 / 4 โดยผู้เขียนภาพที่ 5 mbilyk by pixabay.com7-11 Community ห้องลับเมาท์มอยของกินของใช้ในเซเว่น อะไรดีอะไรใหม่ ต้องรู้ ต้องคุย ต้องแชร์